จากกรณีไลน์หลุด ผอ.รร.แห่งหนึ่งใน จ.นครราชสีมา มีความสัมพันธ์ชู้สาวกับเด็กนักเรียนหญิงชั้น ม.2 ของโรงเรียน พร้อมส่งข้อความหวานซึ้ง ต่างฝ่ายต่างเรียกกันว่า “ที่รัก” และ ผอ.เรียกนักเรียนหญิงว่า “เมีย” ต่อมาเมื่อวันที่ 23 ม.ค. สำนักงานเขตพื้นที่ประถมศึกษานครราชสีมา เขต 6 ได้มีการสั่งย้ายผอ.โรงเรียนคนดังกล่าวเร่งด่วน พร้อมตั้งคณะกรรมการสืบหาข้อเท็จจริง รายงานผลภายใน 7 วัน

ล่าสุดเมื่อวันที่ 25 ม.ค. นายธวัชชัย ไทยเขียว รองปลัดกระทรวงยุติธรรม (ยธ.) และโฆษก ยธ. เปิดเผยถึงกรณีดังกล่าวผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัวว่า “คุกครับคุก กรณี ผอ.รร.มีความสัมพันธ์ชู้สาวกับเด็กนักเรียนหญิงชั้น ม.2 เป็นคดีอาญาที่ยอมความไม่ได้ และหากบิดามารดายินยอมเข้าข่ายผิดกฎหมายคุ้มครองเด็ก กรณีผู้อำนวยการโรงเรียนกระทำความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 277 ผู้ใดกระทำชำเราเด็กอายุยังไม่เกินสิบห้าปีซึ่งมิใช่ภริยาหรือสามีของตน โดยเด็กนั้นจะยินยอมหรือไม่ก็ตาม ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่ 4 ปีถึง 20 ปี และปรับตั้งแต่ 8,000 บาท ถึง 40,000 บาท ซึ่งเป็นคดีอาญาที่ยอมความไม่ได้

นายธวัชชัย เปิดเผยอีกว่า ขณะที่ตามพ.ร.บ.คุ้มครองเด็ก พ.ศ. 2546 มาตรา 26 (3) ภายใต้บังคับบทบัญญัติแห่งกฎหมายอื่น ไม่ว่าเด็กจะยินยอมหรือไม่ห้ามมิให้ผู้ใดกระทำการบังคับ ขู่เข็ญ ชักจูง ส่งเสริม หรือยินยอมให้เด็กประพฤติตนไม่สมควรหรือน่าจะทำให้เด็กมีความประพฤติเสี่ยงต่อการกระทำผิด และมาตรา 79 ผู้ใดฝ่าฝืน หรือ ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 6 เดือน หรือปรับไม่เกิน 60,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

ดังนั้น บิดามารดาหรือผู้ปกครองยินยอมอาจเข้าข่ายส่งเสริมหรือยินยอมตาม พรบ.คุ้มครองเด็กฯ มาตรา 26(3)”

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน