ปภ.ออกประกาศเตือน 37 จังหวัด เฝ้าระวังเข้ม น้ำหลาก ดินถล่ม ช่วงวันที่ 28 ต.ค.-3 พ.ย. ย้ำให้ติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด พร้อมปฏิบัติงานทันที

วันที่ 26 ต.ค.2564 กองอำนวยการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยกลาง (กอปภ.ก) ได้รับแจ้งจากกองอำนวยการน้ำแห่งชาติได้ประเมินและวิเคราะห์สถานการณ์น้ำจากแผนที่ฝนคาดการณ์ของกรมอุตุนิยมวิทยาและสถาบันสารสนเทศทรัพยากรน้ำ (องค์กรมหาชน) และคาดการณ์พื้นที่เสี่ยงเฝ้าระวังดินถล่มและน้ำป่าไหลหลากของกรมทรัพยากรน้ำและกรมทรัพยากรธรณี พบว่าในช่วงวันที่ 28 ต.ค. -3 พ.ย. มีพื้นที่เสี่ยงเฝ้าระวังอุทกภัยทั้งหมด 37 จังหวัด

โดยกลุ่มแรกเป็นพื้นที่เฝ้าระวังน้ำหลาก ดินถล่ม ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ได้แก่ เลย จ.ขอนแก่น และ จ.ชัยภูมิ ภาคกลาง ได้แก่ จ.กาญจนบุรี จ.ราชบุรี จ.ระยอง จ.จันทบุรีและจ.ตราด ทางภาคใต้ ได้แก่ จ.สุราษฎร์ธานี จ.นครศรีธรรมราช จ.สงขลา จ.ระนอง จ.พังงา จ.ตรัง และจ.สตูล

กลุ่ม 2.พื้นที่เฝ้าระวังระดับน้ำในอ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่และขนาดกลาง ที่มีปริมาณน้ำมากกว่าร้อยละ 80 และมีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้น เสี่ยงน้ำล้น กระทบพื้นที่บริเวณท้ายอ่างเก็บน้ำ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ได้แก่ จ.ขอนแก่น จ.ชัยภูมิ จ.นครราชสีมา จ.บุรีรัมย์ และจ.อุบลราชธานี

ภาคกลาง ได้แก่ จ.ลพบุรี จ.สระบุรี จ.กาญจนบุรี จ.สุพรรณบุรี จ.ชลบุรี จ.นครนายก จ.ปราจีนบุรี จ.ระยอง จ.จันทบุรี จ.เพชรบุรี และจ.ประจวบคีรีขันธ์ ภาคใต้ ได้แก่ จ.สุราษฎร์ธานี จ.ยะลา จ.ระนอง จ.ภูเก็ต จ.กระบี่และจ.ตรัง

3.พื้นที่เฝ้าระวังระดับน้ำล้นตลิ่ง และท่วมขังบริเวณพื้นที่ลุ่มต่ำมีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้น ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ บริเวณแม่น้ำมูล ได้แก่ จ.นครราชสีมา จ.บุรีรัมย์ จ.สุรินทร์ จ.ศรีสะเกษ และจ.อุบลราชธานี ลำน้ำพรม ได้แก่ จ.ชัยภูมิ แม่น้ำพองได้แก่ จ.ขอนแก่น และแม่น้ำชี ได้แก่ จ.ชัยภูมิ จ.ขอนแก่น จ.มหาสารคาม จ.กาฬสินธุ์ จ.ร้อยเอ็ด จ.ยโสธร และจ.อุบลราชธานี

ภาคกลาง บริเวณแม่น้ำป่าสัก ได้แก่ จ.พระนครศรีอยุธยา แม่น้ำลพบุรี ได้แก่ จ.ลพบุรี แม่น้ำท่าจีน ได้แก่ จ.สุพรรณบุรี และจ.นครปฐม แม่น้ำเพชรบุรี ได้แก่ จ.เพชรบุรี แม่น้ำปราณบุรีและแม่น้ำบางสะพาน ได้แก่ จ.ประจวบคีรีขันธ์ ภาคใต้ บริเวณแม่น้ำตาปี ได้แก่ จ.สุราษฏร์ธานีและคลองท่าดี ได้แก่ จ.นครศรีธรรมราช

กอปภ.ก. จึงได้แจ้งให้ 37 จังหวัดและศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเขต เฝ้าระวังและติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด และประสานองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นแจ้งเตือนประชาชนในพื้นที่เสี่ยงภัยทราบล่วงหน้า ให้จัดเตรียมเครื่องมือเครื่องจักรกลสาธารณภัยและทีมปฏิบัติการเข้าประจำพื้นที่เสี่ยงให้พร้อมเผชิญเหตุและช่วยเหลือประชาชนในพื้นที่ทันที หากมีแนวโน้มจะเกิดสถานการณ์รุนแรงในพื้นที่ ให้จังหวัดดำเนินการตามแผนเผชิญเหตุอย่างเคร่งครัด

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน