แม่สุดช็อก พ่อเลี้ยงหื่น ย่ำยีลูกสาว วัย 14 ปี จนตั้งครรภ์ 7 เดือน ขู่ฆ่ายกครัวถ้าความจริงถูกเปิดเผย โร่ ขอความช่วยเหลือกำนัน ก่อนเข้าแจ้งความจับ

เมื่อเวลา 11.00 น. วันที่ 6 ส.ค.2565 ที่สภ.น้ำพอง นายฉัตรชัย โลหะมาตย์ กำนันตำบลแห่งหนึ่ง พร้อมด้วย น.ส.เอ (นามสมมุติ) อายุ 36 ปี และ ด.ญ.บี (นามสมมุติ) อายุ 14 ปี เดินทางเข้าแจ้งความกับ ร.ต.อ.อภิเดช จังพล สารวัตร(สอบสวน) สภ.น้ำพอง หลังจากที่ ด.ญ.บี (นามสมมติ) ถูกพ่อเลี้ยงชื่อ นายชัย (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 32 ปี ข่มขืนจนตั้งครรภ์ 7 เดือน เพื่อให้เจ้าหน้าที่ตำรวจติดตามจับกุมมาดำเนินคดีตามกฎหมาย

น.ส.เอ กล่าวว่า ตนเคยมีสามีและมีบุตรด้วยกัน 2 คน คือชาย 1 คน หญิง 1 คน แต่เลิกกับสามีที่เป็นพ่อของลูกสองคนไปหลายปี ต่อมาปี 2556 ขณะที่น้องบี อายุ 5 ขวบ ลูกชายอายุ 11 ขวบ ตนก็ได้มีสามีใหม่คือนายชัย ต่อมาเมื่อลูกสาวอายุ 9 ขวบ ก็มาบอกว่า พ่อเลี้ยงอนาจาร เมื่อสอบถามสามีก็บ่ายเบี่ยงและบอกว่า ลูกสาวใส่ความ เพราะเป็นเพียงการห่มผ้าให้ลูกสาวเท่านั้น ตนก็คลางแคลงใจ แต่ตอนนั้นไม่ได้อยู่กับลูกสาวจึงสบายใจขึ้น

น.ส.เอ กล่าวต่อว่า ต่อมาปี 2563 ได้ไปทำงานที่โรงงานแห่งหนึ่งในพื้นที่ จ.ระยอง โดยพาน้องบี ลูกสาวไปอยู่ด้วย ส่วนลูกชายให้อยู่กับยายและยายทวดที่บ้านใน อ.น้ำพอง ซึ่งเมื่อย้ายไปทำงานที่ระยอง ลูกสาวเรียนอยู่ที่โรงเรียนแห่งหนึ่ง แต่โควิดระบาดทำให้โรงเรียนปิด ลูกสาวก็อยู่ที่บ้านเช่า กระทั่งโรงงานปิดและว่างงาน

น.ส.เอ กล่าวอีกว่า ในช่วงเดือน มิ.ย.2564 ได้งานทำ แต่นายชัย หรือพ่อเลี้ยงของน้องบี ยังไม่ได้งาน และอยู่ที่บ้านเช่ากับน้องบี ซึ่งตนจะเข้าทำงานตั้งแต่เวลา 07.00 น. และทำโอทีจนถึง 22.00 น. กลับมาก็ดึก ส่วนลูกสาวขณะนั้นเรียนอยู่ชั้นม.1 แต่โรงเรียนหยุดเพราะโควิดระบาด กระทั่งเดือนเม.ย.2565 ยายทวดป่วย แม่จึงเรียกให้กลับมาดูยายทวดที่บ้าน จึงพาลูกสาวและสามีกลับมาอยู่บ้านที่น้ำพอง เมื่ออาการยายทวดดีขึ้น จึงพากันไปอยู่บ้านสามีที่บ้านกระนวน อ.ซำสูง จ.ขอนแก่น

“จากนั้นเราก็หางานทำ และได้ทำงาน รวมทั้งหาที่เรียนให้ลูกสาวด้วย โดยได้เรียนชั้น ม.2 ที่โรงเรียนแห่งหนึ่ง เราทำงานไปเช้าเย็นกลับทุกวัน ซึ่งช่วงที่น้องบีลูกสาวต้องไปโรงเรียนนั้น ไปเรียนได้ไม่นานก็บ่นปวดท้อง จึงนอนอยู่บ้าน เราสงสัยว่าลูกสาวเป็นกระเพาะอีกเสบ ซื้อยากระเพาะ ยาแก้ปวดมาให้ลูกสาวกิน ก็ไม่หาย”

น.ส.เอ กล่าวต่อว่า จนกระทั่งวันที่ 22 ก.ค.ที่ผ่านมา ลูกสาวปวดท้องอย่างหนัก จึงพาไปหาหมอที่ รพ.สต.แห่งหนึ่ง แต่ถูกส่งตัวไปตรวจอย่างละเอียดที่โรงพยาบาลน้ำพอง เมื่อแพทย์ตรวจอย่างละเอียดจึงพบว่า ลูกสาวตั้งครรภ์ได้ 7 เดือนแล้ว ซึ่งขณะนั้นลูกสาวไม่บอก ไม่เล่าอะไรให้ฟัง จึงถามลูกสาวว่า ท้องกับใคร ลูกสาวบอกเพียงว่ากับเพื่อนผู้ชาย จึงถามลูกสาวต่ออีกว่า เสียตัวให้ผู้ชายกี่คน กี่ครั้ง จนท้อง 7 เดือน น้องตอบว่า เสียตัวกับผู้ชายคนเดียวครั้งเดียว ตนจึงไม่ถามต่อ บอกลูกเพียงว่า ให้เข้มแข็ง

น.ส.เอ กล่าวอีกว่า ต่อมาวันที่ 6 ส.ค.ที่ผ่านมา แม่ของตนหรือยายของน้องบี มาบอกว่า น้องท้องเพราะถูกพ่อเลี้ยงข่มขืนหลายครั้ง เมื่อทราบเรื่องจากแม่ จึงถามเอาความจริงกับน้องบี จนทราบความจริงว่าเหตุการณ์เกิดขึ้นที่ จ.ระยอง ขณะที่ตนออกไปทำงาน น้องอยู่บ้านเช่ากับพ่อเลี้ยงที่ว่างงาน ก็ถูกพ่อเลี้ยงข่มขืนหลายครั้ง และถูกพ่อเลี้ยงขู่ว่า อย่าบอกใคร ถ้าบอกจะฆ่าทิ้งทั้งบ้าน ลูกจึงไม่กล้าบอก

น.ส.เอ กล่าวด้วยว่า และช่วงที่ไปอยู่บ้านพ่อเลี้ยง ที่อ.ซำสูง พ่อเลี้ยงก็พาไปหลับนอนในรีสอร์ตแห่งหนึ่งหลายครั้ง ซึ่งลูกสาวรู้ว่าตัวเองตั้งครรภ์ ตั้งแต่กลับมาอยู่ที่บ้านพ่อเลี้ยง แต่ไม่กล้าบอกแม่ เพราะทุกครั้งที่พ่อเลี้ยงหลับนอนด้วยจะถูกข่มขู่ บังคับหลับนอนด้วยความหื่นและรุนแรง ลูกจึงไม่กล้าบอกแม่เพราะกลัวจะถูกฆ่า

“กระทั่งวันที่ 6 สค.ที่ผ่านมา ยายถามน้องบีว่า คิดถึงพ่อของลูกในท้องหรือไม่ น้องบีตอบว่า ไม่คิดถึง เพราะเกลียดมัน ยายจึงถามอีกว่า เขาเป็นพ่อของลูกจะเกลียดทำไม น้องบีตอบว่า ไม่ได้เต็มใจ ไม่ได้รัก และร้องไห้อย่างหนัก ยายจึงถามอีกว่า เขาข่มขืนหรืออย่างไร มันเป็นใคร ใช่พ่อเลี้ยงหรือไม่ น้องจึงยอมเล่าความจริงทุกอย่างให้ยายฟัง เมื่อยายรู้ จึงโทรหานายจ้าง ให้นายจ้างประสานขอความช่วยเหลือจากกำนัน ให้กำนันพาเข้าแจ้งความกับตำรวจ สภ.น้ำพอง ให้จับกุมนายชัยมาดำเนินคดีให้ถึงที่สุด” น.ส.เอ กล่าว

น.ส.เอ กล่าวต่อว่า นายชัยเสพยาบ้าและติดยาบ้ามานาน บอกให้เลิกก็ไม่เลิกแล้วยังมาก่อเหตุข่มขืนลูกสาวจนตั้งครรภ์ เมื่อทราบความจริงจากลูกสาวจึงสอบถามกับนายชัยว่าทำลูกสาวจริงหรือไม่ นายชัยตอบว่า ไม่ได้ทำ น่าจะเป็นชายอื่นทำให้ลูกท้อง ตนจึงบอกว่า ความจริงจะถูกเปิดเผย เมื่อน้องคลอดลูกและตรวจดีเอ็นเอ ซึ่งนายชัยก็ยังยืนยันว่าไม่ได้ข่มขืนลูกเลี้ยง แต่ก็หายตัวไป

“ขณะที่น้องบีบอกอีกว่า พ่อเลี้ยงขู่ฆ่าน้องและคนในครอบครัว แล้วยังสอนให้น้องบอกกับทุกคนว่า เมื่อท้องโตแล้ว ถ้ามีคนถามให้บอกว่าท้องกับเพื่อนชาย ห้ามบอกว่าท้องกับพ่อเลี้ยง และถ้าความจริงถูกเปิดเผยจากปากน้องจะฆ่าทิ้งยกครัว จนทำให้คิดว่า สิ่งที่เกิดขึ้นกับลูกสาว เป็นเรื่องที่ไม่น่าภูมิใจ เพราะเกิดจากการกระทำของพ่อเลี้ยง ติดยาเสพติด สิ้นคิด เมื่อลูกสาวคลอดลูกออกมาก็จะบริจาคทารกให้โรงพยาบาลหรือมูลนิธิหรือหน่วยงานต่าง ๆ รับเด็กไปเลี้ยง เพราะครอบครัวไม่มีปัญญาเลี้ยงดู เนื่องจากฐานะยากจน” น.ส.เอ กล่าว

ด้าน ร.ต.อ.อภิเดช กล่าวว่า เรื่องดังกล่าว เป็นเรื่องละเอียดอ่อน เกิดขึ้นในครอบครัว การสอบสวนผู้เสียหายที่เป็นเด็กหญิงต้องละเอียด จากนั้นก็จะได้ขอหมายจับจากศาลจับกุมพ่อเลี้ยง ในข้อหา ข่มขืนผู้เยาว์ที่มีอายุต่ำกว่า 15 ปี ที่มิใช่ภรรยาตน เบื้องต้นทราบว่า พ่อเลี้ยงหนีออกจากบ้าน หลังความจริงเปิดเผย ซึ่งขณะนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนสภ.น้ำพองกำลังตามหาตัวพ่อเลี้ยงรายดังกล่าวอยู่

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน