เจ้าของ เล่านาที ดินสไลด์ เร่งขนของออกจากบ้านได้ 1 ชั่วโมง ก่อนพังทลายลง เผย สัญญาณเตือน ด้าน เจ้าหน้าที่เร่งตรวจสอบ-ให้การช่วยเหลือชาวบ้าน
จากกรณีเกิดเหตุ ดินสไลด์ บริเวณถนนซอยศรีสัมพันธ์ ม.15 ต.บางปลา อ.บางพลี จ.สมุทรปราการ มีผู้ได้รับผลกระทบประมาณ 33 หลังคาเรือน ไม่มีผู้บาดเจ็บหรือเสียชีวิต โดยเบื้องต้นได้เจ้าหน้าที่ได้อพยพผู้ได้รับผลกระทบเข้าพักชั่วคราวที่ วัดตำหรุ ต.แพรกษา อ.เมือง จ.สมุทรปราการ ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น อ่านข่าว : บางพลีระทึก ดินสไลด์บ้านพัง กระทบแล้ว33หลังคาเรือน เร่งอพยพชาวบ้าน เผยสาเหตุ
ล่าสุดวันที่ 21 ม.ค.2565 ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศช่วงเช้าวันนี้ พบว่าผู้ที่ได้รับความเดือดร้อนจากบ้านพังเสียหายและไร้ที่อยู่อาศัย ต่างพากันมายืนมองซากบ้านของตนเองด้วยความเสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น โดยเจ้าหน้าที่ยังคงปิดกั้นพื้นที่และถูกประกาศเป็นพื้นที่อันตราย โดยคาดว่าหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะเข้าสำรวจและเร่งเยียวยาผู้ที่ได้รับผลกระทบ
เจ้าของ เล่านาที ดินสไลด์ เร่งขนของออกจากบ้านได้ 1 ชั่วโมง ก่อนพังทลายลง เผย สัญญาณเตือน
นายพงศ์พันธ์ มามาก หนึ่งในบ้านพักที่หายไปกับดินโคลน และเป็นเจ้าของที่ดินแปลงที่ให้เช่า เปิดเผยว่า ที่ดินที่บ้านของผู้ที่ได้รับผลกระทบนี้ ตนเปิดให้เช่าที่ปลูกที่พักอาศัยมายาวนานหลายสิบปีแล้ว ซึ่งมีการปลูกบ้านพักกว่า 30 หลัง ในลักษณะเป็นบ้านชั้นเดียวปลูกติดกัน ก่อนจะเกิดเหตุการณ์ดังกล่าว พบว่ามีสัญญาณเตือนตั้งแต่ช่วงวันที่ 17 ม.ค.ที่ผ่านมา
นายพงศ์พันธ์ กล่าวต่อว่า ซึ่งบ้านเริ่มแตกร้าวและมีการทรุดตัวบางจุด จนผู้ประกอบการบ่อดินได้เข้ามาพูดคุยแล้วครั้งนี้ และรับปากว่าจะหยุดตักดินขายชั่วคราว แต่ก็ไม่ได้หยุดประกอบกิจการแต่อย่างใด และยังคงเดินหน้าตักดินขายต่อเนื่อง กระทั่งมีการตักเข้ามาชิดแนวคันคลอง จนเกิดรอยรั่วของคันคลองในช่วงบ่ายของวันที่ 20 ม.ค.ที่ผ่านมา จากนั้นเริ่มขยายวงกว้าง
นายพงศ์พันธ์ กล่าวอีกว่า บ้านของตนซึ่งอยู่แนวหน้าติดลำคลองเริ่มมีเสียงลั่น และรอยแตกร้าวมากขึ้น จึงตัดสินใจเร่งขนย้ายข้าวของออกจากบ้าน จากนั้นผ่านไปประมาณ 1 ชั่วโมงก็เกิดพังทลายลงเป็นหลังแรกแล้วตามมาอย่างต่อเนื่องจนพังเสียหายไปหลายหลัง ถามว่าเสียใจไหมก็คงเสียใจแต่ก็สงสารชาวบ้านที่ได้รับผลกระทบมากกว่า เพราะแทบจะสิ้นเนื้อประดาตัวไร้ที่อยู่อาศัย
ด้าน นายรุ่งรัตน์ ทรงพลวารินทร์ รองปลัดอบต.บางปลา กล่าวว่า ในส่วนของผู้ประกอบการขุดดินแห่งนี้ พบว่ามีการขออนุญาตขุดดินตามพ.ร.บ.ขุดดิน ซึ่งจะต้องไปตรวจสอบว่ามีการปฏิบัติการตามกฎกระทรวงที่วางไว้หรือไม่ หากพบว่าไม่เป็นไปตามกฎที่อนุญาตก็จะต้องดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมาย
นายรุ่งรัตน์ กล่าวต่อว่า ขณะนี้ได้สั่งการด้วยวาจาและจะมีหนังสือคำสั่งอย่างเป็นทางการให้หยุดประกอบกิจการชั่วคราว ส่วนความเสียหายเบื้องต้นจากรายงานพบว่ามีบ้านที่ปลูกเป็นหลังจำนวน 17 หลัง และมีการปลูกแยกย่อยออกไปอีกจำนวนหนึ่ง มีประชาชนได้รับผลกระทบกว่า 80 คน โดยวันนี้จะประสานโยธาการจังหวัดเข้าสำรวจความเสียหายและตรวจสอบความหนาของแนวคันดิน
นายรุ่งรัตน์ กล่าวอีกว่า ส่วนผู้ที่ได้รับผลกระทบ ทางอบต.พร้อมเปิดศูนย์อพยพ แต่จากการพูดคุยเบื้องต้นชาวบ้านยังขออาศัยอยู่กับบ้านญาติที่ไม่ได้รับความเสียหาย เบื้องต้นได้จัดทำข้าวกล่องและนำดื่มพร้อมถุงยังชีพเตรียมจ่ายแจกบรรเทาทุกข์ให้กับชาวบ้านแล้ว
