เมื่อเวลา 09.30 น. วันที่ 20 ม.ค. ที่หน้าสำนักงานตำรวจภูธรภาค 3 นครราชสีมา พล.ต.ท.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผบช.ภาค 3 พร้อม พล.ต.ต.วัชรินทร์ บุญคง ผบก.ภ.จ.นครราชสีมา ,นายปรีชา อินทรชาธร จัดหางานจังหวัดนครราชสีมา และเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุม แถลงจับกุม นายก้องภพ ป้องคำลา อายุ 20 ปี อยู่บ้านเลขที่ 181 หมู่ 1 ต.ทับใต้ อ.หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ ผู้ต้องหาก่อเหตุหลอกลวงพาคนไปทำงานที่เกาหลีใต้ โดยมีบรรดากลุ่มผู้เสียหายตกเป็นเหยื่อหลายรายเดินทางมาชี้ตัวยืนยัน

พล.ต.ต.วัชรินทร์ เปิดเผยว่า ก่อนหน้ามีผู้เสียหายในพื้นที่ อ.ชุมพวง หลายราย ถูกนายก้องภพ หลอกลวงว่าเป็นนายหน้าจะช่วยพาไปทำงานที่ประเทศเกาหลีใต้ โดยต้องเสียค่าใช้จ่ายเพื่อดำเนินการด้านเอกสารบางส่วนรายละ 1-2 หมื่น และต้องโอนเงินเข้าบัญชีนายก้องภพ เพื่อเป็นใช้จ่ายในการดำเนินการเบื้องต้น มีคนหลงเชื่อและตกเป็นเหยื่อกว่า 10 ราย มูลค่าความเสียหายเกือบ 2 แสนบาท หลังจากที่จ่ายเงินดังกล่าวไม่ได้เดินทางไปทำงานตามที่ตกลงไว้ถึงได้รู้ว่าถูกหลอกจึงเข้าแจ้งความที่ สภ.ชุมพวง ให้ช่วยติดตามจับกุม ดำเนินคดีในข้อหา “ จัดหางานให้คนงานเพื่อไปทำงานยังต่างประเทศโดยไม่ได้รับอนุญาตจากนายทะเบียน จัดหางาน หรือหลอกลวงผู้อื่นว่าสามารถหางาน หรือส่งไปฝึกงานต่างประเทศได้ และการหลอกลวงดังว่านั้นได้ไปซึ่งทรัพย์สิน หรือประโยชน์อื่นใดจากผู้ถูกหลอกลวง และฉ้อโกงทรัพย์ ” ขอเตือนประชาชน ที่ต้องการไปทำงานหารายได้ต่างประเทศ ขอจงอย่าหลงเชื่อ ให้ติดต่อสอบถามข้อมูลโดยตรง ที่ สนง.จัดหางานจังหวัด ฯ จะได้ข้อมูลที่ดีกว่า

นายปรีชา กล่าวว่า อย่าหลงเชื่อบุคคลที่มาแอบอ้างทุกรู้แบบ การไปทำงานต่างประเทศ ไม่ใช่เรื่องยากเกินไป และไม่เสียค่าใช้จ่ายที่ไม่สมเหตุผล ทางจัดหางานโคราช ได้กำหนดจัดกิจกรรมสอบคัดเลือกคุณสมบัติแรงงาน ไปทำงานที่ประเทศเกาหลี ในวันที่ 2 -4 ก.พ. ที่ห้างสรรพสินค้าคลังพลาซ่า จอมสุรางค์ฯ หรือติดต่อสายด่วนจัดหางาน 1694 หากพบเบาะแส หรือการหลอกลวง

ด้าน น.ส.บุญเลิศ อาจดี อายุ 37 ปี หนึ่งในผู้เสียหาย บอกเล่าความรู้สึกว่า ได้รู้จักจากเพื่อนบ้าน ว่านายก้องภพ สามารถช่วยเหลือให้สามารถเดินทางไปทำงานที่เกาหลีได้ ตนก็ต้องการไปทำงานเนื่องจากได้ค่าจ้างมากว่าอยู่ประเทศไทย จึงขอเป็นเพื่อนทางเฟสบุ๊ค ก่อนติดต่อกันและจ่ายเงินไปให้หมื่นกว่าบาท แต่ไม่สามารถเดินทางไปได้ และมารู้ว่าหลายคนก็ไม่ได้เดินทางไปเช่นเดียวกันจึงพร้อมใจเข้าแจ้งความดำเนินคดีดังกล่าว เมื่อเข้าหน้าที่สามารถติดตามจับกุมนายก้องภพ ได้แล้ว รู้สึกดีใจขอให้กลุ่มผู้เสียหายกลุ่มนี้เป็นเหยื่อรายสุดท้าย ไม่อยากให้เรื่องนี้เกิดขึ้นกับใครอีก








Advertisement

ด้านนายก้องภพ ผู้ต้องหา อ้างว่า ตั้งใจเดินสายหลอกลวง ตั้งแต่แรก โดยความเป็นจริงไม่มีหน้าที่เป็นนายหน้าหาคนไปทำงานต่างประเทศแต่อย่างใด เพียงแต่ใช้ประสบการณ์ ที่เคยไปทำงานต่างประเทศ ในการหาช่องทางหลอกลวงให้ดูน่าเชื่อถือยิ่งขึ้น จะเรียกรับจากเหยื่อ รายละ 1-2 หมื่นบาท ซึ่งเป็นจำนวนไม่มาก ก็เพราะทราบว่าชาวบ้านส่วนใหญ่มีเงินไม่มากนัก จึงไม่กล้าหลอกเอามากมายนัก มีผู้ตกเป็นเหยื่อหลายรายก่อนที่จะถูกติดตามจับกุมตัว เงินที่ได้มานำไปใช้จ่าย ส่วนตัว และบ่อยครั้งจะนัดหมายรวมตัวกับกลุ่มเพื่อนเพื่อจัดงานปาร์ตี้

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน