จุติยัน ไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง เหตุค้ามนุษย์ที่สุราษฎร์ธานี ย้ำข้าราชการพม.มีเอี่ยว ฟันไม่เลี้ยงแน่ เผยตัวเองพร้อมชี้แจงทุกเรื่อง แจงแถลงข่าวไม่ขัดแย้งตำรวจแน่

วันที่ 9 พ.ค.2565 นายจุติ ไกรฤกษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) กล่าวถึงกรณีตำรวจจับเจ้าหน้าที่บ้านพักเด็กและครอบครัวจ.สุราษฎร์ธานี และรองอธิบดีกรมกิจการเด็กและเยาวชน หลังมีส่วนเกี่ยวข้องซื้อบริการทางเพศหญิงอายุต่ำกว่า 18 ปีว่า ได้มีการตั้งคณะทำงานเรื่องนี้โดยเฉพาะแล้ว ยืนยันว่ามีการดำเนินการเรื่องนี้อย่างโปร่งใส ไม่มีล้มมวย ไม่ซูเอี๋ย ใครเกี่ยวข้องจะดำเนินการเอาผิดหมด ไม่ละเว้น ใครละเว้นจะถูกเอาผิดมาตรา 157 และตนไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ ตามที่สื่อนำเสนอแต่อย่างใด พร้อมชี้แจง

โดยขณะนี้ รายงานทั้งหมดมาถึงตนแล้ว แต่ยังขาดรายละเอียดบ้าง จึงให้ปลัดพม.เป็นคณะทำงานเข้าไปสอบสวนเรื่องนี้โดยเฉพาะ โดยให้ดำเนินการให้เร็วที่สุด และรายงานให้ทราบทุกวัน ทั้งนี้ตนจะเดินทางไปรับฟังปัญหาจากประชาชนที่ทำงานด้วย และฟังผู้ปฏิบัติงานด้วยตัวเองที่จ.สุราษฎร์ธานี ในวันที่ 11 พ.ค.นี้ ก่อนเดินสายทุกภูมิภาคต่อไป

ขณะนี้ผู้เสียหายบางส่วนอยู่ในการคุ้มครองของกรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพ ส่วนที่ไม่อยู่ในการคุ้มครองของกรมคุ้มครองสิทธิฯ ก็ได้ให้ออกนอกพื้นที่ เพื่อความปลอดภัย ไม่ถูกกดดันจากฝ่ายใดๆ ทั้งสิ้น ส่วนวันนี้มีผู้เกี่ยวข้อง 3 ราย ประกอบด้วย 1.หัวหน้าบ้านพักเด็กและครอบครัวจังหวัดสุราษฎร์ธานี 2.นายเอ็ม เป็นพนักงานราชการในบ้านพักเด็กฯ และรองอธิบดีกรม ดย.ที่ถูกย้ายมาที่ พม.ส่วนกลางได้ ขณะนี้ได้มารายงานตัวแล้ว คงจะมีความคืบหน้าให้ทราบ

ขอย้ำว่าที่ย้ายเข้ามานั้นไม่ได้เป็นการลงโทษ แต่ย้ายเพื่อให้มีการดำเนินการสอบข้อเท็จจริง ส่วนตัวไม่ได้พูดคุยกับรองอธิบดีฯตามที่มีข่าว เพราะเป็นหน้าที่ของปลัด พม.ที่จะดำเนินการสอบสวนหาข้อเท็จจริง อยากให้ประชาชนมั่นใจว่าเราจะทำอย่างตรงไปตรงมา ให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย มีการคุ้มครองเด็ก ให้ความคุ้มครองสตรีทุกกรณี อีกทั้งจะปรับการทำงานให้กระชับมากขึ้น โ

โดยพม.จะทำงานร่วมกับตำรวจ เพื่อให้ได้ข้อมูลแก้ปัญหาการค้ามนุษย์อย่างถอนรากถอนโคน ขอให้เข้าใจว่าคนที่เริ่มต้นเรื่องนี้เป็นกระทรวง เนื่องจากมีผู้มาร้องเรียนที่สำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงคงมนุษย์จังหวัด (พมจ.) ว่ามีเด็กอายุต่ำกว่า 18 ปี ถูกกักขัง 11 ราย ตั้งแต่เดือนพ.ย. 2564 จึงสอบสวนพบว่ามีมูล จากนั้นได้แจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจ เพื่อดำเนินคดีและพบว่าเป็นคดีค้ามนุษย์

สำหรับกรณีที่เจ้าหน้าที่บ้านพักถูกกล่าวหาว่าตีเด็กเพื่อกดดันเด็กนั้น จากการสอบข้อเท็จจริงวันนี้ มีการยอมรับว่าตีเด็กจริง แต่ไมได้เกี่ยวข้องกับคดีดังกล่าว เป็นการตีเพื่อลงโทษตามวินัยของบ้าน ซึ่งเด็กนั้นมี 11 คน ที่ถูกตี บังเอิญ 1 ในนั้นเป็นพยานในคดีนี้ แต่ก็ต้องสอบสวนข้อเท็จจริงต่อไป

โดยสิ่งที่ตนชี้แจงวันนี้ ไม่ได้ขัดแย้งกับพล.ต.ท.สุรเชษฐ์ หักพาล ผช.ผบ.ตร. แถลงข่าวไปก่อนหน้านี้ พร้อมให้การร่วมมือกับตำรวจในการสืบสวนเรื่องการค้ามนุษย์ ส่วนจะขยายผลไปถึงใครก็เป็นหน้าที่ของตำรวจ ขณะเดียวกันถ้าไม่กระทบกับคดี หากสามารถให้ข้อมูลต่อพม. เพื่อดำเนินการสอบสวนในเชิงลึกมากขึ้น เพื่อเป็นประโยชน์ต่อการสอบสวนข้อเท็จจริงทางวินัย

ตนก็อยากให้เจ้าหน้าที่ตำรวจให้ข้อมูลมาด้วย โดยขอฝากคำร้องนี้ผ่านสื่อมวลชนไปยังเจ้าหน้าที่ตำรวจ แต่ไม่กล้าทำหนังสือไปขอโดยตรง เพราะกลัวถูกกล่าวหาว่าเข้าไปแทรกแซงการดำเนินคดี

โดยผู้สื่อข่าวถามได้ถามถึงพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) ได้มีการพูดคุยเรื่องนี้หรือไม่ นายจุติ ตอบว่า ยังไม่พูดคุย เพราะไม่มีใครเกี่ยวเลย ที่มองว่ากรณีนี้เชื่อมโยงกับ รมว.พม.หรือไม่ นักข่าวเอาไปเชื่อมกันเอง ส่วนกรณีฝ่ายค้านหยิบเรื่องนี้มาเป็นประเด็นโจมตีและถามหาความรับผิดชอบนั้น ฝ่ายค้านก็มีหน้าที่ตรวจสอบ ผมไปห้ามใครมองยังไงไม่ได้ ข้อเท็จจริงมีอยู่ ถามมาก็จะตอบไป กล่าวหาก็จะชี้แจงไป

ยืนยันว่าไม่มีเชื่อมโยง เพราะไม่ได้มีอะไรเกี่ยวข้องกับทั้ง 3 คนนี้ทั้งผมและพรรค ผมเพียงผู้บังคับบัญชาที่รับผิดชอบหน้าที่กำกับนโยบายตามกฎหมาย ปลัดก็ดูแลข้าราชการไปหากมีใครละเมิดก็ต้องทำ

ผมอยู่การเมืองมานาน มันก็เป็นอย่างนี้แหละ พอจะเปิดสภา ก็จะแรงขึ้นๆ ทุกวัน มันมีเหตุให้เขาชวนสงสัย จะไปว่าเขาไม่ได้ พูดตรงๆ หน้าที่ผมก็ต้องชี้แจงให้หายสงสัย ผมไม่กลัว ผมอยู่กับข้อเท็จจริง เรื่องนี้ยิ่งจบเร็วเท่าไหร่ยิ่งเป็นประโยชน์กับ พม.มากเท่านั้น ก็อยากให้จบเร็วๆ

ด้านนางพัชรี อาระยะกุล ปลัด พม. กล่าวว่า ขอให้มั่นใจว่า พม. จะทำงานด้วยความสุจริต ยุติธรรม ไม่มีการล้มมวยแน่นอน ผลก็ขึ้นอยู่กับข้อเท็จจริง หากพบว่าเป็นความผิดทางวินัยร้ายแรง ก็จะมีการลงโทษให้ออก หรือไล่ออกจากราชการ

ที่มา มติชนออนไลน์

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน