กรมป่าไม้ รับโอนภารกิจ “นอกเขตป่าอนุรักษ์” จากกรมอุทยานฯ ทั้งพื้นที่ หน่วยงานทั้งสถาบันประชารัฐพิทักษ์ป่า หน่วยป้องกันรักษาป่า โครงการพระราชดำริ หน่วยควบคุมไฟป่า หน่วยจัดการต้นน้ำ รวมทั้งอัตรากำลัง

เมื่อวันที่ 15 ก.ย. นายวราวุธ ศิลปอาชา รมว.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม(ทส.) เปิดเผยว่า กรมป่าไม้ โดยนายสุรชัย อจลบุญ อธิบดีกรมป่าไม้ และ กรมอุทยานแห่งชาติ สัตวป่า และพันธุ์พืช อธิบดีกรมอุทยานฯ ได้ลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือการโอนภารกิจ หน่วยงาน พื้นที่และทรัพยากรการบริหารของทั้ง 2 หน่วยงาน ให้ถูกต้องตามภารกิจและอำนาจหน้าที่ตามกฎหมายของแต่ละหน่วยงานเพื่อให้การปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่สามารถปฏิบัติงานตามแผนงานให้เกิดผลสัมฤทธิ์สูงสุด

โดยให้กรมอุทยานแห่งชาติฯ ดำเนินการโอนพื้นที่และหน่วยงาน อัตรากำลังให้กับกรมป่าไม้ อาทิ สถาบันประชารัฐพิทักษ์ป่า จังหวัดแพร่ อาคารหอพรรณไม้ และหน่วยงานของกรมอุทยานแห่งชาติฯ ที่อยู่นอกเขตป่าอนุรักษ์ เช่น ฐานปฏิบัติการป้องกันรักษาป่า หน่วยป้องกันรักษาป่า โครงการพระราชดำริ หน่วยควบคุมไฟป่า หน่วยจัดการต้นน้ำ อาคารไพโรจน์ สุวรรณกร พร้อมครุภัณฑ์ที่ติดตั้งประจำอาคาร ห้องสมุดพร้อมครุภัณฑ์ที่ติดตั้ง ในพื้นที่บริเวณชั้น 1 อาคารเทียมคมกฤส กรมป่าไม้ ฯลฯ ซึ่งจะดำเนินการให้แล้วเสร็จภายในวันที่ 30 ก.ย.2565

รมว.ทส. กล่าวต่อว่า สำหรับการส่งมอบดังกล่าว กรมป่าไม้ วางแผนที่จะนำอาคารสถานที่ ที่ได้รับมอบ อย่างเช่นสถาบันประชารัฐพิทักษ์ป่า จังหวัดแพร่ ในอนาคตจะได้นำมาใช้เป็นสถาบันพัฒนาบุคลากร ให้กับเจ้าหน้าที่กรมป่าไม้ และเครือข่ายกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ในการใช้เป็นสถานที่ฝึกอบรมให้ความรู้ นอกจากนี้อาคารบางส่วนที่มีอายุกว่า 117 ปี ซึ่งปัจจุบันมีอยู่ 3 หลัง กรมป่าไม้ได้ขอให้กรมศิลปากรเข้ามาช่วยในการดำเนินการบูรณะซ่อมแซมและจะขอขึ้นทะเบียนให้เป็นโบราณสถาน และใช้เป็นพิพิธภัณฑ์การป่าไม้ที่รวบรวมเรื่องราวเกี่ยวกับประวัติการทำไม้ในจังหวัดแพร่ นอกจากนี้หน่วยงานที่อยู่นอกเขตป่าอนุรักษ์รวมถึงอัตรากำลัง กรมป่าไม้ได้วางแผนให้เจ้าหน้าที่ที่ปฏิบัติหน้าที่อยู่เดิมได้ทำงานร่วมกับเจ้าหน้าที่ของกรมป่าไม้ เพื่อเป็นการเสริมศักยภาพในการป้องกันรักษาป่าในพื้นที่ยิ่งขึ้น

นายสุรชัย อจลบุญ อธิบดีกรมป่าไม้

 

“การส่งมอบและรับมอบภารกิจในครั้งนี้ ถือเป็นจุดเริ่มต้นสำคัญในการบูรณาการร่วมกันของหน่วยงานในสังกัด ทส.เพื่อลดปัญหาและอุปสรรคในการปฏิบัติงาน ขอให้ทั้ง 2 หน่วยงาน รักษามาตรฐานในการทำงาน มีความซื่อสัตย์สุจริต มีวินัย มีความอดทนและขยันหมั่นเพียรในการทำงานเพื่อผนึกกำลังในการดูแลป้องกันทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมให้คงความสมบูรณ์สืบไป และขอให้ทั้ง 2 หน่วยงานทำความเข้าใจกับผู้ปฏิบัติงานทั้งในส่วนกลางและส่วนภูมิภาคให้เกิดความเข้าใจร่วมกัน โดยยึดมั่นในผลประโยชน์ของทางราชการ รวมทั้งร่วมกันแก้ปัญหาให้ประชาชนได้รับผลประโยชน์สูงสุด ภายใต้แนวคิด ทส. เป็นหนึ่งเดียว” นายวราวุธ กล่าว

 

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน