‘พระบิดา’ ยังล่องหน ตร.ชัยภูมิจ่อฟันเพิ่มอีกหลายข้อหา พบแปรรูปไม้หวงห้ามหลาย 10 ท่อน เจ้าหน้าที่ป่าไม้เกี่ยวข้องเร่งรวบรวมหลักฐาน
จากกรณีลัทธิประหลาด ฤาษีตั้งตัวเป็น พระบิดา รักษาสาวกด้วยการให้กินสิ่งสกปรกทั้งน้ำปฏิกูล ขี้ไคล เสมหะ น้ำเหลืองที่ต่อท่อออกมาจากโลงศพ โดยอ้างว่าเพื่อช่วยรักษาโรคและช่วยให้ผู้ตายได้ขึ้นสวรรค์ ซึ่งยังพบศพอยู่ในสถานที่ดังกล่าวอีก 11 ศพ จึงนำตัว นายทวี หนันรา หรือ “โจเซฟ” อายุ 75 ปี ฤาษีเจ้าลัทธิไปดำเนินคดี
ล่าสุดรองผู้ว่าราชการจังหวัดชัยภูมิ นำหมายศาลเข้าตรวจสอบสำนักปฏิบัติธรรมลัทธิประหลาด เพื่อรวบรวมหลักฐานดำเนินคดีเพิ่มเติม ต่อเจ้าสำนักลัทธิประหลาดรายนี้ หลังเบื้องต้นแจ้งดำเนินคดีไปแล้ว 2 ข้อหา ในข้อหาบุกรุกพื้นที่สาธารณะ และฝ่าฝืน พ.ร.บ.ควบคุมโรคติดต่อโควิด-19 ต่อมาศาลจังหวัดภูเขียวให้นายทวีประกันตัวออกไปได้ในวงเงิน 50,000 บาท ตามที่เสนอข่าวไปนั้น
ความคืบหน้า เมื่อวันที่ 11 พ.ค.65 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากนายทวีได้รับการประกันตัว พ้นต้องขังในเรือนจำภูเขียวจังหวัดชัยภูมิออกไปแล้ว ก็ไม่มีใครสามารถติดต่อได้ และหายตัวไปอย่างไร้ร่องรอย รวมทั้งคณะลูกศิษย์สาวกที่ยังเหลืออยู่ในสำนักดังกล่าวอีกเกือบ 100 คน ต่างพากันเก็บข้าวของออกจากสำนักดังกล่าว
พ.ต.อ.วัฒนชัย จันทาทุม ผกก.สภ.คอนสาร จ.ชัยภูมิ เปิดเผยความคืบหน้าทางคดีว่า หลังจากเมื่อวานนี้ ทางชุดผู้ว่าราชการจังหวัดชัยภูมิ มอบหมายรองผวจ.ชัยภูมิ พร้อมตนเอง และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าตรวจค้นตรวจสอบอายัดหลักฐานการกระทำผิดที่เกี่ยวข้อง ต่อฤาษีเจ้าสำนักลัทธิดังกล่าวเพิ่มเติม พร้อมสั่งปิดสำนักดังกล่าวและให้รื้อถอนสิ่งปลูกสร้างออกจากพื้นที่ทั้งหมดให้เสร็จภายในไม่เกิน 10 วันจากนี้ไป เนื่องจากดำเนินคดีเบื้องต้นใน 2 ข้อหาไปแล้ว ในข้อหาบุกรุกป่าพื้นที่สาธารณะ ที่ทางป่าไม้ตรวจสอบรวมมีพื้นที่สำนักดังกล่าวทั้งหมดรวม 26 ไร่
ก็ยังไม่มีใครสามารถติดต่อเจ้าตัวฤาษีผู้ต้องหารายนี้ได้ หลังได้ประกันตัวไปแล้ว รวมทั้งขณะนี้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ ก็พร้อมที่จะแจ้งดำเนินคดีเพิ่มเติมอีกหลายข้อหาทั้งข้อหาการรักษาโรค ผิดพ.ร.บ.เวชกรรม ที่ไม่เป็นไปตามหลักสาธารณสุข
ซึ่งขณะนี้ยังไม่ได้รับแจ้งจากเจ้าหน้าที่สาธารณสุขจังหวัดที่เกี่ยวข้อง รอรวบรวมหลักฐานอยู่ ข้อหาการเคลื่อนย้ายศพจัดการศพที่พบรวม 11 ศพ ที่ยังรอผลตรวจพิสูจน์จากทางเจ้าหน้าที่ทีมแพทย์ที่เกี่ยวข้องยังไม่ระบุแจ้งผลมา รวมทั้งมีการเกี่ยวข้องว่าน้ำเหลืองจากศพที่นำมาใช้รักษาโรคที่ผิดกฎหมายด้านสาธารณสุข และความปลอดภัย รวมทั้งอีกหลายข้อหาที่พบจากการเข้าตรวจค้นพื้นที่สำนักดังกล่าวรอบที่ 2 วันที่ 10 พ.ค.ที่ผ่านมา ตามหมายศาล
ที่พบทั้งมีการผลิตอาหาร ยารักษาโรค จำหน่ายที่ไม่ปลอดภัยหรือไม่ผ่านการรับรองจากอย. ที่ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.คอนสาร รอผลตรวจหาเชื้อและหลักฐานทางวิทยาศาสตร์ยืนยันมาอยู่ในขณะนี้ แต่ทางสสจ.ยังไม่แจ้งผลมาถึง รวมทั้งพบมีการแปรรูปตัดไม้หวงห้ามหรือไม้พะยูงในพื้นที่สำนักดังกล่าวอีกจำนวนมากหลายสิบท่อน
ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างเจ้าหน้าที่ป่าไม้เกี่ยวข้องในพื้นที่ตรวจสอบรวบรวมหลักฐาน ยังไม่ส่งตัวแทนแจ้งร้องทุกข์ต่อตำรวจเพิ่ม จึงยังไม่สามารถแจ้งข้อหาเรื่องนี้เพิ่มได้ ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ตำรวจที่พร้อมรับดำเนินคดีเพิ่มเติมได้ทันที ก่อนที่จะเชิญตัวเจ้าสำนักลัทธิรักษาโรคประหลาดรายนี้มารับทราบข้อกล่าวหาเพิ่มเติม ตามขั้นตอนกฎหมายต่อไป
