แจ้งข้อหาด.ต.พิสูจน์หลักฐานจันทบุรีกับพวกทำร้ายร่างกาย หลังตื้บพ่อค้าไอติมดั้งแตก เจ้าตัวเอ่ยปากขอโทษอ้างไม่มีเจตนาอยากจับมือขอเป็นเพื่อน แต่เงิบโดนคู่กรณีปฏิเสธบอกจะทำให้คนสื่อว่าแถลงข่าวเพื่อจัดฉากให้เรื่องจบ

เมื่อเวลา 15.30 น. วันที่ 16 ม.ค. ที่ห้องประชุม สภ.เมืองจันทบุรี พล.ต.ต.จรัล จิตเจือจุน ผบก.ภ.จว.จันทบุรี พร้อมด้วย พ.ต.อ.ธนเสฏฐ์ อาจวารินทร์ ผกก.สภ.เมืองจันทบุรี, พ.ต.อ.สมศักดิ์ เกตุแก้ว ผกก.พิสูจน์หลักฐานจันทบุรี และ พ.ต.ท.ปิติ พานิช รอง ผกก.สส.(สอบสวน) สภ.เมืองจันทบุรี นำตัว ด.ต.ภิญโญ มาอินทร์ ตำรวจในสังกัดพิสูจน์หลักฐานจันทบุรี พร้อมด้วย นายวิชา มาอินทร์ อายุ 48 ปี และ นายธนชาติ แก้วกูร อายุ 43 ปี ผู้ต้องหาในคดีร่วมกันทำร้ายร่างกาย นายยงยศ โกสุม อายุ 37 ปี พ่อค้าไอศกรีม ซึ่งยังดำรงตำแหน่งผู้ช่วย ผู้ใหญ่บ้าน ม.12 ต.พลับพลา มาแถลงข่าวต่อสื่อมวลชน พร้อมกันนี้ได้เชิญตัวนายยงยศ ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน มาร่วมรับฟังการแถลงข่าวในครั้งนี้ด้วย อ่านข่าว ตร.ออกหมายเรียกรอบ2 ด.ต.ยกพวกตื้บพ่อค้าไอติม กำนัน-ผญบ.ฮือบุกโรงพักจี้เอาผิด

ทั้งนี้สืบเนื่องจาก กรณีที่ในโลกโซเชียลแชร์คลิปเหตุการณ์ ตำรวจพิสูจน์หลักฐานจันทบุรี พาพวกเป็นชาย 2 คน ไปเจรจาตกลงค่าเสียหาย จากการที่แฟนสาวซึ่งเป็นครู ขับรถเก๋งถอยชนรถจักรยานยนต์พ่อค้าไอศกรีม จนเกิดเหตุบานปลายหลังตำรวจในคลิปพูดจาข่มขู่ด้วยถ้อยคำไม่สุภาพ ก่อนหนึ่งในพวกจะกระโดดเข้าทำร้ายพ่อค้าไปศกรีมคือ นายยงยศ โกสุม อายุ 37 ปี ดั้งจมูกแตกขอบตาช้ำ

โดยเหตุการณ์เกิดขึ้นเมื่อช่วงเย็นวันที่ 10 ม.ค. ที่ผ่านมา ภายในโรงเรียนเทศบาลจันทบุรี 2 และอยู่ในสายตาของเด็กนักเรียนจำนวนมาก ภายหลังจากที่คลิปถูกแพร่กระจายออกไปทำให้ในสังคมตลอดจนชาวเน็ตต่างวิพากษ์วิจารณ์ ประณามการกระทำของตำรวจในคลิป ที่รับเงินเดือนจากภาษีของประชาชน กลับมาทำร้ายประชาชน และยังเหมารวมถึงการทำงานของพนักงานสอบสวน ว่าการดำเนินคดีเป็นไปด้วยความล่าช้า จะเป็นการช่วยเหลือพวกพ้องตำรวจด้วยกันหรือไม่นั้น

พล.ต.ตจรัล จิตเจือจุน ผบก.ภ.จว.จันทบุรี กล่าวว่า หลังเกิดเหตุการณ์ทางพนักงานสอบสวนเร่งทำคดีอย่างเต็มที่ โดยได้รวบรวมพยานหลักฐาน ทั้งคลิปภาพ ตลอดจนผลตรวจร่างกายของผู้เสียหาย พร้อมเชิญตัวคู่กรณีทั้ง 2 ฝ่าย ตลอดจนผู้ที่อยู่ในเหตุการณ์มาสอบปากคำ พบมีทั้งพยานและหลักฐานที่ชัดเจนครบถ้วน เบื้องต้นจึงแจ้งข้อหาทั้ง ด.ต.ภิญโญและพวก ร่วมกันทำร้ายร่างกายผู้อื่น เป็นเหตุได้รับบาดเจ็บทั้งร่างกายและจิตใจ

ในส่วนคดีจราจร กรณีนางวันวิสา มาอินทร์ แฟนสาวของด.ต.ภิญโญ ที่ขับรถยนต์ถอยชนรถของนายยงยศผู้เสียหาย สามารถเจรจาตกลงกันได้ โดยนางวันวิสายินยอมชดใช้ค่าเสียหายเป็นค่าซ่อมรถ จำนวน 1,500 บาทให้กับนายยงยศในทางคดี พนักงานสอบสวน เปรียบเทียบปรับนางวันวิสา เป็นจำนวนเงิน 500 บาท ในข้อหาขับรถโดยประมาท เฉี่ยวชนรถอื่นได้รับความเสียหาย

ต่อมา ด.ต.ภิญโญ กล่าวขอโทษทางนายยงยศ ผู้เสียหาย ต่อหน้าผู้บังคับการตำรวจภูธรและผู้บังคับบัญชาตลอดจนสื่อมวลชน โดยเอ่ยปากยอมรับว่าไม่มีเจตนาที่จะพาพวกไปทำร้ายนายยงยศ แต่เหตุการณ์ที่เกิดขึ้น อยู่ในช่วงชุลมุนไม่สามารถเข้าห้ามปรามได้ทัน หากย้อนกลับไปได้ก็ไม่อยากให้เกิดเหตุการณ์แบบนี้ และหากเป็นไปได้ก็จะขอจับมือเป็นเพื่อนกันดีกว่า

พร้อมกันนี้ ด.ต.ภิญโญ กล่าวขอโทษสังคมว่าสาเหตุที่หลังจากเกิดเหตุการณ์ ตนไม่ได้ออกมาชี้แจงข้อเท็จจริง เนื่องจากเห็นว่าฝ่ายผู้เสียหายตลอดจนสังคมออนไลน์อยู่ในอารมณ์ที่รุนแรง จึงเลี่ยงที่จะไม่จะเผชิญหน้า นอกจากนี้ ยังกล่าวขอโทษ สำนักงานพิสูจน์หลักฐานและสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ที่ประพฤติตนไม่เหมาะสม เสื่อมเสียชื่อเสียงแก่เพื่อนข้าราชการตำรวจ

โดยในขณะที่ ด.ต.ภิญโญจะลุกขึ้นไปจับมือ ทางด้านนายยงยศ กลับบอกว่ายินดีที่จะให้อภัย แต่ปฏิเสธที่จะไม่ขอจับมือเป็นเพื่อน โดยให้เหตุผลว่าจะทำให้ภาพที่ออกสื่อไป มองว่าการแถลงข่าวครั้งนี้เป็นการจัดฉากจงใจเพื่อให้เรื่องจบ

ด้าน นายยงยศ กล่าวว่า รู้สึกดีใจและพึงพอใจที่ทางตำรวจผู้รับผิดชอบคดีไม่ได้นิ่งเฉย สามารถติดตามผู้กระทำความผิดทั้งหมดมารับโทษได้ทั้งหมด ทั้งคดีจราจรและคดีทำร้ายร่างกาย โดยไม่ได้มีความเองเอียง เลือกปฏิบัติ แม้ว่าคู่กรณีจะเป็นข้าราชการตำรวจด้วยกัน ในส่วนตัวยินดีที่จะยอมรับคำขอโทษและให้อภัยกับการกระทำของด.ต.ภิญโญและพวก ส่วนเรื่องการดำเนินคดีให้เป็นไปตามกระบวนการกฎหมาย ตลอดจนการตรวจสอบทางวินัยของ สำนักงานพิสูจน์หลักฐาน, สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ต่อไป

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน