เมื่อวันที่ 16 ธ.ค. ที่ลานประติมากรรมอนุสรณ์ 6 ตุลา หน้าหอประชุมใหญ่ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ท่าพระจันทร์ จัดกิจกรรม รำลึก วนิดา ตันติวิทยาพิทักษ์ 10 ปีที่จากไป เพื่อสืบสานจิตวิญญาณของการต่อสู้เพื่อคนจน โดยเป็นการจัดงานร่วมกันของสามัชชาคนจนทั่วทุกเครือข่ายในประเทศไทย ซึ่งในช่วงเช้ามีพิธีทำบุญตักบาตรถวายภัตตาหารเช้าและสังฆทานเพื่ออุทิศส่วนกุศลให้ มด วนิดา
ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.ปริญญา เทวานฤมิตรกุล รองอธิการบดีฝ่ายบริหารและความยั่งยืน มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ กล่าวว่า มด วนิดา ทำให้รัฐบาลรับฟังเสียงของประชาชนมากขึ้น ก่อนหน้าที่จะมีเขื่อนปากมูนปลา และทรัพยากร มันอุดมสมบูรณ์ แต่พอมีเขื่อนทำไมผู้คนกลับจนลง จากที่เคยอยู่ได้จากการเก็บผัก นี่จึงเป็นสิ่งที่จำเป็นที่ชาวบ้านต้องส่งเสียงดังๆอีกครั้งหนึ่งว่า การพัฒนาประเทศต้องคำนึงถึงผู้คนที่เกี่ยวข้อง ความจริงแล้วเราไม่ได้จนถ้าเราสามารถใช้สิทธิต่างๆ ตนเชื่อว่าโครงการต่างๆหากจะสร้างต้องฟังเสียงประชาชน
ขณะที่ ดร.ลัดดาวัลย์ ตันติวิทยาพิทักษ์ น้องสาวของมด วนิดา กล่าวว่า อยากจะทำงานสานต่อเจตนารมณ์ของมด วนิดา ที่ได้พยายามทำสิ่งที่ดีให้แก่ประเทศชาติ ไม่ใช่เพียง 10 ปี ที่ผู้หญิงคนนี้ได้จากไป นับตั้งแต่วันที่ 10 ธันวาคม พ.ศ.2538 จนถึงปัจจุบัน ผ่านมา 22 ปีสำหรับการเกิดขึ้นมาของสมัชชาคนจน ถ้าเราจะเติบโตกล้าแกร่งต่อไป เราต้องมีพลัง
อยากจะย้ำว่าการให้อภัยเป็นการทำบุญสูงสุด ลืมอดีตแล้วก้าวต่อไปด้วยกัน ให้อภัยแล้วมาสู้ด้วยกัน หากยังไม่เห็นเป้าหมายด้วยกัน ตนคิดว่านี้คือสิ่งที่พี่มด ต้องการทำให้สมัชชาคนจนได้ตระหนักถึงคำที่ว่า ไม่มีความทุกข์ยาก ถ้ามีความยุติธรรม ฉะนั้นต้องเรียกหาความยุติธรรม เพราะเราไม่ใช่คนจน แต่เราเป็นคนที่ร่ำรวยมหาศาล คือรวยทรัพยากร แต่ทำไมจึงยังถึงทุกข์ยาก เหตุเพราะเราไม่มีความยุติธรรม ความอยุติธรรมมาเอาทรัพยากรต่างๆของเราไป ทำให้หลายๆเรื่องยังคงต้องสู้ต่อไป อย่างไรก็ตาม คาดว่าพลังของสมัชชาคนจนจะทำให้เกิดความยุติธรรม
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า บรรยากาศการจัดงาน มีชาวบ้าน สมาชิกสมัชชาคนจนจากทุกเครือข่ายทั่วประเทศ เดินทางมาร่วมงานจำนวนมาก นอกจากนี้ ยังมีกิจกรรมมากมายตลอดทั้งวัน อาทิ เวทีทางวิชาการมีการบรรยายพิเศษ กิจกรรมออกร้านสินค้าภาคประชาชน ตลาดนัดคนจน ตลาดวิถีชุมชน รวมทั้งมีกิจกรรมเผยแพร่รณรงค์การนำเสนอปัญหาของคนจนชนบท-คนจนเมือง และนิทรรศการของคนจน ปิดท้ายด้วยเวทีวัฒนธรรมแสดงดนตรี กวี และละครเวที
