บุกรวบ “ควีนออฟเวดดิ้ง” ตุ๋นลงทุนซื้อโรงงานไฟฟ้า อ้างขายต่ออีกทอดได้กำไรร้อยละ 20 เหยื่อเชื่อหลงโอนเงินสูญ 3 ล้าน พบคดียาวเป็นหางว่าว
เมื่อวันที่ 17 พ.ย. 2564 พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. พล.ต.ต.พุฒิเดช บุญกระพือ ผบก.ปอศ. สั่งการให้ พ.ต.อ.พัฒนพงศ์ ศรีพิณเพราะ ผกก.1 บก.ปอศ.พ.ต.ท.วีระพงษ์ หอมหวล รอง ผกก.1 บก.ปอศ. พ.ต.ต.สรัล ยศพลพิเนต สว.กก.1 บก.ปอศ. นำกำลังจับกุม น.ส.ภัทรวดี เลิศพนารักษ์ อายุ 37 ปี ตามหมายจับศาลอาญาธนบุรี ที่ 562/2564 ลง 29 ต.ค.64 ข้อหา “ใช้เอกสารสิทธิปลอม,ฉ้อโกง,นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลอันเป็นเท็จโดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ผู้อื่น” ได้ภายในปั๊มน้ำมัน ปตท. คลอง 7 ต.ลำผักกูด อ.ธัญบุรี จ.ปทุมธานี
จากการจับกุมทราบว่า เมื่อช่วงเดือน พ.ย. 63 ผู้ต้องหาออกอุบายหลอกลวงผู้เสียหายรายหนึ่ง อ้างว่า กำลังจะซื้อโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ แล้วจะนำไปขายต่อให้กับนายทุนอีกทอด เพื่อเอากำไร พร้อมชักชวนผู้เสียหายร่วมลงทุนเงินมัดจำที่จะนำไปซื้อโรงงานไฟฟ้า อ้างว่าจะทำกำไรได้ถึงร้อยละ 20 พร้อมนำสัญญาจะซื้อจะขายปลอมมาหลอก เพื่อสร้างความน่าเชื่อถือ
ผู้เสียหายหลงเชื่อและยอมมอบเงินลงทุนให้ไปกว่า 3 ล้านบาท ปรากฏว่าหลังจากจ่ายเงินไปแล้ว ผู้เสียหายพยายามติดตามการซื้อขาย แต่ตัวผู้ต้องหาบ่ายเบี่ยงมาโดยตลอด เมื่อโทรไปตรวจสอบโดยตรงกับโรงงานไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ และบริษัทของนายทุนตามที่ผู้ต้องหากล่าวอ้าง จนทราบความจริงว่า ไม่มีการจะซื้อจะขายกิจการใดๆ ทั้งสิ้น จึงไปแจ้งความที่ สน.ท่าข้าม พนักงานสอบสวนรวบหลักฐานและขอหมายจับเอาไว้
กระทั่งเจ้าหน้าที่ชุดจับกุมสืบสวนจนไปพบตัวผู้ต้องหาที่ปั๊มน้ำมัน ปตท. สาขาคลอง 7 จึงนำกำลังเข้าจับกุม สอบสวนผู้ต้องหาให้การรับสารภาพว่าก่อเหตุจริง เพราะไม่มีการจะซื้อจะขายธุรกิจตามที่อ้างแต่อย่างใด จึงนำตัวส่ง สน.ท่าข้าม ดำเนินคดีต่อไป
นอกจากนี้ยังพบผู้ต้องหาเคยก่อเหตุลักษณะเดียวกันมาแล้วหลายครั้ง และยังมีหมายจับคดีฉ้อโกงของศาลแขวงปทุมวัน ที่ 83/2564 ลงวันที่ 9 ก.ย.64 ซึ่งบางคดีผู้เสียหายเป็นโจทย์ยื่นฟ้องเอง คดียังอยู่ในชั้นพิจารณาของศาล ความเสียหายประมาณ 10 ล้านบาท
จากการตรวจสอบประวัติของผู้ต้องหา พบว่าเคยเป็นนักธุรกิจดัง มีฉายาว่า “ควีนออฟเวดดิ้ง” ซึ่งเป็นผู้ผลิต นำเข้า-ส่งออกสินค้า และบริการงานแต่งงานครบวงจรของประเทศ เมื่อปี 60 เคยมีข่าวเจอมรสุมน้ำท่วมกรุงเทพฯ และล้นเข้าโชว์รูมย่านสุขุมวิท จนชุดวิวาห์เสียหายเป็นหลักหลายสิบล้านบาท
