กทม.เดินหน้าโครงการ “พาน้องกลับมาเรียน” ป้องกันเด็กนร.หลุดระบบการศึกษา ด้านปลัดกรุงเทพฯ เผย เตรียมเปิดภาคเรียนที่ 1 รูปแบบ On Site เตรียมซ้อมแผนเผชิญเหตุตามมาตรการป้องกันโควิด

เมื่อวันที่ 27 เม.ย. ที่ศาลาว่าการกทม.นายขจิต ชัชวานิชย์ ปลัดกรุงเทพมหานคร เปิดเผยว่า กทม.ได้เตรียมความพร้อมการเปิดภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2565 โรงเรียนสังกัดกรุงเทพมหานคร ทั้งการจัดเตรียมอาคารสถานที่ ครู และอุปกรณ์การเรียนการสอน ในรูปแบบ On Site และรูปแบบอื่นๆ

ภายใต้มาตรการความปลอดภัยที่กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) กำหนด เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของโควิด 19 ดังนี้ ประชาสัมพันธ์เพื่อสร้างความเข้าใจและขอความร่วมมือให้นักเรียน ข้าราชการครู และบุคลากรทางการศึกษา

ตลอดจนผู้ปฏิบัติงานในโรงเรียน ให้ปฏิบัติตามข้อกำหนด 6 มาตรการหลัก (DMHT-RC) ประกอบด้วย การเว้นระยะห่าง สวมหน้ากากอนามัย การล้างมือบ่อยๆ คัดกรองวัดไข้ ลดการแออัด และทำความสะอาด

รวมถึงการปฏิบัติตาม 6 มาตรการเสริม ประกอบด้วย การดูแลตนเองให้ปฏิบัติตามมาตรการที่กำหนดอย่างเคร่งครัด ใช้ช้อนกลางส่วนตัว กินอาหารปรุงสุกใหม่ ลงทะเบียนเข้าออกโรงเรียน สำรวจตรวจสอบผู้ที่อยู่ในกลุ่มเสี่ยง หรือเดินทางมาจากพื้นที่เสี่ยง และกักกันตัวเองเมื่ออยู่ในกลุ่มเสี่ยง

และการปฏิบัติตามแนวทาง 7 มาตรการเข้มสำหรับสถานศึกษา ดังนี้ 1.ประเมิน TSC+ และรายงานผลผ่าน MOE COVID อย่างต่อเนื่อง 2.Small Bubble ทำกิจกรรมแบบกลุ่มย่อย 3.อาหารตามหลักสุขาภิบาลอาหารและหลักโภชนาการ 4.อนามัยสิ่งแวดล้อม ทั้งอากาศ ความสะอาด น้ำ ขยะ 5.School Isolation มีแผนเผชิญเหตุและซักซ้อม 6.Seal Route ดูแลการเดินทางจากบ้านไปโรงเรียน และ 7.School Pass สำหรับนักเรียน ครู และบุคลากรในสถานศึกษาได้รับวัคซีนจำนวนมากที่สุดอย่างน้อย 85 %

ส่วนของสำนักงานเขตและโรงเรียน ก่อนเปิดภาคเรียนตรวจสอบความพร้อมของอาคารสถานที่ ห้องเรียน เครื่องเล่นเด็ก และวัสดุอุปกรณ์การเรียนการสอน และสภาพแวดล้อมบริเวณโรงเรียนให้มีความสะอาดและปลอดภัย โดยทำความสะอาดบริเวณโรงเรียนทั้งหมดด้วยน้ำยาฆ่าเชื้อโรค และให้มีจุดบริการล้างมือด้วยสบู่และน้ำ หรือจุดบริการเจลแอลกอฮอล์อย่างเพียงพอในบริเวณต่าง ๆ รวมทั้งจัดหาอุปกรณ์ในการป้องกันการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID – 19)

นอกจากนี้สำนักงานเขต กำชับผู้บริหารสถานศึกษาพิจารณาวางแผนในการประเมินตนเองของข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษากรุงเทพมหานคร ตลอดจนบุคลากรของโรงเรียน หรือผู้ที่เกี่ยวข้องที่ปฏิบัติงานในโรงเรียนให้เฝ้าระวังตนเองก่อนกลับมาปฏิบัติหน้าที่ในโรงเรียน เพื่อเป็นการดูแลตนเอง นักเรียน ผู้ที่เกี่ยวข้องต่าง ๆ และสังคมโดยส่วนรวม ทั้งนี้ เพื่อสร้างความปลอดภัยแก่นักเรียนในโรงเรียนสังกัดกรุงเทพมหานคร และสร้างความเชื่อมั่นให้แก่ผู้ปกครองในการพาบุตรหลานมาโรงเรียน

รวมทั้งโรงเรียนสังกัด กทม. จะได้ซักซ้อมแผนเผชิญเหตุ ตามมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ของสถานศึกษา กรณีพบผู้ติดเชื้อให้ดำเนินการตามแผนเผชิญเหตุ ดังนี้

กรณีโรงเรียนพบนักเรียนที่สงสัยติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID – 19) ที่เข้าเกณฑ์สอบสวนโรค (Patient Under Investigation : PUI) ให้แยกเด็กออกมาจากผู้อื่น แจ้งผู้ปกครอง และโทรแจ้งสายด่วนสุขภาพ 1646 ศูนย์เอราวัณ สำนักการแพทย์ หรือโทรแจ้งศูนย์บริการสาธารณสุขในพื้นที่ เพื่อประเมินสถานการณ์ตามเกณฑ์สอบสวนโรค

กรณีพบผู้ติดเชื้อยืนยัน 1 ห้องเรียน ตั้งแต่ 1 รายขึ้นไป หรือพบผู้ติดเชื้อมากกว่า 1 ห้องเรียน ให้ปิดห้องเรียนเฉพาะห้องเรียนที่พบผู้ติดเชื้อเป็นเวลา 3 วัน เพื่อทำความสะอาด และให้จัดการเรียนการสอนในรูปแบบ 4 On (Online, On – Air, On Hand, On School Line ) สำหรับห้องเรียนอื่นเปิดเรียน On Site ตามปกติ

ซึ่งจะได้เร่งประชาสัมพันธ์ทำความเข้าใจกับผู้ปกครองและนักเรียนให้มีความรู้ความเข้าใจ สามารถปฏิบัติตามคำแนะนำเบื้องต้นได้อย่างถูกต้อง และให้คำแนะนำผู้ปกครองติดตามข้อมูลข่าวสารการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID – 19) จากแหล่งข้อมูลที่เชื่อถือได้ รวมทั้งหลีกเลี่ยงการพาบุตรหลานไปในสถานที่ที่เสี่ยงต่อการติดเชื้อ

ทั้งนี้ เพื่อเป็นการส่งเสริมโอกาสทางการศึกษาอย่างเท่าเทียมและป้องกันเด็กนักเรียนหลุดออกจากระบบการศึกษา สำนักการศึกษาได้เร่งขับเคลื่อนการบูรณาการความร่วมมือกับกระทรวงศึกษาธิการและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินโครงการ “พาน้องกลับมาเรียน”

โดยพัฒนาระบบสารสนเทศและเทคโนโลยีการจัดการศึกษา (BMIS : Bangkok of Education Management Information Systems) ของกรุงเทพมหานคร มีฐานข้อมูลนักเรียนในโรงเรียนสังกัดกทม. เพื่อใช้ในการจัดการศึกษา ตรวจสอบ และติดตามการมาเรียนของนักเรียน

เชื่อมโยงฐานข้อมูลนักเรียนกับกระทรวงศึกษาธิการ ศึกษาธิการจังหวัดกรุงเทพมหานคร และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อตรวจสอบปัญหาที่เกิดขึ้นกับนักเรียน ตลอดจนการพิจารณาแนวทางการให้ความช่วยเหลืออย่างเร่งด่วนต่อไป

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน