ชาวบ้านอมก๋อย ฟ้องเพิกถอน อีไอเอเหมืองแร่ถ่านหิน จัดรณรงค์ใหญ่ แสดงพลัง หวั่นผลกระทบวิถีชีวิต-สุขภาพ-สิ่งแวดล้อม

วันที่ 28 มี.ค.65 นายธนกฤต โต้งฟ้า ผู้ประสานงานภาคีเครือข่ายปกป้องอมก๋อยจากถ่านหิน เปิดเผยว่าในระหว่างวันที่ 28 มีนาคม ถึงวันที่ 4 เมษายน 2565 เครือข่ายภาคีปกป้องอมก๋อยจากถ่านหินและชาวบ้านอมก๋อยจะจัดงานรณรงค์หลายรูปแบบขึ้นเพื่อบอกเล่าความกังวลเกี่ยวกับโครงการเหมืองแร่อมก๋อย โดยชาวบ้านประมาณ 80-300 คนจะมารวมตัวกันเพื่อถ่ายทอดข้อกังวลสู่สาธารณะ

นายธนกฤต กล่าวว่า โครงการเหมืองแร่อมก๋อยจะทำลายวิถีชีวิตความเป็นอยู่และทรัพยากรธรรมชาติ ถ้าโครงการยังเดินหน้าต่อไปจะทำให้เกิดการละเมิดสิทธิ โดยเฉพาะสิทธิขั้นพื้นฐาน เช่น การอยู่ในสิ่งแวดล้อมที่ดี สิทธิการใช้ทรัพยากร รวมถึงสิทธิการมีอากาศสะอาดหายใจและสิทธิการเข้าถึงน้ำสะอาด

ทั้งนี้ในวันที่ 28 มี.ค. ชาวบ้านกะเบอะดินจะรวมตัวกันจัดงานรณรงค์ขึ้นในหมู่บ้านแล้วเดินทางไปที่สนามกีฬาอมก๋อยเพื่อแสดงพลัง ส่วนในวันที่ 30 มีนาคม ชาวบ้านจะเดินทางมาที่อนุสาวรีย์สามกษัตริย์เพื่อจัดงานเปิดตัวรายงานผลกระทบสิ่งแวดล้อม(อีไอเอ)ฉบับชุมชน ที่ใช้เป็นเครื่องมือในการคัดค้านรายงานอีไอเอ และในวันที่ 3 เมษายน ชาวบ้านอมก๋อยและเครือข่ายจะไปจัดงานที่คณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่

น.ส.ณัฐทิตา วุฒิศีลวัต ตัวแทนเยาวชนและชาวชุมชนกะเบอะดิน กล่าวว่าในวันที่ 4 เมษายน ชาวบ้านอมก๋อยจำนวน 50 คนเป็นโจทย์ยื่นฟ้องคดีที่ศาลปกครองเชียงใหม่เพื่อเพิกถอนรายงานผลกระทบสิ่งแวดล้อมหรืออีไอเอ (EIA) ของเหมืองถ่านหินอมก๋อย เนื่องจากชาวบ้านมีความกังวลว่าเหมืองถ่านหินมีผลกระทบระยะยาวต่อสุขภาพและวิถีชีวิตความเป็นอยู่ของชาวอมก๋อย

“รายงานอีไอเอที่เขาทำขึ้นเมื่อ 10 ปีที่แล้ว ขาดการมีส่วนร่วมของประชาชนที่ได้รับผลกระทบอย่างเห็นได้ชัด แต่ฉบับประชาชนนี้ได้แสดงให้เห็นการละเมิดสิทธิของประชาชนอมก๋อย รวมถึงผลกระทบทางสิ่งแวดล้อม วิถีชีวิตความเป็นอยู่ ถ้าโครงการยังเดินหน้าต่อไปจะทำให้เกิดการละเมิดสิทธิ์โดยเฉพาะสิทธิขั้นพื้นฐาน

เช่น การอยู่ในสิ่งแวดล้อมที่ดี สิทธิการใช้ทรัพยากร รวมถึงสิทธิการมีอากาศสะอาดหายใจและสิทธิการเข้าถึงน้ำสะอาด ดังนั้นชาวบ้านได้รวมตัวกันศึกษาและจัดทำรายงานผลกระทบสิ่งแวดล้อมฉบับชุมชนโดยได้รับการสนับสนุนจากองค์กรประชาสังคมด้านสิ่งแวดล้อมและสิทธิมนุษยชน รวมถึงผู้เชี่ยวชาญแขนงต่าง ๆ และอ้างอิงจากหลักฐานที่มีและมีการวิเคราะห์ตามหลักวิทยาศาสตร์ ชาวบ้านอมก๋อยต้องการให้เกิดการทำอีไอเอใหม่ที่โปร่งใสกว่าเดิมและเป็นไปตามหลักการมาตรฐานสากล”น.ส.ณัฐทิตา กล่าว

เยาวชนบ้านกะเบอะดิน กล่าวว่า ในอดีตชาวบ้านไม่รู้จักว่าอีไอเอคืออะไร มารับรู้เมื่อปี 2562 ซึ่งมีนักวิชาการมาบอกว่าจะมีการทำเหมืองแร่ที่บ้านกระเบอะดินและอีไอเอผ่านแล้วจึงได้เริ่มเรียนรู้ อย่างไรก็ตามปัจจุบันนอกจากโครงการเหมือนแร่แล้ว ชาวบ้านยังเผชิญกับโครงการใหญ่ๆอีก 2 โครงการคือโครงการผันแม่น้ำยวมลงเขื่อนภูมิพลซึ่งต้องขุดอุโมงค์ผ่านและจะมีกองดินถึง 4 แห่ง นอกจากนี้ยังมีโครงการสายส่งไฟฟ้าอีกด้วย

“พวกเรากังวลใจกันมาก เพราะเชื่อว่าจะส่งผลกระทบต่อพื้นที่ทำกิน ชาวบ้านรุ่นพ่อรุ่นแม่ไม่สามารถพูดภาษาไทยได้ จึงแทบไม่เคยรับรู้ข้อมูลข่าวสาร เขาไม่รู้จักการสื่อสารในโลกออนไลน์ พวกเราลูกๆหลานๆ ก็เพิ่งมารู้เอาทีหลัง เรารู้สึกว่าไม่ยุติธรรมกับพวกเราเลย เขาจะเอาทรัพยากรที่มีค่าของชาวบ้านไป”น.ส.ณัฐทิตา กล่าว

ขอบคุณภาพจาก : ชาวชุมชนและคณะทำงานยุติเหมืองแร่ถ่านหินอมก๋อย

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน