พ่อแม่สุดช็อก ลูกสาววัย 14 ปี ชาร์จมือถือ นอนเล่นบนที่นอน เช้ามาพบเป็นศพ ถูกไฟชอร์ตเสียชีวิตสลด มือยังกำมือถือไว้แน่น พบรอยไหม้ดำ
เมื่อเวลา 07.30 น. วันที่ 2 พ.ค.2565 พ.ต.ท.ชัยกฤต เตารัตน์ สารวัตรเวร สภ.เมืองระยอง รับแจ้งเหตุไฟชอร์ตคนเสียชีวิต ภายในบ้านพักหลังหนึ่ง ต.เนินพระ อ.เมือง จ.ระยอง จึงรุดไปตรวจสอบพร้อมแพทย์เวรโรงพยาบาลระยอง และหน่วยกู้ภัยสว่างพรกุศล
ที่เกิดเหตุเป็นบ้านชั้นเดียว ภายในบ้านพบร่างของ ด.ญ.เอ (นามสมมติ) อายุ 14 ปี สภาพนอนคว่ำหน้าเสียชีวิตอยู่บนที่นอนที่ปูกับพื้น มือซ้ายยังกำมือถือที่ต่อสายชาร์จไฟกับปลั๊ก 3 ตาไว้ ซึ่งถอดปลั๊กออกแล้ว โดยพบสายชาร์จมือถือไหม้จนดำ มือของผู้เสียชีวิตที่กำมือถือเป็นรอยไหม้จนนิ้วกลายเป็นสีดำ ตามร่างกายไม่พบบาดแผลอื่น คาดเสียชีวิตมาแล้วไม่ต่ำกว่า 5 ชั่วโมง ก่อนจะนำศพส่งพิสูจน์ที่ โรงพยาบาลระยอง ท่ามกลางความโศกเศร้าของพ่อแม่ที่ร่ำไห้ออกมาตลอดเวลา
พ่อแม่สุดช็อก ลูกสาววัย 14 ปี ชาร์จมือถือ นอนเล่นบนที่นอน เช้ามาพบเป็นศพ ถูกไฟชอร์ตเสียชีวิตสลด
จากการสอบสวน น.ส.อุษานันท์ (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 31 ปี แม่ของผู้เสียชีวิต ให้การทั้งน้ำตา ว่า ลูกสาวเรียนอยู่ชั้น ม.1 มักจะชอบเล่นเกม คุยกับเพื่อนทางมือถือ และชอบนอนดึกทุกคืน ก่อนเกิดเหตุตนกับสามีเข้านอนตามปกติ ช่วงกลางดึกตนตื่นมาพบว่าลูกสาวนอนอยู่บนที่นอน คิดว่านอนหลับตามปกติ โดยไม่ได้สังเกต
น.ส.อุษานันท์ กล่าวต่อว่า กระทั่งสามีตื่นขึ้นมาแล้วพบว่าลูกสาวนอนแน่นิ่งไปแล้ว จึงมาปลุกตน พอมาเห็นว่าลูกสาวเสียชีวิตก็แทบช็อก เสียใจจนทำอะไรไม่ถูก ไม่คิดว่าจะเสียลูกสาวไปก่อนวัยอันควร หลังตั้งสติสามีก็ได้ตรวจสอบพบว่า ถูกไฟชอร์ต เพราะโทรศัพท์ในมือลูกสาวได้เสียบชาร์จอยู่ โดยพบว่าสายชาร์จมือถือมีรอยไหม้ จึงรีบชักปลั๊กสามตาออกทันที ก่อนจะแจ้งเจ้าหน้าที่มาตรวจสอบ
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตรวจสอบภายในจุดเกิดเหตุ จากหลักฐานคาดว่าผู้เสียชีวิตคงจะชาร์จมือถือแล้วเล่นไปด้วย จนเผลอหลับไป แล้วสายชาร์จเกิดไฟรั่วกระแสไฟจึงเข้าสู่ร่างกายจนเสียชีวิต ซึ่งทางครอบครัวไม่ติดใจสาเหตุการตาย แต่ถึงอย่างไรจะสรุปตามผลการชันสูตรจากแพทย์ พร้อมฝากเตือนผู้ใช้มือถือว่าไม่ควรเล่นมือถือขณะชาร์จไฟไปด้วย เพราะเสียชีวิตมาแล้วหลายราย
