จากกรณีที่นายอาทิตย์ จักรคุ้ม หรือท็อป ฮาวดี้ อายุ 26 ปี หนุ่มชาว อ.แคนดง จ.บุรีรัมย์ ไลฟ์สดผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว ขณะลงมือก่อเหตุใช้น้ำมันราดและจุดไฟเผาบ้านของนายหัส โพธิ์เงิน เพื่อทวงเงินจากลูกชายของนายหัส พร้อมใช้คำพูดข่มขู่ว่ายืมเงินแล้วไม่คืนก็จะโดนเผาบ้านแบบนี้ จนทำให้ฝาบ้านได้รับความเสียหาย เมื่อวันที่ 9 ธ.ค.ที่ผ่านมา หลังก่อเหตุเจ้าหน้าที่ได้พยายามติดตามตัวนายอาทิตย์ พร้อมขออนุมัติศาลออกหมายจับ จนสามารถจับกุมได้ พร้อมกับนายคมสัน พรมสุรินทร์ อายุ 27 ปี ผู้ต้องหาอีกคนที่เป็นคนถ่ายคลิปในวันก่อเหตุได้เมื่อวันที่ 13 ธ.ค.ที่ผ่านมา ซึ่งขณะนี้ทั้งสองถูกควบคุมตัวอยู่ที่ สภ.แคนดง

ซึ่งคดีดังกล่าวอยู่ในความสนใจของประชาชน และมีการโพส์ตแสดงความคิดเห็นทางสื่อสังคมออนไลน์อย่างกว้างขวาง ส่วนมากต่างต่อว่าถึงการกระทำของนายอาทิตย์ว่ากระทำรุนแรงเกินกว่าเหตุ แต่หลายคนก็อยากจะรู้ชนวนเหตุที่แท้จริงว่าเกิดอะไรขึ้น ซึ่งตัวละครสำคัญของเรื่องนี้คือลูกชายเจ้าของบ้านที่ถูกเผาที่จะออกมาเปิดเผยสาเหตุที่แท้จริงได้

ล่าสุดเมื่อวันที่ 15 ธ.ค. นายวรายุทธ โพธิ์เงิน อายุ 29 ปี ลูกชายเจ้าของบ้านที่ถูกท็อป ฮาวดี้ จุดไฟเผาเพื่อทวงหนี้ ให้สัมภาษณ์กับสื่อเป็นครั้งแรกหลังจากเกิดเรื่อง โดยนายวรายุทธ ยอมรับว่า เป็นหนี้แม่ของท็อปจริง 10,000 บาท แต่ไม่ได้เป็นการกู้ยืม เป็นเงินที่แม่ท็อปนำมาจ่ายค่าประกันตัวให้กับท็อปและตัวเอง ที่ถูกจับข้อหาเสพสารเสพติด เมื่อวันที่ 10 ต.ค.ที่ผ่านมา โดยจะต้องจ่ายค่าประกันตัวพร้อมกันทั้ง 2 คน แต่ตอนนั้นตนไม่มีเงิน แม่ท็อปจึงออกเงินให้ก่อน โดยให้ตนทำสัญญาต่อหน้าเจ้าหน้าที่ตำรวจไว้ว่าเป็นหนี้แม่ท็อป 10,000 บาท โดยไม่มีดอกเบี้ย

นายวรายุทธ กล่าวต่อว่า ซึ่งในสัญญาระบุว่าให้ชำระคืนภายในวันที่ 10 ธ.ค.ที่ผ่านมา แต่ตนยังไม่มีกำหนดวันที่จ่ายคืนตามสัญญา โดยท็อปก็มาเผาบ้านข่มขู่ อีกทั้ง ก่อนหน้านี้แม่ท็อปก็ให้ตนไปกรีดยางเพื่อใช้หนี้ แต่กรีดได้ 6 วันก็บอกให้หยุด จึงไปทำงานรับจ้างอย่างอื่นเพื่อจะหาเงินมาใช้หนี้ ไม่ได้มีเจตนาจะเบี้ยว อย่างไรก็ตาม เรื่องราวที่เกิดขึ้นตนไม่ได้บอกครอบครัว เพราะไม่อยากให้พ่อแม่ไม่สบายใจ แต่ไม่คิดเรื่องจะรุนแรงบานปลายขนาดนี้

“ไม่ได้เป็นหนี้ครอบครัวท็อปถึง 100,000 บาท และไม่เคยไปเอาเงินมาสร้างบ้านตามที่ท็อปกล่าวอ้างเลย และที่ออกมาให้สัมภาษณ์ เพราะอยากให้สังคมเข้าใจ แต่ยอมรับว่ากลัวจะถูกท็อปกลับมาล้างแค้น หรือทำร้ายครอบครัว เพราะท็อปเป็นคนชอบใช้ความรุนแรง แต่ก็อยากถามท็อปว่า เป็นเพื่อนกันจริงไม่น่าทำรุนแรงขนาดนี้ หากตนอยู่ในบ้านแล้วถูกไฟเผาจะเป็นยังไง เพื่อนกันจริงทำไมทำแบบนี้ จิตใจทำด้วยอะไร” นายวรายุทธ กล่าว

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากนั้นนายวรายุทธ ก็ได้ก้มกราบเท้าพ่อ เพื่อขอโทษที่เป็นต้นเหตุทำให้ถูกเผาบ้านเสียหาย พร้อมรับปากกับพ่อว่า จะพยายามทำงานหาเงินมาใช้หนี้จำนวน 10,000 บาท คืนแม่ท็อป เพื่อจะได้ไม่เกิดปัญหาขึ้นอีก

ด้าน พ.ต.อ.สัมภาษณ์ ศรีจันทึก ผกก.สภ.แคนดง กล่าวว่า ทางพนักงานสอบสวนจะได้นำตัวผู้ต้องหาทั้งสอง ส่งฝากขังที่ศาลจังหวัดบุรีรัมย์ในวันนี้ โดยที่ต้องเลื่อนส่งฝากขังเนื่องจากสอบปากคำและรวบรวมหลักฐานเสร็จไม่ทัน ซึ่งจนถึงขณะนี้ก็ยังไม่มีญาติมายื่นขอประกันตัวแต่อย่างใด

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน