จากกรณีคนร้ายก่อเหตุบุกยิงนายอุดม ขุนศรีหวาน นายกอบต.เขาพระ อายุ 49 ปี หรือนายกดม จนเสียชีวิตอย่างอุกอาจภายในร้านกาแฟฅนเหล็ก ริมถ.ยนตรการกำธร ม.3 ต.ท่าชะม่วง อ.รัตภูมิ จ.สงขลา เมื่อช่วงค่ำของวันที่ 10 พ.ย.ที่ผ่านมา กระทั่งสามารถจับกุมตัวผู้ต้องหาที่เป็นทีมสังหารโหดนายอุดมได้ 3 คน ซึ่งเป็นผู้จ้างวานและมือปืน โดยมีตำรวจร่วมทีมด้วย ซึ่งเหตุดังกล่าวเป็นฝีมือของรองนายก อบต.เขาพระ ที่โกรธแค้นเนื่องจากถูกไล่ออกทั้งสามีและภรรยาและถูกทวงหนี้ โดยจ้างมือปืนเป็นเงิน 7 แสนบาท เพื่อฆ่าล้างแค้น อ่านข่าว : รัว 3 นัดซ้อน! จ่อยิงหัวฆ่า “นายก อบต.เขาพระ” ระทึกกลางร้านกาแฟ ลูกค้าวิ่งกระเจิง

ความคืบหน้าล่าสุดเมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 18 ธ.ค. พล.ต.ท.รณศิลป์ ภู่สาระ ผบช.ภาค9 ได้แถลงสรุปความคืบหน้าของคดีนี้ที่หน้าร้านกาแฟคนเหล็กซึ่งเป็นจุดเกิดเหตุ ว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนภาค 9 ชุดสืบสวนตำรวจภูธร จ.สงขลา และชุดสืบสวนของ สภ.รัตภูมิ นำโดย พ.ต.อ.ศักดา เจริญกุล ผกก.สส.ภ.จว.สงขลา และพ.ต.อ.สิทธินันท์ สังฆพันธ์ รรท.ผกก.สภ.รัตภูมิ ซึ่งใช้เวลากว่า 40 วัน ในการสืบสวนคลี่คลายคดีนี้ โดยเฉพาะการแกะรอยจากภาพกล้องวงจรปิดรถที่คนร้ายใช้ก่อเหตุตั้งแต่จุดเกิดเหตุที่ร้านกาแฟคนเหล็กและเส้นทางหลบหนี ก็สามารถจับกุมกลุ่มผู้ก่อเหตุทั้งผู้จ้างวาน ผู้รับงาน และทีมมือปืนได้ 3 คน จากทั้งหมด 4 คน อ่านข่าว : จัด4ทีมล่าฆ่าโหด”นายก อบต.เขาพระ” เกาะติดซุ้มมือปืน3จังหวัด ตั้ง3ปมสังหาร!

ประกอบด้วย นายกนิษฐา เพ็ชรสุก อายุ 43 ปี อดีต รองนายก อบต.เขาพระ ซึ่งเป็นผู้จ้างวาน นายพิศาล สุขการ อายุ 26 ปี และส.ต.ท.ณวงศ์ยศ กาญจนะแก้ว อายุ 26 ปี ตำรวจสังกัด สภ.ตันหยง อ.เมือง จ.นราธิวาส ซึ่งเป็นทีมมือปืน และยังหลบหนี 1 คน คือนายวันชัย สุขการ อายุ 55 ปี ผู้รับงาน ซึ่งเป็นพ่อของนายพิศาลที่เป็นมือปืน แต่ในชั้นการสอบสวนมีเพียง ส.ต.ท.ณวงศ์ยศ เพียงคนเดียวเท่านั้นที่ยอมรับสารภาพ ส่วนที่เหลือยังคงปฏิเสธ

ผู้สื่อข่าวรายงานข่าวว่า ระหว่างการแถลงข่าวนางสิริยา ขุนศรีหวาน อายุ 37 ปี ได้เดินทางมามอบช่อดอกไม้ให้กับ ผบช.ภ.9 ที่สามารถจับกุมคนร้ายได้ทั้งหมด นอกจากนี้ ยังนำตัวส.ต.ท.ณวงศ์ยศ หนึ่งในผู้ต้องหามาทำแผนประกอบคำรับสารภาพเพียงคนเดียว เพราะอีก 2 คน ยังคงให้การปฏิเสธ จึงไม่สามารถนำตัวมาทำแผนได้ โดยมีการจัดกำลังตำรวจดูแลความเรียบร้อยตลอดการทำแผน เพื่อป้องกันความวุ่นวายที่อาจจะเกิดขึ้น ทั้งจากญาติและผู้ใกล้ชิดของนายอุดม ที่มารอดูการทำแผนนับร้อยคน

โดยในวันเกิดเหตุผู้ต้องหาทั้ง 4 คน ใช้รถยนต์ ยี่ห้อมิตซูบิชิ รุ่นปาเจโร่ สปอร์ต สีขาว ทะเบียน ขข-3045 สงขลา เป็นพาหนะในการก่อเหตุแต่ได้เปลี่ยนป้ายทะเบียนปลอม โดยขับมาจอดที่หน้าร้านกาแฟคนเหล็ก ซึ่งนายอุดมชอบมานั่งดื่มกาแฟเป็นประจำทุกวัน มีนายวันชัย เป็นคนขับรถ จากนั้น นายพิศาลซึ่งเป็นคนยิง และส.ต.ต.ณวงศ์ยศ ซึ่งคอยคุ้มกัน ได้ลงจากรถทำทีเข้าไปสั่งกาแฟที่เคาต์เตอร์ เมื่อสบโอกาสในช่วงที่นายอุดมนั่งดื่มกาแฟอยู่ตามลำพัง เนื่องจากลูกน้องที่ติดตามออกไปทำธุระ นายพิศาลจึงใช้ปืนขนาด .38 หรือ .357 กระหน่ำยิงนายอุดม จนกระเด็นตกเก้าอี้เสียชีวิตทันที

ก่อนที่ทั้งหมดจะขับรถออกจากร้านเพื่อหลบหนี แต่ระหว่างที่ขับไปได้ประมาณ 200 เมตร ยังได้ใช้ปืนยิงใส่รถกระบะของลูกน้องนายอุดมอีก 3 นัด เพื่อไม่ให้ติดตาม และหลบหนีไปทางถ.เพชรเกษมรัตภูมิ-หาดใหญ่ สายเก่า โดยไปหยุดที่บ้านพักคนงานในบช.ภ.9 แห่งใหม่ที่ยังไม่เปิดทำการ ในพื้นที่ต.ฉลุง อ.หาดใหญ่ แล้วแยกย้ายกันหลบหนีไป

พล.ต.ท.รณศิลป์ เปิดเผยว่า สาเหตุการสังหารมาจากกรณีที่นายอุดมได้ไล่นายกนิษฐา ผู้จ้างวาน ออกจากตำแหน่ง รองนายก อบต.เขาพระ เมื่อปี 2555 เพราะขัดแย้งกันเกี่ยวกับการบริหารงานภายใน อบต. และต่อมาเมื่อปี 2560 ยังได้ไล่ภรรยาของนายกนิษฐาออกจากตำแหน่งครูอัตราจ้างอีกคน ซึ่งยังมีปัญหาเรื่องหนี้สินที่นายกนิษฐา กู้ยืมของอบต.เขาพระมากว่า 3 แสนบาท โดยมีเจ้าหน้าที่อบต.เป็นคนค้ำประกัน

พล.ต.ท.รณศิลป์ กล่าวว่า นายอุดมได้โทรศัพท์ทวงถาม ยิ่งสร้างความโกรธแค้นให้กับนายกนิษฐา เป็นอย่างมาก จึงได้ติดต่อทีมมือปืนให้มายิงนายอุดม เพื่อล้างแค้นโดยตั้งค่าหัว 7 แสนบาท และร่วมกันวางแผนมาตั้งแต่ต้นเดือน ต.ค.ที่ผ่านมา กระทั่งในวันเกิดเหตุสบโอกาสลงมือสำเร็จ แต่ก็ไม่รอดพ้นเงื้อมือของตำรวจและกฏหมายถูกจับกุมได้ในที่สุด

สำหรับทีมฆ่าทั้ง 3 คน ถูกแจ้ง 5 ข้อหาหนักคือ “ร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน, ร่วมกันพยายามฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน, ร่วมกันมีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต, ร่วมกันพาอาวุธปืนเข้าไปในเมือง หมู่บ้าน หรือทางสาธารณะโดยไม่ได้รับอนุญาตให้มีอาวุธปืนติดตัว ส่วนส.ต.ท.ณวงศ์ยศ นอกจากจะดำเนินคดีอาญาแล้ว ยังดำเนินการทางวินัยถึงขั้นไล่ออกด้วย

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน