เสี่ยปาน 30 ล้าน ขอปิดตำนาน หลังป่วยมะเร็งระยะสุดท้าย สั่งเสียพี่สาวงานศพให้จัดที่ร้านก๋วยเตี๋ยว จากนี้ไปขอพักผ่อน-งดให้ข่าว โอดชีวิตผมสั้น อยู่ได้เท่านี้

เมื่อวันที่ 11 ก.พ.65 ที่ร้านก๋วยเตี๋ยว บ้านหนองบ่อ หมู่ 14 ต.หนองหาน อ.หนองหาน จ.อุดรธานี ผู้สื่อข่าวเดินทางไปพบกับ นายยงยุทธ แก้วสวนจิก อายุ 45 ปี หรือ “เสี่ยปาน 30 ล้าน” ชาวอ.หนองหาน จ.อุดรธานี ที่ถูกหวยรางวัลที่ 1 จำนวน 30 ล้านเมื่อ 6 ปีที่แล้ว

ต่อมาเกิดเจ็บป่วยหนักหลายโรคตัดสินใจขายทรัพย์สินทุกอย่างทิ้ง และเตรียมแบ่งทรัพย์สินให้พี่น้อง และลูกชาย โดยเขียนพินัยกรรมไว้แล้ว

ขณะที่เสี่ยปานพ้อยังไม่อยากตาย เพราะลูกชายยังเล็ก แต่เนื่องจากป่วยด้วยโรคมะเร็งระยะสุดท้าย หมอบอกอยู่ได้อีกนาน จะรีบทำอะไรก็รีบทำ จึงต้องมาอยู่ใกล้ๆ พี่สาวโดยช่วยพี่สาวขายก๋วยเตี๋ยว และคอยให้พี่สาวเช็ดแผลให้ โดยวันนี้เสี่ยปานอยากจะเปิดใจ แจ้งข่าวกรณีป่วยหลายโรคทำให้ร่างกายทรุดหนัก เพื่อให้สังคมรับรู้ หลังปิดมานาน

ผู้สื่อข่าวพบเสี่ยปาน 30 ล้าน กำลังทำความสะอาดร้านก๋วยเตี๋ยว จัดโต๊ะ จัดเก้าอี้ เพื่อเตรียมเปิดร้านในตอนเช้า โดยอาหารเช้าของเสี่ยปานเป็นน้ำเต้าหู้ ขนมปัง และโอวัลติน และยังมีถุงยาที่ใช้สำหรับรักษาโรคถุงใหญ่ ในจำนวนนั้นมียาที่รักษาแก้เจ็บปวดอย่างรุนแรง คือมอร์ฟีนตามที่แพทย์สั่งรวมอยู่ด้วย

เสี่ยปาน 30 ล้าน เปิดเผยว่า วันนี้อยากจะแจ้งให้สังคมรับรู้ หลังปิดมานานเรื่องอาการป่วย ขณะนี้ตนป่วยด้วยโรคหัวใจและโรคมะเร็งทวารหนักระยะสุดท้าย ส่วนสาเหตุที่ต้องบอกหลังจากปิดมานาน เพราะหลังเป็นข่าวออกไป หลายคนก็เป็นห่วงว่า ทำไมเป็นโรคหัวใจแล้วไม่ไปรักษา ตนอยากบอกว่า นอกจากป่วยเป็นโรคหัวใจแล้ว ก็ยังมีโรคมะเร็งทวารหนักระยะสุดท้าย

โดยหมอบอกว่าอยู่ได้ 1 ปี จะครบในเดือนนี้ แต่หากรอดพ้นเดือนนี้ไปได้ ตนก็ตั้งใจยังอยากมีชีวิตอยู่ เพื่อเห็นหน้าลูกชายจนเขาเติบใหญ่

นายยงยุทธ กล่าวต่อว่า ก่อนที่จะเป็นมะเร็งทวารหนัก ตนป่วยเป็นมะเร็งลำไส้ใหญ่มาก่อนนี้ ในช่วงที่ไปบวชเป็นเยอะ ตอนแรกจะบวชตลอดชีวิต แต่เนื่องจากป่วยจึงลาสิกขามารักษาตัว ทั้งคีโมผ่าตัดจนหายแล้ว พร้อมเปิดโชว์รอยผ่าตัดตรงช่องท้องให้ผู้สื่อข่าวดู

“ด้วยความที่ผมไม่ชอบอยู่เฉยๆ จึงซื้อรถไถ รถเกี่ยวข้าว พาพี่ชายลุยรับจ้างทำให้ทำงานหนัก พักผ่อนไม่เพียงพอ และที่สำคัญนั่งขับรถนาน ทำให้เป็นฝีทวารหนัก ไปให้หมอตรวจตอนแรกคิดว่าเป็นฝีคัณฑสูตร แต่ไม่หายสักที เมื่อต้นปีที่แล้วไปตรวจอีกครั้ง หมอก็บอกว่าไม่ทันแล้วนะ มะเร็งลามแล้ว เป็นมะเร็งทวารหนักระยะสุดท้าย แล้วนะ จะอยู่ได้ไม่เกิน 1 ปี” เสี่ยปาน กล่าว

เสี่ยปาน กล่าวอีกว่า “ส่วนสาเหตุที่อยากเปิดเผยให้สังคมรับรู้ ใครจะสมน้ำหน้าผมก็ตาม ความจริงก็คือความจริง ผมจึงอยากจะบอกว่าป่วยเป็นมะเร็งระยะสุดท้าย รักษาคงไม่ทันแล้ว แต่ก็มีหลายคนที่ให้กำลังใจ ผมก็ขอบคุณทุกคนที่ให้กำลังใจ ผมก็ขอให้ท่านจงร่ำรวย ส่วนคนที่ด่าผมก็ขออโหสิกรรมให้ การสัมภาษณ์ครั้งนี้ ผมขอสัมภาษณ์เป็นครั้งสุดท้าย ผมขอหยุดให้ข่าว ปิดตำนานเสี่ยปาน 30 ล้านในวันนี้เลย ขอให้ผมได้พักผ่อนใช้ชีวิตตามสภาพ หากยังมีชีวิตอยู่ ก็จะพาลูกไปเที่ยว

ตอนนี้สั่งลาบอกพี่สาวแล้วว่า หากผมเสียชีวิตไป ก็ให้จัดงานที่ตรงนี้ ไม่ต้องไปจัดที่บ้านสวน เพราะทุกสิ่งทุกอย่างผมเขียนพินัยกรรมไว้แล้ว แต่ผมก็จะฝืนเต็มที่ ฝืนจนวันสุดท้ายของผม ชีวิตผมสั้น อยู่ได้เท่านี้ เพราะเขาให้ผมมาอยู่ใช้กรรมได้เท่านี้ ยิ่งทำบุญมากเท่าไรยิ่งตายเร็ว” เสี่ยปาน กล่าว

 

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน