พ่อรับโมโหแมว ชอบกัดลูกชิ้น เลยพาไปปล่อย กลับโดดหนีโดนรถชนตาย

พ่อเปิดใจ แมวชอบมากัดลูกชิ้น ที่เตรียมไว้ขาย ทำให้โมโหพาขึ้นซาเล้ง จะเอาไปปล่อย แต่แมวกลับโดดหนีทำให้ถูกรถชนตาย รับเสียใจที่ลูกแจ้งจับ

จากกรณีแฟนเพจเฟซบุ๊ก มูลนิธิวอชด็อคไทยแลนด์ โพสต์เรื่องราวของ ลูกสาวที่แจ้งความพ่อแท้ๆ ตัวเอง ที่ขโมยเอาแมวไปปล่อยทิ้งจนถูกรถชนตายนั้น โดยเหตุเกิดในพื้นที่ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี โดยลูกสาวเผยอยากให้พ่อรู้ในสิทธิของคนอื่น ไม่ใช่เป็นพ่อแม่แล้วทำอะไรก็ได้ ตามที่ได้นำเสนอข่าวไปแล้วนั้น

ความคืบหน้าเมื่อวันที่ 26 ก.ย. 2565 นายไพศาล อย่างตระกูล 69 ปี พ่อที่ถูกลูกสาวแจ้งความ เปิดเผยว่า ตนมีอาชีพขายลูกชิ้น โดยลูกสาวได้นำแมวมาฝากเลี้ยง ซึ่งแมวตัวนี้จะคอยรบกวนตนขณะทำลูกชิ้น และแมวก็จะมากัดลูกชิ้นหลายครั้ง ซึ่งตอนนี้ก็ขายของแย่ ทุนก็ไม่มี เมื่อแมวมากัดลูกชิ้นก็เลยโมโหจึงเอาไปปล่อยโดยพาขี่ซาเล้งไป

• ตร.สอบความสัมพันธ์พ่อ-ลูก ชอบด้วยกฎหมายหรือไม่ หลังลักแมวไปทิ้งจนรถชนตาย
• ลูกสาวไม่ทน! แจ้งความพ่อแท้ ๆ ขโมยแมวสุดรักไปปล่อยทิ้ง จนถูกรถชนตาย

แต่แมวกลับโดดลงจากรถไปถูกจยย. ชนแล้ววิ่งหนีลงข้างทาง ตนก็เลี้ยวรถกลับไปเอาแมวกลับมา แต่แมวก็กระโดดลงไปถูกรถชนอีกครั้ง ตนจะพาแมวไปหาหมอแล้วแต่แมวตายก่อนจึงได้เอาไปทิ้งข้างทาง ไม่กล้าเอากลับมาบ้านกลัวลูกเมียด่าจึงทิ้งไว้ข้างทาง พอลูกทราบเรื่องก็มาต่อว่า ก่อนที่จะไปแจ้งความ ซึ่งตนก็รู้สึกเสียใจเพราะลูกที่เราเลี้ยงมา กลับมาเอาเรื่องกับเรา เสียใจแต่ก็ไม่โกรธเขาจะเอาเรื่องเราก็ช่างเขา

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ขณะที่พูดอยู่นั้น ภรรยาได้ตะโกนมาว่า “จะพูดไรก็คิดถึงจิตใจลูกบ้าง” อย่างไรก็ตามช่วงเมื่อคืนที่ผ่านมาทางตำรวจได้เรียกตัวนายไพศาล ไปสอบสวนกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นโดยใช้เวลาไม่นานก่อนที่จะอนุญาตให้กลับบ้านทันที

ทางตำรวจเปิดเผยว่า กฎหมายไทยคดีลูกฟ้องพ่อแม่ ไม่ว่าจะแพ่งหรืออาญา ซึ่งเรียกว่าคดี “อุทลุม” ผู้นั้นจะฟ้องบิดา มารดา ปู่ ย่า ตา ยาย ทวด ชวด ที่สืบสายโลหิตโดยตรงของตนไม่ได้ แต่หากผู้นั้นมีความประสงค์ที่จะฟ้องบุพการีจริง ๆ ผู้นั้นเองหรือญาติสนิทของผู้นั้นจะต้องร้องขอให้อัยการเป็นผู้ฟ้องคดีเท่านั้น