น้ำชียังท่วม ซัดถนนขาด ชาวบ้าน 6 หมู่บ้านกว่า 700 หลังคาเรือน ไปไหนไม่ได้ เจ้าหน้าที่เร่งสร้างสะพานข้ามจุดที่ถูกน้ำกัดเซาะ แก้ไขสถานการณ์อย่างเร่งด่วน

เมื่อวันที่ 28 ต.ค.64 นายศักดิ์ดา ต้นคชสาร นายอำเภอชนบท จ.ขอนแก่น พร้อมด้วยนายวรโชติ กล่อมจิต ปลัด อบต.ศรีบุญเรือง อ.ชนบท จ.ขอนแก่น นั่งเรือลงพื้นที่สำรวจถนนและพนังดินกั้นน้ำชีกับหมู่บ้าน ในพื้นที่ ต.ศรีบุญเรือง ชนบท และ ต.หนองกองแก้ว หลังจากมวลน้ำจากจังหวัดชัยภูมิไหลมาลงที่ลำน้ำชี จนทำให้น้ำชีล้นตลิ่ง เอ่อเข้าท่วมพื้นที่การเกษตรและท่วมหมู่บ้าน รวมถึงไหลเข้าในหนองกองแก้ว น้ำจากหนองกองแก้ว เอ่อล้นคันคูกั้น น้ำทะลักซัดถนนพังทั้งสาย ชาวบ้าน 6 หมู่บ้านเกือบ 700 หลังคาเรือน ถูกตัดขาดจากภายนอก เนื่องจากเข้าออกหมู่บ้านไม่ได้

ซึ่งจากการนั่งเรือตรวจสอบถนนทางเข้าหมู่บ้าน ซึ่งมีทั้งหมด 6 หมู่บ้านคือ ท่าม่วง ม.5 ม.11 ม.12 และบ้านหนองหวาย ม.6 บ้านกุดหล่ม ม.7 บ้านวังเวิน ม.8 ถูกตัดขาด เพราะถนนขาดไม่สามารถใช้รถสัญจรไปมาได้ประมาณ 1 เดือนแล้ว พบว่าถนนถูกน้ำในหนองกองแก้ว ทะลักกัดถนนขาด รวม 4 ช่วงๆ ละ 30-100 เมตร

นอกจากนี้ ยังพบว่าน้ำจากลำน้ำชีที่เอ่อตลิ่งทะลักท่วมพื้นที่การเกษตร และกัดเซาะคันดินที่เป็นคันคูกั้นน้ำขาด 3 ช่วงๆ ละ 30-50 เมตร น้ำไหลเชี่ยวแรง อยู่ในพื้นที่บ้านท่าข่อย ม.5 และ ม.13 ประชาชนไม่สามารถสัญจรไปมาได้ โดยในพื้นที่ของบ้านท่าข่อยนั้น อบต.ชนบทให้ช่างมาสร้างสะพานเหล็กขนาดความยาวประมาณ 20 เมตร กว้าง 1 เมตร และเมื่อทำเสร็จในจุดแรกก็จะไปทำที่จุดที่ 2 และ 3 ต่อไป

นายศักดิ์ดา ต้นคชสาร นายอำเภอชนบท กล่าวว่า พื้นที่อำเภอชนบทถูกน้ำท่วมปีนี้มาแล้ว 2 ครั้ง ครั้งแรกในช่วงปลายเดือนก.ย. และในขณะที่น้ำกำลังลดลง ก็มีมวลน้ำจากชัยภูมิไหลลงมาสมทบอีก ทำให้น้ำชีล้นตลิ่ง เอ่อเข้ามาในพื้นที่ผสมกับน้ำตามธรรมชาติ จนน้ำท่วมหมู่บ้าน ท่วมพื้นที่การเกษตร ประชาชนจำนวน 6 หมู่บ้านถูกตัดขาดจากภายนอก ถูกตัดไฟฟ้า น้ำประปาก็ใช้ไม่ได้ มาตั้งแต่ต้นเดือนต.ค.

ต้องหาเรือมาใช้สัญจรข้ามน้ำ ซึ่งก็มีระยะทางไกลประมาณ 5 กม. ทางอบต.ศรีบุญเรืองและอำเภอชนบท ร้องขอความช่วยเหลือจาก ปภ.จังหวัดขอนแก่นและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง นำเรือมาช่วยชาวบ้าน นำถุงยังชีพมาช่วยชาวบ้าน ซึ่งได้เรือจากอบต.ศรีบุญเรือง ได้เรือจากปภ.จ.ขอนแก่น รวมทั้งหมด 6 ลำ มารับส่งชาวบ้านใน 6 หมู่บ้าน

“ถนนสายศรีบุญเรืองไปบ้านท่าม่วงและอีก 5 หมู่บ้านขาดนั้น รายงานให้ผู้ว่าราชการจังหวัดทราบเรื่องแล้ว ปภ.และชลประทานลงมาตรวจสอบแล้ว แต่ยังไม่สามารถซ่อมแซมหรือนำสะพานแบริ่งมาลงได้ เพราะน้ำไหลเชี่ยวและแรงมาก จึงต้องระงับการซ่อมแซมเอาไว้ก่อน รอน้ำแห้งจึงจะพิจารณาการซ่อมแซมถนนขาดอีกครั้ง

ในขณะที่ในพื้นที่บ้านท่าข่อย ตำบลชนบทนั้น ผู้นำท้องถิ่นในพื้นที่ ร่วมกันสร้างสะพานเหล็กขึ้นมาให้ชาวบ้านใช้รถจักรยานยนต์ และเดินข้ามได้ ซึ่งถ้าสร้างเสร็จก็น่าจะบรรเทาความเดือดร้อนให้ชาวบ้านในพื้นที่ได้” นายศักดิ์ดา กล่าว

ด้าน นายวรโชติ กล่อมจิต ปลัด อบต.ศรีบุญเรือง กล่าวว่า ขณะนี้สิ่งที่ อบต.ต้องเตรียมความพร้อมคือ การเลือกตั้งนายกและ ส.อบต.ที่กำลังจะมาถึง ถ้าปริมาณน้ำลด ก็ไม่น่าจะเกิดปัญหา แต่ถ้าปริมาณน้ำยังสูงอยู่เช่นนี้ เกรงว่าชาวบ้านจะไปใช้สิทธิ์ลำบาก แต่จากการพูดคุยกับชาวบ้านต่างก็มีความพร้อมในการไปใช้สิทธิ์เลือกตั้งกันเป็นอย่างดี เพราะในพื้นที่หมู่บ้านที่ถูกน้ำท่วมนั้น ยังมีพื้นที่สูงที่สามารถตั้งหน่วยเลือกตั้ง ให้ชาวบ้านไปใช้สิทธิ์ได้ และใช้เรือขนหีบบัตร

นอกจากนี้ ยังต้องเตรียมความพร้อมในด้านการเดินทางให้นักเรียน นักศึกษา ที่กำลังใกล้จะเปิดเทอม เพื่อให้สะดวกในการเดินทาง โดยจะหาเรือมาเพิ่ม เพราะเชื่อว่าช่วงเช้า ที่จะเดินทางไปเรียนหนังสือนั้น เรือที่รับส่งต้องตรงเวลา ซึ่งขณะนี้อบต.ศรีบุญเรือง เตรียมความพร้อมในเรื่องดังกล่าวไว้เป็นอย่างดีแล้ว

“ถนนที่ขาดหลายช่วงนั้น เนื่องจากว่าน้ำชีที่มีปริมาณน้ำมาก และสูงเอ่อล้นตลิ่งทะลักเข้าท่วมหมู่บ้าน และเข้าไปรวมกับน้ำในหนองกองแก้วที่มีจำนวน 7,900ไร่ ที่มีน้ำตามธรรมชาติอยู่เต็ม เมื่อมวลน้ำชีไหลมาสมทบ น้ำก็ล้นหนองกองแก้ว กัดเซาะถนนขาดทะลักท่วมในพื้นที่การเกษตรและหมู่บ้านมาตั้งแต่ต้นเดือนตุลาคมเป็นต้นมาจนถึงปัจจุบัน

โดยอบต.นำเรือเข้าไปช่วยเหลือชาวบ้านทันที ช่วยขนย้ายสัตว์เลี้ยงไปไว้ตามจุดที่ทางอำเภอกำหนดไว้ คือพื้นที่สาธารณะโคกหินขาว และโคกหนองไผ่ ซึ่งมีชาวบ้านนำสัตว์เลี้ยงทั้งโค กระบือ ไปเลี้ยงไว้ ส่วนผู้สูงอายุและคนป่วยติดเตียงนั้น ญาติพี่น้องช่วยกันดูแล รวมทั้งมี รพ.สต. 2 แห่งที่คอยเดินทางเข้าไปดูแลผู้ป่วยและคนชรา” นายวรโชติ กล่าว

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน