มือปืนเป็นทหาร ยิงลูกค้านั่งรอตัดผม ปมทะเลาะเจ้าของร้าน เจอ 2 ข้อหาหนัก ส่งศาลทหารแล้ว แม่ค้าเห็นเหตุการณ์เผยมือปืนยินดูผลงาน
จากกรณียิงกันตายที่ร้านตัดผมในเขตเทศบาลตำบลโชคชัย อ.โชคชัย จ.นครราชสีมา สาเหตุจากผู้ต้องหาคือนายสหรัก โคตรวุฒ ใช้อาวุธปืนลูกซองยิงนายอนุวัช ควรหัตถ์ อายุ 35 ปี ช่างภายในโรงงาน ขณะมานั่งรอตัดผม สาเหตุเบื้องต้นมาจากนายสหรักไม่พอใจที่เจ้าของร้านตัดผมมาบอกให้นายสหรักย้ายรถไปจอดฝั่งตรงข้าม ก่อนที่นายสหรักจะนำรถยนต์ที่ขับมาย้ายไปจอดฝั่งตรงข้าม พร้อมนำอาวุธปืนลูกซองลงมาจากรถแล้วยิงนายอนุวัช ซึ่งไม่เกี่ยวข้องกับเรื่องราวที่เกิดขึ้น เป็นเพียงลูกค้ามานั่งรอตัดผมเพียงเท่านั้น หลังจากยิงนายอนุวัชเสร็จ นายสหรักขับรถพร้อมอาวุธปืนเข้ามอบตัวกับตำรวจ สภ.โชคชัย ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น
ล่าสุดวันที่ 15 พ.ค.65 ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่ไปยังบ้านพัก2 ต.โชคชัย อ.โชคชัย จ.นครราชสีมา ร้านตัดผมถานที่เกิดเหตุดังกล่าว พบนางประภาพัทร ผาดกระโทก อายุ 44 ปี เจ้าของร้านขายของชำที่อยู่ข้างๆ กับร้านตัดผมและเป็นผู้อยู่ในเหตุการณ์
นางประภาพัทร เล่าว่า ตอนขณะเกิดเหตุกำลังยืนอยู่ตรงเคาเตอร์หน้าร้านลูก วันนั้นมีหลายคนทั้งลูกค้าที่มารอตัดผมและลูกค้าที่มาซื้อของที่ร้าน ก่อนเกิดเหตุผู้ก่อเหตุได้เข้ามาซื้อเครื่องดื่มพร้อมไฟแช็คในร้าน เหมือนลูกค้าคนอื่น ขณะนั้นตนไม่ได้คิดอะไร พอหลังจากได้ยินเสียงปืนนัดแรกดังขึ้น ตนกับลูกค้าที่อยู่ในร้านอีก 2 คน ก็หมอบลงตรงเคาเตอร์ที่ร้าน ก่อนจะวิ่งเข้าไปยังหลังบ้านเพื่อซ่อนตัว จนตำรวจมาถึงที่เกิดเหตุ
ด้านนางปราณี หมายกระโทก อายุ 48 ปี แม่ค้าขายก๋วยเตี๋ยวผู้เห็นเหตุการณ์อีกราย เล่าว่า วันเกิดเหตุกำลังขายก๋วยเตี๋ยวอยู่ ก่อนเห็นผู้ก่อเหตุขับรถมาจอดอยู่ตรงข้ามร้าน ซึ่งตอนแรกม่ได้คิดอะไร เหตุแต่ผู้ก่อเหตุเดินไปเดินมาอยู่ที่รถ กว่าจะมารู้อีกทีก็ตอนที่ได้ยินเสียงปืนนัดที่ 2 ดังขึ้น เพราะเสียงปืนนัดแรกตนคิดว่าเป็นเสียงยางระเบิด แต่พอนัดที่ 2 ดังขึ้น ตนรีบหมอบลงเห็น แต่ลูกค้าที่ร้านวิ่งเข้ามาหลบในร้านและยังมีคนที่อยู่ฝั่งตรงข้ามก็วิ่งมาหลบที่ร้านด้วยเช่นกัน พอสิ้นเสียงปืนนัดที่ 2 ตนยืนขึ้นเห็นผู้ก่อเหตุโยนปืนไว้ที่ถังขยะหน้าร้านตัดผม ก่อนเดินข้ามฝั่งมาแล้วขึ้นไปนั่งอยู่บนกำแพงรั้วของโรงเรียน พร้อมกับมองไปยังร้านตัดผมประมาณ 2-3 นาที ก่อนเดินข้ามฝั่งไปหยิบปืนที่โยนทิ้งตรงถังขยะกลับมาพร้อมกับเดินมาที่รถ ขณะนั้นเพื่อนของตนตะโกนว่าให้หมอบลง เพราะตนกลัวจะเกิดเหตุการณ์ซ้ำรอยกับเหตุการณ์กราดยิง
ขณะนี้ตำรวจนำตัวผู้ต้องหาไปฝากขังที่ศาลทหาร ในมณฑลทหารบกที่ 21 เนื่องจากผู้ก่อเหตุยังเป็นทหารเกณฑ์อยู่ เบื้องต้นขณะนี้แจ้งไปแล้ว 2 ข้อหา คือ ฆ่าผู้อื่นโดยเจตนาและพกพาอาวุธปืนไปในเมือง หมู่บ้านหรือทางสาธารณะโดยไม่ได้รับอนุญาต
