จากกรณีพ่อแม่ลูกถูกรถทัวร์โดยสารสายกรุงเทพฯ-สมุย ไล่ลงกลางทางเพราะลูกน้อยวัยขวบเศษร้องไห้ส่งเสียงดัง จนไปรบกวนผู้โดยสารคนอื่นและพนักงานขับรถคนที่ 2 ที่นอนพักผ่อนอยู่ด้านหลังรถเพื่อรอเปลี่ยนกะ จึงต้องพากันแบกสัมภาระและอุ้มลูกชายวัยขวบเศษ พากันไปเปิดห้องพักในปัมน้ำมัน อ.ชะอำ จ.เพชรบุรี จนเหลือเงินติดตัวแค่ 25 บาท เหตุเกิดเมื่อคืนวันที่ 7 ม.ค. ที่ผ่านมา

คืบหน้าล่าสุด เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 9 ม.ค. ภายในสถานีขนส่งผู้โดยสาร อ.เกาะสมุย จ.สุราษฎร์ธานี นายวรกิตติ ไชยชนะ หัวหน้าสำนักงานขนส่งจังหวัดสุราษฎร์ธานี สาขาเกาะสมุย และน.ส.พรพิมล กลิ่นหอม นายสถานีเดินรถสุราษฏร์ธานี ได้เชิญนายมงคล ทองโบราณ น.ส.ปภิสรา คำอยู่ สามีภรรยา และบุตรชาย ผู้เสียหายจากเหตุการณ์ดังกล่าวที่ถูกรถโดยสารปรับอากาศ 999 เส้นทางกรุงเทพฯ-เกาะสมุย ปล่อยทิ้งกลางทาง

นายมงคล และน.ส.ปภิสรา เปิดเผยเรื่องราวที่เกิดขึ้นว่า พวกตนเดินทางไปเกาะสมุยเป็นครั้งแรกเพื่อมาหางานทำ ซึ่งในคืนวันนั้นลูกชายคนเล็กร้องไห้เสียงดังจริง แต่เพียงแค่เวลา 30 นาที ไม่ใช่ 2 ชั่วโมงตามที่บริกรประจำรถชี้แจงไป ตนไม่ได้ปล่อยให้ลูกชายร้องไห้หนักแทบขาดใจ ก่อนลงรถบริกรประจำรถก็บอกว่าจะไปจอดในจุดที่สะดวกมีที่พัก มีรถโดยสาร เขาให้ลงตรงไหนก็ต้องลงเพราะไม่รู้ไม่เคยมาด้วย พอลงก็เห็นปั๊มน้ำมันใหญ่และได้สังเกตบริเวณโดยรอบมันไม่ใช่อย่างที่บอกไว้ จากนั้นก็พากันเดินไปเปิดห้องพักภายในปั๊มน้ำมัน ตนเองมีเงินติดตัวเพียงแค่ 600 กว่าบาท เตรียมใช้จ่ายระหว่างเดินทางไม่ได้เตรียมเผื่อไว้ พอจ่ายค่าห้องพักไป 500 บาท ซื้อข้าวให้ลูกกิน ก็เหลือเงิน 25 บาท จะไปกดเงินที่ตู้เอทีเอ็มภายในปั๊มก็ไม่สามารถกดได้ ตนเพียงอยากให้พนักงานพูดกับผู้โดยสารดีๆ ไม่ใช่แสดงอาการพูดเสียงดัง ไม่สุภาพต่อผู้โดยสาร

ด้านนายวรกิตติ ไชยชนะ หัวหน้าสำนักงานขนส่งจังหวัดสุราษฎร์ธานี สาขาเกาะสมุย กล่าวว่า การที่คนขับรถสาธารณะทิ้งผู้โดยสารกลางทาง ถือว่ามีความผิดตาม พรบ.ขนส่ง เพราะตามหลักรถโดยสารสาธารณจะต้องส่งผู้โดยสารถึงปลายทางทุกคนอย่างปลอดภัย ในเรื่องนี้ทางกรมการขนส่งจะได้ปรับพนักงานขับรถเป็นเงิน 5,000 บาท พร้อมนำเข้ารับการอบรมในเรื่องของการให้บริการที่ทั้งคนขับรถ และบริกรบนรถ

ส่วนทางด้าน น.ส.พรพิมล กลิ่นหอม นายสถานีขนส่งจังหวัดสุราษฎร์ธานี กล่าวว่า จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในครั้งนี้ ทางผู้บริหารไม่ได้นิ่งนอนใจ ได้รับผิดชอบด้วยการชดเชยค่าใช้จ่ายทั้งหมดมอบให้กับครอบครัวนายมงคล เป็นจำนวนเงินทั้งสิ้น 4,740 บาท ซึ่งเป็นค่าโดยสารรถ บขส. ค่ารถไฟ ค่าเรือ และค่าที่พัก พร้อมกล่าวขอโทษที่พนักงานให้บริการที่ไม่ดีกับครอบครัวนายมงคล และหลังจากนี้ไปทางบริษัท ขนส่ง จำกัด จะได้เรียกพนักงานขับรถทั้ง 2 คน และบริกรบนรถ มาสอบสวนข้อเท็จจริงเรื่องที่เกิดขึ้น และเตรียมลงโทษทางวินัย พร้อมยกเป็นเครสตัวอย่างเพื่อหาแนวทางแก้ไขไม่ให้เกิดเหตุการณ์ลักษณะนี้ต่อไป

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน