ช่วยได้อีก 6 ชีวิต! แม่บริจาคอวัยวะลูก หลังไฟชอร์ตสมองตาย เผยเพิ่งคุยได้ 20 นาที ก่อนรู้ข่าวร้าย ชี้บุญครั้งยิ่งใหญ่ของลูกชาย เชื่อว่าลูกไปสู่ภพภูมิที่ดี

วันที่ 14 พ.ย.64 ที่ศูนย์บริจาคอวัยวะ ร.พ.เพชรบลูรณ์ นพ.นิติ เหตานุรักษ์ ผอ.ร.พ.เพชรบูรณ์ มอบเกียรติบัตรจากสภากาชาดไทยและศูนย์บริจาคดวงตาพร้อมพวงหรีดให้แก่ นายสิทธิศักดิ์ เดชธิสา อายุ 19 ปี ชาวบ้านหมู่ 5 ต.บ้านนา อ.กะเปอร์ จ.ระนอง ซึ่งเสียชีวิตจากอุบัติเหตุถูกกระแสไฟฟ้าชอร์ตในขณะที่ปฏิบัติงาน และได้บริจาคอวัยวะให้แก่สภากาชาดไทยเพื่อนำไปช่วยเหลือผู้อื่นได้อีกถึง 6 คน โดยมีญาติเป็นตัวแทนรับมอบ

นพ.นิติ เปิดเผยว่า ผู้ป่วยถูกไฟฟ้าชอร์ตขณะทำงานอยู่ในโรงงานแห่งหนึ่งที่ อ.ศรีเทพ จ.เพชรบูรณ์ ถูกนำตัวส่ง ร.พ.ศรีเทพ และส่งมารักษาต่อที่ ร.พ.เพชรบูรณ์ เมื่อวันที่ 7 พ.ย.ที่ผ่านมา ร.พ.เพชรบูรณ์ ดูแลรักษาอย่างสุดความสามารถ ต่อมาแพทย์ได้ลงความเห็นว่ามีภาวะสมองตาย ซึ่งในทางการแพทย์ถือว่าเสียชีวิตแล้ว พยาบาลศูนย์บริจาคอวัยวะได้แจ้งถึงโครงการบริจาคอวัยวะเพื่อนำไปช่วยเหลือผู้อื่น ซึ่งญาติก็ได้ตัดสินใจบริจาคอวัยวะของผู้เสียชีวิตทุกส่วน

แต่เนื่องจากมีข้อจำกัดในหลายๆ จึงทำให้ได้อวัยวะบางส่วนประกอบด้วยลิ้นหัวใจ ตับ ดวงตา 2 ข้าง ไต 2 ข้าง ซึ่งสามารถไปช่วยต่อชีวิตให้บุคคลอื่นได้อีกถึง 6 คน จึงนับว่าเป็นบุญกุศลเป็นอย่างมาก และเชื่อว่าผลบุญที่บริจาคอวัยวะและนำไปช่วยชีวิตคนอื่นได้อีกถึง 6 คนนี้จะส่งผลให้ผู้เสียชีวิตไปสู่ภพภูมิที่ดี

นางกิรติกา เดชธิสา อายุ 40 ปี แม่ของผู้เสียชีวิต กล่าวว่า ตนและลูกชายเป็นชาว จ.ระนอง โดยลูกชายมีอาชีพเป็นช่างเชื่อม ติดตามผู้รับเหมาไปทำงานตามที่ต่างๆ เมื่อเดือนก่อนได้มาก่อสร้างอาคารของโรงงานแห่งหนึ่งใน อ.ศรีเทพ และทุกๆ วันลูกชายจะวิดีโอคอลคุยกัน ในวันเกิดเหตุหลังพักเที่ยงลูกชายได้วิดีโอคอลมาคุยกันตนเช่นเคย และได้พูดคุยกันตามปกติ แต่ตนสังเกตเห็นว่าลูกชายมีสีหน้าที่เหนื่อยอ่อน จึงบอกให้ทำงานด้วยความระมัดระวัง แต่ยังพูดไม่ทันจบสายก็ตัดไป

หลังจากนั้นอีกประมาณ 20 นาที ลุงที่ทำงานด้วยกันก็โทรมาบอกว่าลูกชายถูกไฟฟ้าชอร์ต อาการหนัก ขณะนี้ได้นำตัวส่งโรงพยาบาลแล้ว ตนและครอบครัวจึงรีบเดินทางมาดูแลที่ ร.พ.เพชรบูรณ์ กระทั่งวันที่ 13 พ.ย. แพทย์ได้แจ้งว่าลูกชายมีภาวะสมองตาย ซึ่งในทางการแพทย์ถือว่าเสียชีวิตแล้ว และพยาบาลได้แจ้งถึงโครงการบริจาคอวัยวะเพื่อนำไปช่วยชีวิตบุคคลอื่น ตนเห็นว่าเป็นเรื่องที่ดี เพราะร่างกายและอวัยวะลูกก็จะถูกเผาทิ้งไปโดยเปล่าประโยชน์ ถ้านำไปช่วยเหลือชีวิตคนอื่นได้ก็ถือว่าเป็นการทำบุญครั้งยิ่งใหญ่ ครั้งสุดท้ายให้แก่ลูกชาย ตนจึงยินดีที่จะมอบอวัยวะของลูกชายไปช่วยคนอื่น เพราะเชื่อว่าบุญกุศลในครั้งนี้จะส่งผลให้ลูกไปสู่ภพภูมิที่ดี

และหากดงวิญญาณของลูกรับรู้ได้อยากบอกว่าแม่กับพ่อรักลูกมาก บุญกุศลที่ลูกได้บริจาคอวัยวะในครั้งนี้ขอให้ลูกไปสู่ภพภูมิที่ดี ไปเป็นเทวดาอยู่บนสวรรค์ ที่ผ่านมาลูกชายไม่เคยเกเร ไม่เคยที่จะทำให้พ่อแม่เสียใจเลยและหากชาติหน้ามีจริงขอให้เกิดมาเป็นแม่ลุกกันอีก

 

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน