ขบวนการลักลอบนำชาวเมียนมาเข้าไทย เปลี่ยนวิธีหลบหนีใหม่ กระจายตัวลอบเข้ามาตามแนวชายแดนหลายจุด แต่สุดท้ายไม่รอด วันเดียวสกัด 5 จุด รวบ 97 คน

วันที่ 18 พ.ย. 64 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สถานการณ์การกวดขันจับกุม ขบวนการลักลอบนำชาวเมียนมาเข้ามาในประเทศอย่างผิดกฎหมายตามแนวชายแดนของจังหวัดกาญจนบุรี ยังคงมีการจับกุมอย่างต่อเนื่อง โดยเพียงวันเดียวเจ้าหน้าที่สามารถจับกุมชาวเมียนมาที่พยายามลักลอบเข้าประเทศโดยผิดกฎหมายได้ถึง 5 จุด ในพื้นที่ 3 อำเภอ ได้ทั้งหมด 97 คน

โดยจุดแรก ทหารหน่วยเฉพาะกิจลาดหญ้า กองกำลังสุรสีห์ สนธิกำลังกับเจ้าหน้าที่ตำรวจและฝ่ายปกครองอำเภอสังขละบุรี จับกุมบุคคลต่างด้าวสัญชาติเมียนมา ลักลอบข้ามแดนโดยผิดกฎหมายจำนวน 16 คน เป็นชาย 15 คน หญิง 1 คน พร้อมผู้นำพาจำนวน 1 คน เเละรถยนต์จำนวน 1 คัน บริเวณจุดตรวจร่วมจงอั่ว บ้านจงอั่ว ตำบลปรังเผล อำเภอสังขละบุรี

จุดที่สอง เจ้าหน้าที่สามารถจับกุมบุคคลสัญชาติเมียนมา ลักลอบข้ามแดนโดยผิดกฎหมายจำนวน 15 คน เป็นชาย 7 คน หญิง 8 คน พร้อมผู้นำพาจำนวน 2 คน เเละรถยนต์จำนวน 1 คัน บริเวณ บ้านพุน้ำร้อน ตำบลบ้านเก่า อำเภอเมือง

จุดที่สาม เจ้าหน้าที่สามารถจับกุมบุคคลสัญชาติเมียนมา ลักลอบข้ามแดนโดยผิดกฎหมายจำนวน 2 คน เป็นชายทั้ง 2 คน ที่บ้านประตูด่าน ตำบลบ้านเก่า อำเภอเมือง

จุดที่สี่ เจ้าหน้าที่จับกุมบุคคลสัญชาติเมียนมา ลักลอบข้ามแดนโดยผิดกฎหมายจำนวน 4 คน เป็นหญิงทั้ง 4 คน บริเวณ บ้านบ้องตี้ล่าง ตำบลบ้องตี้ อำเภอไทรโยค

จุดที่ห้า เจ้าหน้าที่จับกุมบุคคลสัญชาติเมียนมา ลักลอบข้ามแดนโดยผิดกฎหมายจำนวน 60 คน เป็นชาย 38 คน หญิง 22 คน บริเวณ บ้านบ้องตี้บน ตำบลบ้องตี้ อำเภอไทรโยค

จากการสอบถามทราบว่า ชาวเมียนมากลุ่มนี้ เดินทางมาจาก จ.ทวาย, จ.ย่างกุ้ง, จ.ยะไข่, จ.เมาะลำไย, จ.พะโค เเละ จ. มัณฑะเลย์ ประเทศเมียนมา โดยเสียค่านายหน้ารายละ 15,000 ถึง 20,000 บาท เพื่อจะเข้าไปทำงานที่ จ.สมุทรสาคร, จ.สมุทรปราการ, จ.นนทบุรี, จ.นครปฐม, จ.สระบุรี, จ.ชลบุรี, เเละ จ.เพชรบูรณ์

เนื่องจากในช่วงที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ต่างกวดขันจับกุมขบวนการลักลอบนำชาวเมียนมาเข้าประเทศโดยผิดกฎหมายอย่างต่อเนื่อง ทำให้กลุ่มขบวนการนี้ พยายามปรับเปลี่ยนวิธี โดยให้ชาวเมียนมาที่จะลักลอบเข้ามาทำงานในประเทศกระจายตัวเข้ามาผ่านช่องทางธรรมชาติตามแนวชายแดนเป็นชุดละไม่มาก เพื่อหลีกเลี่ยงการถูกตรวจจับกุม แต่ก็ไม่สามารถรอดพ้นสายตาของเจ้าหน้าที่ไปได้

ทั้งนี้ หลังการจับกุม เจ้าหน้าที่ได้ทำการตรวจวัดอุณหภูมิขั้นต้น ไม่พบผู้มีอุณหภูมิเกิน 37.5 องศาเซลเซียส จึงนำตัวผู้ต้องหาทั้งหมดส่งเจ้าหน้าที่ตำรวจในแต่ละเขตพื้นที่ ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน