จากกรณีที่มีคนร้ายลอบวางระเบิดจยย.บอมบ์ภายในตลาดพิมลชัย ใจกลางเมืองยะลา ในเขตเทศบาลนครยะลา จนเป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิต 3 ราย และบาดเจ็บอีก 18 ราย ขณะนี้นอนรักษาตัวที่ รพ.ศูนย์ยะลา ตามที่เสนอข่าวไปนั้น

ความคืบหน้า เมื่อวันที่ 22 ม.ค. พ.ต.อ.ประวิตร ช่อเส้ง ผกก.สภ.เมืองยะลาพร้อมด้วย ชุดเก็บกู้วัตถุระเบิด ชุดตำรวจกองพิสูจน์หลักฐานที่ 10 ยะลา ชุดกู้ชีพกู้ภัย แม่กอเหนี่ยว ยะลา เข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุ พบว่าคนร้าย 1 คน ขับขี่รถจักรยานยนต์ ยี่ห้อฮอนด้า รุ่นสกู๊ปปี้ สีดำ ไม่ทราบหมายเลขทะเบียน นำมาจอดที่เกิดเหตุ โดยมีผู้เห็นเหตุการณ์ได้ห้ามปรามไม่ให้จอดแต่ คนร้ายไม่ฟัง ได้จอดรถแล้ว ก็ออกจากพื้นที่โดยเร็ว โดยใช้เวลา 4-5 นาที ก็เกิดระเบิดขึ้น ในเบื้องต้นเจ้าหน้าที่กำลังไล่ตรวจสอบวงจรปิด ในเขตเมืองระหว่างที่คนร้ายนำรถเข้ามาจอดว่ามารูปพรรณอย่างไร และมาทางทิศทางไหน ก่อนเกิดเหตุ

คนร้ายลอบนำระเบิดซุกในถังแก๊สปิกนิก น้ำหนัก 20 กิโลกรัม แล้วนำมาจอดที่ด้านหน้าร้านเขียงหมู ภายในตลาดสดพิมลชัย (ตลาดรถไฟ) เป็นเหตุระเบิดเสียงดังสนั่นหวั่นไหว มีผู้เสียชีวิตในที่เกิดเหตุทันที 2 ราย ทราบชื่อ นางนารีรัตน์ แซ่ตั้ง เจ้าของเขียงหมู และชายไม่ทราบชื่อ ที่ขับรถผ่านในช่วงเวลาดังกล่าว และเสียชีวิตเพิ่มเติมที่โรงพยาบาลศูนย์ยะลา โดยมีผู้ได้รับบาดเจ็บจำนวน 18 ราย สำหรับผู้เสียชีวิต 3 ราย คือ 1.นางนารีรัตน์ แซ่ตั้ง 2.นางสุปรีดา เจนนฤมิตร และ 3.นายมะยากี แวนาแว

ด้าน พ.อ.ปราโมทย์ พรหมอินทร์ โฆษก กอ.รมน.ภาค 4 เข้าไปตรวจสอบที่เกิดเหตุด้วยตนเอง พร้อมเปิดแถลงข่าวต่อสื่อมวลชนทันที โดยได้กล่าวว่า จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นคนรายสร้างสถานการณ์ความรุนแรง ด้วยการลอบวางระเบิดแสวงเครื่องประกอบในรถจักรยานยนต์ โดยคนร้ายลอบนำระเบิดซุกในถังแก๊สปิกนิก น้ำหนัก 20 กิโลกรัม แล้วนำมาจอดที่ด้านหน้าร้านเขียงหมู ภายในตลาดสดพิมลชัย (ตลาดรถไฟ) เป็นเหตุระเบิดเสียงดังสนั่นหวั่นไหว มีผู้เสียชีวิตในที่เกิดเหตุทันที 2 ราย ทราบชื่อ นางนารีรัตน์ แซ่ตั้ง เจ้าของเขียงหมู และชายไม่ทราบชื่อ ที่ขับรถผ่านในช่วงเวลาดังกล่าว และเสียชีวิตเพิ่มเติมที่โรงพยาบาลศูนย์ยะลา โดยมีผู้ได้รับบาดเจ็บจำนวน 18 ราย สำหรับผู้เสียชีวิต 3 ราย คือ 1.นางนารีรัตน์ แซ่ตั้ง 2.นางสุปรีดา เจนนฤมิตร และ 3.นายมะยากี แวนาแว

“ในนามของประชาชนทุกหมู่เหล่า ทางพี่น้องไทยพุทธ และไทยมุสลิม ต้องขอแสดงความเสียใจ กับญาติและครอบครัว ของผู้ที่เสียชีวิต และปัจจัยดังกล่าว พร้อมทั้งขอวิงวอนให้ทุกฝ่าย ร่วมกันประณามในเรื่องของพฤติกรรมอันสุดโต่ง และชั่วร้าย ของกลุ่มคนร้ายที่ก่อเหตุในครั้งนี้ เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทางท่านรองนายกรัฐมนตรี และผู้บัญชาการทหารบก ได้รับรายงานในเบื้องต้น และสั่งการมายังท่านแม่ทัพภาคที่ 4 ให้เร่งรัดดำเนินการสองเรื่องใหญ่ๆ คือการช่วยเหลือผู้ที่ได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิต จากเหตุการณ์ดังกล่าว ซึ่งขณะนี้ทางจังหวัดยะลา ได้มาจากตั้งศูนย์รับเรื่องยาในพื้นที่อยู่แล้ว นอกจากนี้ ยังเร่งรัดในการติดตามคนร้าย ซึ่งขณะนี้เจ้าหน้าที่ดำเนินการรวบรวมวัตถุพยานและตรวจสอบจากภาพกล้องวงจรปิด” พ.อ.ปราโมทย์ กล่าว

ซึ่งจากการตรวจสอบในเบื้องต้นขณะนี้พอจะทราบเบาะแสของคนร้ายแล้ว คิดว่าในการที่จะบังคับใช้กฎหมายกับผู้ที่ก่อเหตุรุนแรงในครั้งนี้ รวมทั้งผู้ที่อยู่เบื้องหลังของเหตุการณ์ คงจะไม่ยากเกินไปที่จะใช้มาตรการทางกฎหมายในการดำเนินการอย่างเด็ดขาด ยังขอความร่วมมือพี่น้องประชาชนทุกพื้นที่ ให้ช่วยกันสอดส่องดูแลและช่วยกันเป็นหูเป็นตา

ที่ผ่านมาในเขตเทศบาลนครยะลาได้ปราศจากเหตุร้ายมาเป็นเวลานาน เหตุการณ์ในครั้งนี้ก็ได้สร้างความรู้สึกสะเทือนใจ และสูญเสียทั้งชีวิตและทรัพย์สิน ถึงแม้ว่าทางคนร้ายเลือกที่จะใช้ความรุนแรง แต่รัฐจะไม่ใช้ความรุนแรงในการตอบโต้อย่างเด็ดขาด เราจะใช้มาตรการทางกฎหมาย สำหรับญาติของผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บ ก็ขอให้มาแจ้งยังศูนย์รับแจ้งเหตุเร็วๆของจังหวัดยะลาซึ่งขณะนี้ได้เปิดทำการเรียบร้อยแล้ว

โฆษก กอ.รมน.ภาค4 กล่าวอีกว่า ขณะนี้ต้องขอเวลาให้เจ้าหน้าที่ได้ทำการตรวจสอบว่ากลุ่มที่ก่อเหตุในครั้งนี้ คงเป็นกลุ่มเดิมๆ ที่เจ้าหน้าที่มีฐานข้อมูลอยู่แล้ว ในส่วนการวางระบบรักษาความปลอดภัยในเขตพื้นที่เมือง ได้กำหนดเขตพื้นที่ไว้ 3 ส่วนด้วยกัน ในส่วนที่ 1 คือโซน เซฟตี้โซน ซึ่งวางระบบความปลอดภัยอย่างเข้มงวด สำหรับที่เกิดเหตุ ณ จุดนี้เป็นพื้นที่วงรอบเส้นกลาง ซึ่งจะใช้การรักษาความปลอดภัยในภาพรวมทั่วๆไป ประชาชนทั่วไป สามารถใช้ชีวิตได้อย่างปกติ

สำหรับบริเวณที่เกิดเหตุในครั้งนี้ก็คือบริเวณกลางตลาดพิมลชัย ซึ่งถือว่าเป็นจุดที่ประชาชนมาจับจ่ายใช้สอยซื้อของในตลาด ดังนั้นในเรื่องของการตรวจจะมีข้อจำกัด โดยคนร้ายก็เลือกอาศัยจังหวะช่องว่างส่วนนี้มาก่อเหตุ จากเหตุการณ์ในครั้งนี้เป็นเครื่องบ่งชี้ได้ชัดเจนว่า ทางกลุ่มคนร้ายยังไม่เคยละความพยายามที่จะดำเนินการอยู่ 3 เรื่องใหญ่ๆ ในเรื่องแรกคือ การทำลายชีวิตของประชาชน โดยไม่เลือกเป้าหมาย และการทำลายทรัพย์สินของพี่น้องประชาชน

เรื่องที่ 2 การทำลายภาพลักษณ์ทางเศรษฐกิจ ซึ่งขณะนี้ทางรัฐบาลอยู่ในระหว่างการขับเคลื่อนแผนพัฒนาเมืองต้นแบบ สามเหลี่ยม มั่นคง มั่งคั่ง และยั่งยืน ที่ได้รับกระแสตอบรับจากประชาชนอย่างกว้างขวาง และเรื่องที่ 3 คือการทำลายความเชื่อมั่นในระบบอำนาจรัฐ เพราะฉะนั้นอยากให้พี่น้องประชาชนได้ใช้สติ ในการรับทราบข้อมูลข่าวสาร ไม่ใช่ว่าเมื่อคนร้าย ไม่ทำร้ายพี่น้องประชาชนแล้วไปตีความว่าเขาไม่เคยทำร้ายประชาชน อยากให้มองย้อนกลับไป เมื่อ 10 กว่าปีที่ผ่านมา มีพี่น้องประชาชนผู้บริสุทธิ์ต้องตกเป็นเหยื่อหลายพันคน ซึ่งจากการกระทำของกลุ่มผู้ก่อเหตุรุนแรงที่มีพฤติกรรมแบบสุดโต่ง รวมทั้งเหตุการณ์ในครั้งนี้ก็เช่นเดียวกัน รู้ทั้งรู้ว่าพื้นที่ในตลาดมีประชาชนออกมาจับจ่ายใช้สอย แต่เขายังเลือกที่จะก่อเหตุในบริเวณนี้และเวลานี้ ดังนั้นจึงแสดงให้เห็นว่าเป็นความพยายามเดิมของกลุ่มคนร้าย ที่มุ่งที่จะทำร้ายประชาชน

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน