ตร.ขอศาลออกหมายจับล่าตัวเมียสาวคนไทยกับชู้ฝรั่งฆ่าหั่นเผานั่งยางชายอิตาลีแล้ว เผยพบรุจิราแอบไปเปลี่ยนมือถือในห้างก่อนกดเงินสดของผู้ตายไปเกลี้ยง ตร.คาดจับตัวได้เร็วๆ นี้ ลูกชายเดินทางมาดูศพชายชาวอิตาลี ยืนยันเป็นศพพ่อจริง 100 เปอร์เซ็นต์

จากกรณีนายจูเซปเป เดอ สเตฟานี อายุ 62 ปี ชาวอิตาลี ถูกฆ่าและนำศพมาเผายางที่บริเวณอ่างเก็บน้ำ บ้านบึงทับจั่น หมู่ที่ 3 ต.แหลมรัง อ.บึงนางราง จ.พิจิตร เมื่อวันที่ 19 ม.ค.ที่ผ่านมา โดยหลักฐานจากชิ้นที่เหลือจากไฟไหม้มีรอยสักที่น่องขวา เป็นรูปกราฟิกสีดำ เป็นสัญลักษณ์ในการสืบหาผู้เสียชีวิต ต่อมาตำรวจทราบว่าคนร้ายที่ก่อเหตุคาดว่าคือ นางรุจิรา คล้ายละมัย อายุ 38 ปี ภรรยาของผู้ตาย และนายฮามัวรี่ ริกกัว ชาวฝรั่งเศส สามีอีกคนหนึ่ง ซึ่งหลังก่อเหตุหลบหนีไป พร้อมด้วยรถยนต์ ยี่ห้อโตโยต้า รุ่นยาริส สีบอร์น ทะเบียน กค1374 สมุทรสงคราม ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น อ่านข่าว เผยเหยื่อถูกเผานั่งยางเป็นชาวอิตาลี ตร.สรุปถูกเมียคนไทยและชายชู้ฝรั่งเศสฆ่าโหด

ความคืบหน้า เมื่อวันที่ 23 ม.ค. พล.ต.ต.สุกิจ สมณะ รองผู้บัญชาการตำรวจภูธร ภาค 6 เดินทางมาดูความคืบหน้าเกี่ยวกับคดีฆ่าเผายางชาวอิตาลี และเดินทางไปดูที่เกิดเหตุเผานั่งยาง และบ้านนางรุจิรา จากนั้นมาประชุมเรื่องคดี โดยมี พล.ต.ต.ธวัชชัย มวญนรา ผบก.ภ.จว.พิจิตร พร้อมด้วย ตำรวจท่องเที่ยว ตำรวจตรวจคนเข้าเมือง และเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน ภาค 6 และชุดสืบสวนจังหวัดพิจิตร เข้าร่วมประชุมหาแนวทางการสืบสวน

ภายหลังการประชุม พล.ต.ต.สุกิจ รอง ผบช.ภ.6 เปิดเผยว่า ได้รับมอบหมายจากผู้บัญชาการตำรวจภูธร ภาค 6 ให้เข้ามากำกับดูแลคดีนี้ เพราะเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นคดีสะเทือนขวัญและประชาชนให้ความสนใจเป็นอย่างมาก ซึ่งในวันนี้ได้เรียกประชุมชุดสืบสวนทั้งในจังหวัดพิจิตร และชุดสืบสวนของภาค 6 รวมทั้งตำรวจท่องเที่ยว ตำรวจตรวจคนเข้าเมือง มาร่วมประชุมหาแนวทางการสืบสวน และเร่งไล่ล่าตัวคนร้าย ซึ่งมั่นใจแล้วว่าคนร้ายคือนางรุจิราและนายฮามัวนี่ ซึ่งคดีนี้มีความคืบหน้าเป็นอย่างมาก ซึ่งสามารถจับตัวคนร้ายที่ก่อเหตุได้อย่างแน่นอน

พล.ต.ต.สุกิจ กล่าวต่อว่า ส่วนลูกชายของนายจูเซปเป เดอ สเตฟานี คือ นายลูก้า เดอ สเตฟานี อายุ 30 ปี หลังจากที่ทราบข่าวก็เดินทางมาดูศพ และยืนยันกับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจว่าผู้เสียชีวิตนั้นคือพ่อของตนเองอย่างแน่นอน เพราะจำรอยสักที่ต้นขาขวาได้ ซึ่งนายลูก้ายืนยัน ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจะนำตัวนายลูก้าไปพิสูจน์ดีเอ็นเออีกครั้ง เพื่อยืนยันข้อเท็จจริง

ด้าน พล.ต.ต.ธวัชชัย เปิดเผยว่า ขณะนี้สอบพยานไปแล้ว 10 ปาก ซึ่งเก็บหลักฐานรวบรวมเอาไว้ ซึ่งตอนนี้ก็ขอให้จับตัวนางรุจิราและนายฮามัวนี่ได้เสียก่อน เพราะทราบว่า มีผู้ร่วมกันกระทำความผิดอีก 3 ราย ซึ่งในวันนี้ เราเข้าไปตรวจสอบยังที่เกิดเหตุอีก 3 จุด ซึ่งก็พบเบาะแสเกี่ยวกับหลักฐานต่างๆมากมาย โดยเฉพาะถังน้ำ ที่อยู่ในบ้านของนางรุจิราและปรากฏว่า ถังใส่น้ำนั้นไปอยู่ในที่เกิดเหตุ ซึ่งเชื่อว่านางรุจิรานำถังไปใส่น้ำมันเพื่อเผาร่างนายจูเซปเป้

ผบก.ภ.จว.พิจิตร กล่าวอีกว่า ส่วนกรณีเรื่องโทรศัพท์มือถือของนางรุจิราที่ทราบว่า มีการโทรครั้งสุดท้ายนั้นอยู่ในพื้นที่จังหวัดกำแพงเพชร จากนั้นปิดเครื่องล่าสุดทราบว่านางรุจิรานำโทรศัพท์เครื่องดังกล่าว เข้าไปที่ห้างแม็คโครและเปลี่ยนเครื่องใหม่ ซึ่งตอนนี้เชื่อว่านางรุจิรา กำลังติดต่อขอความช่วยเหลือจากคนรู้จัก เพราะหลังจากที่ก่อเหตุ นางรุจิรานำบัตรเอทีเอ็มธนาคารไทยพาณิชย์ของนายจูเซปเป้ ไปกดที่ตู้เอทีเอ็มธนาคารกสิกรไทย ซึ่งกดเงินไปจนหมด ซึ่งตอนนี้ตำรวจกำลังเร่งล่าตัวอย่างกระชั้นชิด คาดว่าอีกไม่นานต้องได้ตัวอย่างแน่นอน เพราะเงินของนางรุจิรานั้นคงหมด

พล.ต.ต.ธวัชชัย กล่าวเสริมอีกว่า ส่วนนายฮามัวนี่นั้นไม่มีเงิน เพราะเป็นบุคลต้องห้าม ติดแบล็คลิสต์ห้ามเข้าประเทศไทย แต่ก็รู้จักวิธีการหลบหนี เพราะลักลอบเข้ามาเมืองไทย โดยการแอบผ่านเข้ามาทางประเทศลาว

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ขณะนี้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจขออนุมัติศาลพิจิตรออกหมายจับนางรุจิรา และนายฮามัวนี่แล้ว ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ได้แจ้งเบาะแสว่า นายฮามัวนี่นั้นมีบาดแผลถูกฟันที่ใบหน้า เป็นทางยาว หากผู้ใดพบเห็นให้แจ้งทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุมได้ทันที

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน