รมว.ยธ.ต่อชีวิตเจ้าของโรงงานอะไหล่รถยนต์ กรุงไทยลดหนี้ให้ 1 ล้าน ยายเฮที่ดินสมบัติชิ้นเดียวไม่ถูกยึด ออมสินใจดีลดหนี้ 1 แสน ถอดผู้ค้ำประกัน 2 ราย

เมื่อวันที่ 8 ก.ค.65 ที่เทศบาลตำบลบางปู จ.สมุทรปราการ มีการจัดงานมหกรรมไกล่เกลี่ยหนี้สินครัวเรือนครั้งที่ 42 และยุติธรรมพบประชาชน จ.สมุทรปราการ โดยมี นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รมว.ยุติธรรม (ยธ.) เป็นประธานเปิดงาน พร้อมด้วย นายวันชัย คงเกษม ผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรปราการ

นายวัลลภ นาคบัว รองปลัดกระทรวงยุติธรรม น.ส.เอมอร เสียงใหญ่ ผู้ตรวจราชการกระทรวงยุติธรรม น.ส.นันทวัน วงศ์ขจรกิตติ รองผู้จัดการกองทุนให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา (กยศ.) นายยงยุทธ สุวรรณบุตร ส.ส.สมุทรปราการ พรรคพลังประชารัฐ นายธีรพล ชุนเจริญ นายกเทศมนตรีตำบลบางปู เจ้าหน้าที่กระทรวงยุติธรรม และประชาชนร่วมงานจำนวนมาก โดยก่อนเข้างานมีการคัดกรองโควิด-19 อย่างเข้มงวด

นายสมศักดิ์ กล่าวว่า ดีใจที่ได้เดินทางมาเป็นประธานในงานมหกรรมไกล่เกลี่ยหนี้สินครัวเรือน และยุติธรรมพบประชาชน ครั้งที่ 42 มีเป้าหมายประชาชนที่เข้าร่วมงานครั้งนี้ 9,286 ราย ทุนทรัพย์ทั้งสิ้น 960 ล้านบาท

สำหรับงานมหกรรมไกล่เกลี่ยหนี้สินครัวเรือน 41 ครั้งที่ผ่านมา มีลูกหนี้ขอไกล่เกลี่ย 32,952 ราย ไกล่เกลี่ยสำเร็จ 30,499 ราย ลดค่าใช้จ่ายประชาชน 2,611 ล้านบาท นอกจากนี้ เรายังมีศูนย์ไกล่เกลี่ยก่อนฟ้องทั่วประเทศ 934 แห่ง ผู้ไกล่เกลี่ยก่อนฟ้อง 3,278 คน และสำนักงานบังคับคดีช่วยไกล่เกลี่ยหลังฟ้อง 117 แห่งทั่วประเทศ

รมว.ยธ. กล่าวอีกว่า ยังมีคนอื่นจำนวนมากที่ยังไม่มา ตนจะจัดงานใหญ่รวมอีกครั้งในช่วงปลายเดือนก.ย. ซึ่งจะเชิญท่านนายกรัฐมนตรีมาเป็นประธานด้วย ขอให้ลูกหนี้ที่ยังไม่ได้ไกล่เกลี่ยเคลียร์ตัวเองให้พร้อม

ทั้งนี้ จ.สมุทรปราการ มีโรงงานอุตสาหกรรมจำนวนมาก เรามีโครงการนำผู้ต้องขังที่ใกล้พ้นโทษออกมาทำงานในโรงงานอุตสาหกรรม จากการศึกษาของมหาวิทยาลัยที่กระทรวงยุติธรรมว่าจ้างให้ศึกษา สมุทรปราการเป็นหนึ่งในพื้นที่ที่สามารถจัดตั้งนิคมอุตสาหกรรมราชทัณฑ์ได้ และเราจะส่งแรงงานราชทัณฑ์ฝีมือดีเข้าไปช่วยทำงานหากโรงงานใดต้องการ

จากนั้นนายสมศักดิ์มอบเงินเยียวยาผู้เสียหายจากคดีอาญา มอบป้ายศูนย์ไกล่เกลี่ยข้อพิพาทภาคประชาชน และร่วมการไกล่เกลี่ยด้วยตนเอง รายแรกเป็นหนี้ธนาคารกรุงไทย 5,700,000 บาท โดยเป็นเจ้าของโรงงานอะไหล่รถยนต์ แต่เนื่องจากสถานการณ์โควิด-19 และเก็บเงินค่าของจากลูกค้าไม่ได้ ทำให้ค้างส่งจนมีค่าปรับพร้อมดอกเบี้ยรวมเป็น 6,000,000 บาท

โดยเจรจาขอจ่าย 5,000,000 บาท เพื่อปิดบัญชี รายต่อมา กู้เงินสวัสดิการจากธนาคารออมสิน 700,000 บาท ส่งแล้วเหลือ 550,000 บาทเศษ ออมสินลดให้ 108,000 บาทเหลือ 443,000 บาท เพื่อจ่ายปิดบัญชี และถอดผู้ค้ำประกันทั้ง 2 รายออกให้

อีกราย คุณยายวัย 67 ปี กู้โตโยต้า ลิสซิ่ง ซื้อรถยนต์ 1,000,000 ผ่อนมา 129,000 บาท เนื่องจากสถานการณ์โควิดทำให้ผ่อนไม่ไหว จึงนำรถคืน โดยมีที่ดินค้ำประกัน ซึ่งหักลบแล้วค้างชำระอีก 321,650 บาท โตโยต้าลดให้ 261,650 บาท เหลือต้องชำระอีก 60,000 บาท

โดยตอนแรกโตโยต้าให้ผ่อนเดือนละ 2,000 บาท แต่คุณยายมีรายได้เพียงวันละ 100-200 บาท นายสมศักดิ์จึงเจรจา ขอให้ผ่อนเดือนละ 1,000 บาท และขยายระยะเวลาเป็น 60 งวด และที่ดินที่เป็นสมบัติชิ้นเดียวจะไม่ถูกยึด รายสุดท้ายเป็นหนุ่มโรงงานลูกหนี้กยศ. กู้เงินมา 160,000 บาท ผ่อนมาแล้วเหลืออีก 90,000 บาท กยศ.ลดให้ 25,000 บาท เหลือ 65,000 บาท และให้ผ่อน 144 งวดๆละ 490 บาท

โดยลูกหนี้ทั้ง 4 ราย กล่าวขอบคุณ นายกรัฐมนตรี รัฐบาลและนายสมศักดิ์ ที่จัดโครงการดีๆแบบนี้ขึ้นมา เพราะการปลดหนี้และปรับโครงสร้างหนี้ เป็นการลดภาระให้กับประชาชน ทำให้มีชีวิตต่อไปได้ จึงอยากชวนลูกหนี้ทุกคนมาร่วมโครงการนี้ด้วย

 

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน