บุกจับเสี่ยร้านอาหาร ตุ๋นเหยื่อไปทำงานต่างประเทศ สุดท้ายไม่ได้ไป อ้างติดสถานการณ์โควิด แต่กลับเอาเงินไปขยายธุรกิจของตัวเอง ยึดทรัพย์ร่วม 10 ล้าน

วันที่ 16 พ.ย.64 ที่กองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดอุดรธานี นายสยาม ศิริมงคล ผู้ว่าราชการจังหวัดอุดรธานี พร้อมด้วย พล.ต.ต.พิษณุ อุณหเสรี ผบก.ภ.จว.อุดรธานี, ว่าที่ ร.ท.อนุเทพ ศรีดาวเรือง จัดหางานจังหวัดอุดรธานี, พ.ต.อ.พิเชษฐ์ วงษ์บุรี รอง ผบก.ภ.จว.อุดรธานี, พ.ต.อ.พันธุ์เพ็ชร เหล่ากำเนิดเพชร ผกก.กก.สส.ภจว.อุดรธานี, พ.ต.อ.เรืองรัตน์ หงษ์ทิพย์รัตน์ ผกก.สายตรวจ บก.ปพ., พ.ต.ท.ศิวกริช ดิษย์บุญรัตน์ สว.ส.ทล.3 กก.4, พ.ต.ท.อรรคพล ยี่เกาะ สว.สส.ภ.จว.อุดรธานี และชุดสืบสวน ร่วมกันแถลงจับกุม นายไสว หรือกัณภัทร อาจสมัย อายุ 30 ปี

ผู้ต้องหาตามหายจับศาลจังหวัดอุดรธานีที่ จ.257/2564 และ จ.259/2564 ลงวันที่ 15 พ.ย.64 ข้อหา“ร่วมกันนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ปลอมไม่ว่าท้ังหมดหรือบางส่วนหรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จโดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ผู้อื่นหรือประชาชน,ร่วมกันฉ้อโกงประชาชน,ร่วมกันหลอกลวงผู้อื่นว่าสามารถหางานหรือจัดส่งไปฝึกงานในต่างประเทศได้และโดยการหลอกลวงดังว่านั้นได้ไปซึ่งเงินหรือทรัพย์สินหรือประโยชน์อื่นใดจากผู้ถูกหลอกลวงและร่วมกันปลอมและใช้หรืออ้างเอกสารราชการปลอม”

พล.ต.ต.พิษณุ เปิดเผยว่า ได้รับเรื่องจากสำนักงานจัดหางานจังหวัดอุดรธานี ว่าได้มีกลุ่มผู้เสียหายได้เข้าร้องเรียนเพื่อให้ดำเนินคดีกับเพจเฟซบุ๊กซึ่งเปิดในชื่อบริษัท GP THAILAND GROUP จำกัด อ้างว่าสามารถส่งคนไปทำงานในต่างประเทศได้ (ออสเตรเลีย, ญี่ปุ่น, เกาหลีใต้) โดยเริ่มเปิดตั้งแต่ช่วงต้นปี 62 เป็นต้นมา มีการเช่าอาคารย่านถนนอุดรดุษฎี ต.หมากแข้ง อ.เมืองอุดรธานี และปลอมเอกสารราชการสร้างความน่าเชื่อถือ โดยผู้เสียหายจะต้องใช้เงินในการลงทะเบียน 90,000 บาท ซึ่งพบว่ามีผู้เสียหายเข้าร้องเรียนผ่านสำนักงานจัดหางานจังหวัดอุดรธานี จำนวน 28 ราย รวมมูลค่าความเสียหายประมาณ 2,355,000 บาท

พ.ต.อ.พันธุ์เพ็ชร กล่าวว่า จากการสืบสวนทราบว่า นายไสว กับพวก ได้แบ่งหน้าที่กันทำงาน ซึ่งกลุ่มผู้ต้องหาได้อ้างว่ามีสถานะการณ์โรคระบาดโควิด-19 ยังไม่สามารถส่งคนไปทำงานต่างประเทศได้ แต่จากการตรวจสอบข้อมูล กลุ่มผู้ต้องหานี้ไม่สามารถจัดไปทำงานได้จริง เอกสารการจดทะเบียนได้ปลอมแปลงขึ้นมาทั้งหมด อีกทั้งเพจเฟซบุ๊กและอาคารสำนักงานก็ปิดไปโดยไม่มีสาเหตุ

พ.ต.อ.พันธุ์เพ็ชร กล่าวอีกว่า การกระทำความผิดของผู้ต้องหานี้อันเป็นการกระทำผิดฐาน “ฉ้อโกงประชาชน” รวมทั้ง “ฟอกเงิน” เบื้องต้นพบว่าผู้ต้องหาได้นำเงินที่ได้จากการกระทำความผิดไปประกอบธุรกิจร้านอาหารชื่อดังย่านตลาดรถไฟ จ.อุดรธานี และนำไปขยายกิจการประกอบธุรกิจโรงงานน้ำดื่มในพื้นที่ อ.เมืองอุดรธานี และ อ.หนองหาน จึงได้ตรวจยึดทรัพย์สินเพื่อดำเนินการการตรวจสอบตาม พ.ร.บ.ฟอกเงิน มูลค่ารวมประมาณ 8.5 ล้านบาท

ด้าน พ.ต.ท.อรรคพล กล่าวว่า จากการสอบสวนขยายผลยังพบว่ามีประชาชนอีกหลายรายที่หลงเชื่อและตกเป็นเหยื่อ ที่ยังไม่เข้าแจ้งความร้องทุกข์กับพนักงานสอบสวน จึงฝากประชาสัมพันธ์ไปยังประชาชนที่ได้สมัครไปทำงานต่างประเทศผ่านบริษัท GP THAILAND GROUP จำกัด หรือกลุ่มของ นายไสว สามารถเข้าแจ้งความร้องทุกข์เพิ่มเติมได้ หรือประสานข้อมูลผ่าน กก.สส.ภ.จว.อุดรธานี ส่วนผู้เสียหายที่เข้าแจ้งความร้องทุกข์ไว้แล้ว เบื้องต้นให้ยื่นเรียกร้องค่าเสียหายอันเป็นความผิดทางแพ่งเกี่ยวเนื่องคดีอาญา พร้อมเบิกเงินตอบแทนพยานเพื่อเยียวยาผู้เสียหายเบื้องต้น และช่วยเป็นการลดขั้นตอนในการดำเนินการให้กับผู้เสียหาย

 

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน