เจ้าอาวาสโร่แจ้งความ หลังหมอปลาบุกวัด ปมคลิปฉาว ซุกสีกาในกุฏิ เชื่อมีคนกลั่นแกล้ง หวังให้พ้นตำแหน่ง เพื่อผลประโยชน์ สาวในกุฏิเปิดใจ

จากกรณี หมอปลา พานักข่าว เข้าตรวจสอบภายในกุฏิเจ้าอาวาสวัดดังใน อ.ด่านมะขามเตี้ย จ.กาญจนบุรี หลังได้รับคลิปบันทึกเหตุการณ์จากชาวบ้าน ว่า พระครูกาญจนประภาธร เจ้าอาวาสวัดด่านมะขามเตี้ย มีพฤติกรรมชอบนำสีกามานอนค้างที่กุฏิ และส่งเสียเลี้ยงดูเด็กสาววัยรุ่นแลกกับการมีสัมพันธ์ชู้สาว โดยพบว่าภายในกุฏิ มีเจ้าอาวาสวัดด่านมะขามเตี้ย กำลังนั่งเล่นอยู่บนที่นอนกับเด็กทารกเพศหญิง อายุประมาณ 1 ปี และยังมีเด็กหญิงวัยรุ่น อายุ 14 ปี และ 19 ปี รวมถึงผู้ชายอีกสองคน นั่งอยู่ภายในกุฏิด้วย เจ้าอาวาสยืนยันว่า ทั้งหมดเป็นลูกหลาน ไม่ได้มีสัมพันธ์ชู้สาวแต่อย่างใด

ล่าสุดเมื่อเวลา 09.00 น. วันที่ 21 เม.ย.65 ที่ศาลาการเปรียญวัดด่านมะขามเตี้ย อ.ด่านมะขามเตี้ย จ.กาญจนบุรี ญาติโยมและชาวบ้านที่ทราบข่าวรวมกว่า 20 คน เดินทางมาทำบุญและสอบถาม พระครูกาญจนประภาธร หรือ อาจารย์พัน เจ้าอาวาสวัดด่านมะขามเตี้ย เกี่ยวกับเรื่องที่เกิดขึ้น

โดย พระครูกาญจนประภาธร ได้เปิดใจถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นเพียงการที่ลูกหลานเดินทางมาเยี่ยมหาอาตมาที่วัดตามปกติ ไม่ได้มีสัมพันธ์ชู้สาวใดๆ ซึ่งคลิปวิดีโอที่หมอปลาอ้างว่า เป็นคลิปบันทึกเหตุการณ์ช่วงที่มีหญิงวัยรุ่นเดินเข้ามาหาอาตมาในกุฏิช่วงกลางดึกและนอนค้างคืนนั้น แท้จริงเป็นเหตุการณ์ที่เกิดช่วงกลางวัน ซึ่งตอนนั้นอาตมาอยู่ด้านนอกกุฎิและใช้ให้หญิงสาวรายดังกล่าว ไปหยิบของในกุฏิให้เท่านั้น

อาตมาเชื่อว่าน่าจะเป็นฝีมือของกลุ่มคนที่ต้องการให้พ้นจากตำแหน่งเจ้าอาวาส เนื่องจากต้องการเข้ามาดูแลผลประโยชน์ เรื่องการจัดตลาดนัดภายในวัด ซึ่งมีการจัดสัปดาห์ละ 3 วัน รวมมูลค่ารายได้นับหมื่นบาท โดยที่ผ่านมา บุคคลกลุ่มนี้ พยายามมาเจรจากับตน เพื่อขอเข้ามาดูแลจัดการบริหารและเก็บค่าเช่าตลาดนัด แต่อาตมาไม่ตกลงด้วย

ส่วนกรณีสามเณรที่ออกมาให้ข้อมูลนั้น เชื่อว่าทำไปด้วยเจตนาดี ที่อยากให้อาตมาปฏิบัติตนให้เหมาะสม ซึ่งก็ไม่ได้โกรธแค้นใดๆ เพราะสามเณรรูปนี้ อาตมาก็เคยส่งเสียให้เรียนมาก่อน แต่หลังจากเกิดเรื่องสามเณรรูปนี้ก็ไม่ได้กลับมาที่วัดเลยและคงเตรียมที่จะสึกตามกำหนดในวันศุกร์นี้

ผู้สื่อข่างรายงานว่า ในระหว่างเจ้าอาวาสพูดคุยกับสื่อมวลชน สามเณรโม่ ที่เป็นผู้ให้ข้อมูลกับหมอปลา พร้อมด้วยแม่ของสามเณร ได้เดินทางกลับมาที่วัดเพื่อจะมาเก็บข้าวของและจะไปสึกที่วัดอื่น โดยก่อนจะออกจากวัดไป สามเณรโม่ได้ไปกราบลาหลวงพ่อ แต่เป็นการกราบลาระยะห่างพอสมควรก่อนจะเดินทางออกจากวัดไปทันที

ด้าน นายพินิจ ลิขิตวัฒนกิจ ผอ.ร.ร.ด่านมะขามเตี้ย เปิดเผยว่า ในฐานะของหน่วยงานที่อยู่ติดกับวัด แล้วก็ได้รับความช่วยเหลือจากวัดมาโดยตลอด หลวงพ่อมีความเมตตากับคนทั่วไป ส่วนเรื่องที่เกิดขึ้นทางโรงเรียนรู้สึกตกใจกับเหตุการณ์เมื่อวาน ในส่วนนี้ถ้าพูดถึงเรื่องของกิจวัตรปฏิบัติของหลวงพ่อ เป็นพระที่ปฏิบัติดีอยู่ที่วัดนี้มานานแล้ว และก็เป็นที่พึ่งของนักเรียนของเด็กยากจน และสามเณรบางรูปหลวงพ่อก็ส่งเสียให้ได้เรียนหนังสือ ส่วนเรื่องที่ถูกกล่าวหานั้นตนไม่ขอออกความคิดเห็น

ทางด้าน น.ส.เอ (นามสมมติ) อายุ 19 ปี ที่อยู่ในห้องกับหลวงพ่อพร้อมด้วย สามี และเพื่อนๆ ซึ่งมีลูกสาววัย 1 ขวบนั้น กล่าวว่ารู้สึกไม่สบายใจแล้วก็เสียใจ ที่ทำให้หลวงพ่อได้รับความเสียหาย ยืนยันว่าตนไม่ได้มีความสัมพันธ์เชิงชู้สาว แต่ท่านเมตตาช่วยเหลือ อยากให้ทุกคนรับฟังข้อมูลทั้งสองด้าน ไม่ควรตัดสินกันเพียงด้านเดียว

ต่อมาเวลา 13.25 น.วันเดียวกัน พระครูกาญจนประภาธร เดินทางไปที่ สภ.ด่านมะขามเตี้ย พร้อม นายสุรพร จันทรสุนทรพจน์ ปลัดอำเภอด่านมะขามเตี้ย หัวหน้าฝ่ายงานธุรการ โดยมี พ.ต.อ.ไวโรจน์ แน่นพิมาย ผกก.สภ.ด่านมะขามเตี้ย มารอและให้ ร.ต.อ.เทอดศักดิ์ พลายมี รอง สว.(สอบสวน) ลงบันทึกประจำวันให้กับหลวงพ่อไว้เป็นหลักฐาน กรณีที่มีกลุ่มบุคคลบุกเข้ามาในวัดในกุฏิสร้างความเสื่อมเสียเข้าใจผิด จึงมาลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐานเพื่อนำไปเป็นหลักฐานหากเกิดความจำเป็นที่ใช้ในการชี้แจงต่อหน่วยงานหรือคณะสังฆาธิการต่อไป

 

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน