วันที่ 27 ต.ค. ชาวบ้านในชุมชนมุสลิมบ้านหนองถั่วแรด หมู่ 2 ต.เขาคราม อ.เมือง จ.กระบี่ ต้องย้ายสถานที่ละหมาด มาตั้งเต็นท์บนถนนเพื่อใช้เป็นสถานที่ละหมาดชั่วคราว หลังจากที่ระดับน้ำภายในสระเก็บน้ำหนองถั่วแรด ยังคงเอ่อท่วมถนนและมัสยิด และท่วมติดต่อกันนานกว่า 3 สัปดาห์ โดยระดับน้ำสูงเรื่อยๆ เกือบ 2 เมตร ทำให้ไม่สามารถเข้าไปปฏิบัติศาสนกิจได้ นอกจากนี้อาคารเรียนจริยธรรมของเยาวชนมุสลิม ที่เปิดสอนเสาร์-อาทิตย์ และโรงอาหารถูกน้ำท่วมทั้งหมด ทรัพย์สินภายในมัสยิดถูกขนย้ายไปไว้ที่สูง ส่วนสิ่งของที่เคลื่อนย้ายไม่ทันก็ได้รับความเสียหายจำนวนมาก
แม้ว่าชาวบ้านจะช่วยกันก่อกำแพงอิฐกั้นน้ำเข้าภายในตัวมัสยิด แต่ไม่สามารถกั้นไว้ได้เนื่องจากปริมาณน้ำเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ขณะนี้ชาวมุสลิมในพื้นที่ได้รับความเดือดร้อนเป็นอย่างมาก อยากให้หน่วยงานที่เกี่ยวช่วยแก้ปัญหาอย่างเร่งด่วนเนื่องจากระดับน้ำยังเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง
นายนายวิชัย ขาวขำ อิหม่ามมัสยิดบ้านหนองถั่วแรด กล่าวว่า ในบริเวณมัสยิดมัสยิดมี โรงเรียนจริยธรรมสอนศาสนาด้วย เด็กๆ ไม่ได้เรียนหนังสือมาเกือบเดือนแล้ว ส่วนภายในมัสยิดก็ไม่ไม่สามารถเข้าปฏิบัติศาสนกิจได้ เนื่องจากน้ำท่วมสูง กว่า 2 เมตรแล้ว จึงอยากให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องช่วยแก้ปัญหา เช่นอาจจะถมถนนที่อยู่ติดกับสระเก็บน้ำ เพื่อกั้นน้ำล้อมเข้ามัสยิด หรืออาจจะก่อกำแพงขึ้นมา เพื่อเป็นการแก้ปัญหาเฉพาะหน้า
ขณะที่นายศิลา ใสยิด นายก อบต.คลองหิน กล่าวว่า หลังจากฝนได้ตกลงมาอย่างต่อเนื่องติดต่อกันหลายวัน ส่งผลให้พื้นที่บ้านทุ่งค้อ ถูกน้ำท่วม เนื่องจากเป็นพื้นที่ลุ่มแอ่งกระทะ เมื่อฝนตกลงมาปริมาณมากและต่อเนื่องเป็นเวลานาน น้ำจากทุกทิศทางไหลมารวมที่เดียวกัน และซึมลงดินไม่ทัน จึงทำให้เกิดน้ำท่วมขัง และปริมาณสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง บางแห่งสูงกว่า 2 เมตร และได้จัดหาเรือท้องแบนมาให้ประชาชน ได้ใช้สัญจรเข้าออกเป็นการชั่วคราว
ซึ่งนอกจากบ้านของชาวบ้านถูกน้ำท่วม กว่า 18 หลัง พื้นที่ทางการเกษตร บ่อปลา มัสยิดและสุสานก็ต้องจมอยู่ใต้น้ำ จึงต้องเร่งหาทางระบายน้ำออกให้เร็วที่สุด โดยการนำรถแบคโฮขุดคูระบายน้ำไปตามแนวถนน รวมระยะทางกว่า 500 เมตร เพื่อระบายน้ำลงคลองที่อยู่ในละแวกใกล้เคียง สาเหตุที่ต้องขุดถนนเนื่องไม่มีผู้ใดยอมเสียพื้นที่สวนยางพาราและปาล์มน้ำมัน เพื่อใช้เป็นคูระบายน้ำ และหากฝนไม่ตกลงมาเพิ่มคาดว่าระดับน้ำก็จะลดลง
