จากกรณี น.ส.ประดับ จันทร์อ่วม อายุ 71 ปี อ้างว่าตนเองทำสลากกินแบ่งรัฐบาลงวดวันที่ 1 ธ.ค.60 หมายเลข 451005 ซึ่งถูกรางวัลที่ 1 จำนวน 1 ใบ หายไปภายในวัดบางขวาก อ.สามชุก จ.สุพรรณบุรี จากนั้นทราบว่ามี น.ส.พรทิพย์ ปาลวงศ์ อายุ 35 ปี ชาวบ้านใน อ.สามชุก นำไปขึ้นเงินรางวัลจำนวน 6 ล้านบาทแล้ว อ่านข่าว : หวยหายโผล่อีก! ยายวัย 72 โร่ร้องกองปราบฯ ทำโชค 6 ล้านหายกลางวัด แต่กลับมีคนเอาไปขึ้นเงินแล้ว
ล่าสุดเมื่อวันที่ 19 ม.ค. พ.ต.อ.นิมิตร แสงอรุณ รอง ผบก.ภ.จว.สุพรรณบุรี เปิดเผยความคืบหน้าในคดีดังกล่าว ว่าเบื้องต้นผลตรวจดีเอ็นเอจากกองพิสูจน์หลักฐานกลางได้ออกมาแล้ว แต่ยังไม่สามารถเปิดเผยข้อมูลในตอนนี้ เนื่องจากเกรงว่าจะมีผลกระทบต่อสำนวนคดี อย่างไรก็ตาม หลังจากได้รับผลดีเอ็นเอจากกองพิสูจน์หลักฐานกลางแล้ว ทางตำรวจได้รวบรวมหลักฐานทั้งหมด ทั้งในส่วนของดีเอ็นเอบนใบสลากดังกล่าว พยานแวดล้อม และพยานบุคคลที่เกี่ยวข้องในคดีนี้ทั้งหมด เพื่อสรุปผลคดีนี้ โดยคาดว่าจะใช้เวลาอีกประมาณ 1 สัปดาห์
ต่อมาผู้สื่อข่าวเดินทางไปที่บ้านของน.ส.ประดับ ที่ต.ย่านยาว อ.สามชุก ได้พบกับนางประยูร แพร่งกระโทก พร้อมเปิดเผยว่า ขณะนี้น.ส.ประดับได้เดินทางไปอาศัยอยู่กับหลานชายที่กรุงเทพฯ ส่วนเรื่องที่เกี่ยวข้องกับคดีของน.ส.ประดับนั้น ตนไม่ขอพูดอะไร โดยตอนนี้ก็ใช้ชีวิตปกติ ทำน้ำพริกขาย ส่วนเรื่องคดีเบื้องต้นทางตำรวจได้แจ้งถึงผลตรวจดีเอ็นเอว่าออกมาแล้ว แต่ยังไม่ทราบผลว่าเป็นอย่างไร เพราะได้ส่งไปตรวจหลายอย่าง และยังต้องรอการรวบรวมพยานหลักฐานทั้งหมด ไม่ใช่ผลตรวจดีเอ็นเออย่างเดียว
“ซึ่งตนยังเชื่อมั่นในกระบวนการยุติธรรม และมีความเชื่อว่า ถ้าอะไรที่เป็นของเราจริง ก็ต้องเป็นของเรา ก็ไม่ขอพูดอะไรมาก ในขณะที่สภาพจิตใจของยายประดับก็ดีขึ้น และทางครอบครัวก็ยังมีความหวัง พร้อมยืนยันจะสู้คดีกันต่อไป จนถึงที่สุด” นางประยูร กล่าว
จากนั้น ผู้สื่อข่าวจึงเดินทางไปที่บ้านของน.ส.พรทิพย์ ปาลวงศ์ ซึ่งเป็นคู่กรณีที่เป็นร้านค้าอยู่ติดกับมหาวิทยาลัยแห่งหนึ่งในอ.สามชุก ซึ่งอยู่ไม่ไกลจากบ้านของน.ส.ประดับ โดยเบื้องต้นไม่พบน.ส.พรทิพย์แต่อย่างใด พบเพียงแม่ของน.ส.พรทิพย์เท่านั้น และปฏิเสธจะให้สัมภาษณ์