หญิงวัย55 โดนชนแล้วหนี ตอนนี้เจ็บหนักดามเหล็กที่ขายังเดินไม่ได้ ตัดพ้อตำรวจ เพราะจนใช่มั้ย ถึงไม่สนใจคดี ยังจับคนร้ายไม่ได้

วันที่ 20 ต.ค. 64 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นางสาวเสงี่ยม ตุมกา อายุ 55 ปี พักอาศัยอยู่ที่ห้องเช่า ภายในการเคหะชุมชนมหาชัย อ.เมือง จ.สมุทรสาคร หลังได้รับแจ้งว่า หญิงสูงวัยคนดังกล่าว ประสบอุบัติเหตุถูกรถจักรยานยนต์พุ่งชนจนได้รับบาดเจ็บสาหัส ส่วนคู่กรณีหนีหาย ภายหลังเกิดเหตุยังไม่ได้รับการติดต่อกลับมาจากเจ้าหน้าที่ตำรวจเพื่อแจ้งความคืบหน้า ทั้งที่
อุบัติเหตุเกิดขึ้นมานานนับเดือนแล้ว

ขณะนี้ นางสาวเสงี่ยม ผู้เสียหาย กลับมาพักรักษาตัวอยู่ภายในห้องเช่าระยะหนึ่งแล้วนั้น ยังคงมีร่องรอยบาดแผลตามร่างกายหลายแห่ง ส่วนบริเวณที่ยังคงเป็นแผลใหญ่ฉกรรจ์อยู่คือ ที่ขาข้างซ้ายต้องดามเหล็กไว้ ไม่สามารถขยับร่างกายไปไหนได้ด้วยตนเอง ต้องมีคนคอยช่วย

นางสาวเสงี่ยม กล่าวว่า ตนได้รับอุบัติเหตุเมื่อช่วงเช้าของวันที่ 19 ก.ย. 64 ขณะที่กำลังยืนรอรถโดยสารประจำทางอยู่ริมถนน เพื่อไปทำงานที่โรงงาน ก็ปรากฏว่ามีรถจักรยานยนต์พุ่งมาชนจนล้มลงแล้วก็หมดสติวูบไป มารู้สึกตัวอีกทีก็ตอนนอนรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลแล้ว แต่จากการสอบถามเพื่อน ๆ ที่ยืนรอรถอยู่ด้วยกันเล่าว่า รถจักรยานยนต์ที่พุ่งมาชนนั้นมีแรงงานต่างด้าวเป็นคนขี่ ซึ่งก็ได้รับบาดเจ็บเหมือนกัน

หลังจากที่ตนรู้สึกตัวฟื้นขึ้นมาแล้ว ก็ได้มอบหมายให้หลานชายนำคลิปภาพวิดีโอที่ผู้อยู่ในเหตุการณ์ถ่ายไว้ พร้อมกับภาพนิ่งเป็นรถจักรยานยนต์ของผู้ก่อเหตุ เข้าแจ้งความไว้ที่ สภ.เมืองสมุทรสาคร เพื่อติดตามหาคู่กรณีมารับผิดชอบสิ่งที่เกิดขึ้น แต่ปรากฏว่ากลับไม่ได้รับทราบความคืบหน้าในคดีเลย เมื่อให้หลานชายไปตามทวงถามจากเจ้าหน้าที่ตำรวจผู้รับผิดชอบคดีถึง 2 ครั้ง ก็ได้รับคำตอบแค่ว่า รถจักรยานยนต์คันดังกล่าว พ.ร.บ.ขาด

ส่วนคู่กรณีที่เป็นแรงงานข้ามชาติก็หนีออกจากโรงพยาบาลไปแล้ว และอีกคำตอบคือ กำลังอยู่ระหว่างการติดตามตัวคู่กรณี จากนั้นก็เงียบหายไปและไม่เคยได้รับการติดต่อจากเจ้าหน้าที่ตำรวจทั้งทางตรง หรือทางโทรศัพท์ ซึ่งทำให้ตนเสียความรู้สึกเป็นอย่างมาก ว่า “ทำไมตนเป็นคนไทยที่ฐานะจนหรืออย่างไร ถึงไม่ได้รับความสนใจจากเจ้าหน้าที่ตำรวจในการติดตามคดีให้ ไม่ว่าคดีจะมีความคืบหน้ามากน้อยเพียงใด หรืออาจจะยังไม่มีอะไรเลย แต่ถ้าได้รับทราบเป็นระยะ ๆ จากเจ้าหน้าที่ตำรวจบ้าง ก็ยังจะรู้สึกดีกว่าที่เงียบหายไปนานนับเดือนเช่นนี้

นางสาวเสงี่ยม กล่าวต่อว่า ทุกวันนี้ตนเครียดมากทั้งจากเรื่องของคดีที่เงียบหาย และยังไม่สามารถทำงานได้ แต่โชคดีที่ได้นายจ้างเมตตาให้การดูแลเป็นอย่างดีเสมือนลูกจ้างทุกคนเป็นคนในครอบครัว โดยทั้งส่งคนในโรงงานมาพาตนไปหาหมอเพื่อล้างแผลทุกวัน และยังให้การดูแลเรื่องของอาหาร กับอุปกรณ์ที่จำเป็นต้องใช้ในขณะพักรักษาตัวเช่น ผ้าอ้อมสำหรับผู้ใหญ่ และของใช้อื่น ๆ อีกด้วย

ทั้งนี้ตนก็ยังอยากจะให้เจ้าหน้าที่ตำรวจเห็นใจคนจน ๆ คนหนึ่ง ที่ต้องทำงานหาเลี้ยง ตนเองและครอบครัว ช่วยติดตามตัวคู่กรณีรายนี้มาให้ที หรือแจ้งความคืบหน้ามาบ้างก็ยังดี อย่าเงียบหายไม่ติดต่ออะไรมาเลย

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน