ตม.เผย คนร้ายปล้นคริปโต 1.8 ล้าน หนีออกนอกประเทศ 4 รายแล้ว เผยตามรวบได้ 1 ราย อีก 1 ราย เป็นคนขับรถตู้ อยู่ระหว่างติดตามตัว

วันที่ 30 ก.ย. 65 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากเหตุการณ์เมื่อวันที่ 15 ก.ย.ที่ผ่านมา ที่มีกลุ่มร้ายเป็นชายฉกรรจ์ชาวต่างชาติ จำนวน 6 คน เข้ามาข่มขู่ ทำร้ายร่างกาย และปล้นทรัพย์ นายเอฟกีนี อับดุลลิน อายุ 31 ปี สัญชาติรัสเซีย กับภรรยา ขณะกำลังใช้บริการอยู่ภายในร้านกาแฟแห่งหนึ่งใน อ.เกาะสมุย จ.สุราษฎร์ธานี โดยกลุ่มคนร้ายบังคับให้ผู้เสียหายโอนสกุลเงินดิจิทัลหรือคริปโตเคอร์เรนซี มูลค่า 50,000 ดอลลาร์สหรัฐ หรือคิดเป็นเงินไทยประมาณ 1.8 ล้านบาท หลังคนร้ายได้ทรัยพ์สินไปแล้วได้ใช้รถตู้สีดำ รถจักรยานยนต์ ขับหลบหนีไป

โดยเมื่อวันที่ 28 ก.ย.ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถจับกุมคนร้ายที่ร่วมก่อเหตุได้ 1 คน ทราบชื่อคือ นายอันเดรย์ นิจโกรอดต์ อายุ 37 ปี สัญชาติคาซัคสถาน จับกุมได้ที่บ้านพักใน จ.ชลบุรี พร้อมของกลางรถตู้สีดำที่ใช้เป็นยานพาหนะในการก่อเหตุ ส่วนผู้ต้องหาอีก 5 ราย ตรวจสอบพบว่าได้หลบหนีออกนอกประเทศไปแล้ว 2 คน ได้แก่ นายซัลมาน อัลมาตี อายุ 56 ปี สัญชาติคาซัคสถาน หลบหนีออกนอกประเทศไปเมื่อวันที่ 17 กันยายน 65 และ นายชินกิส อัคมาโดฟ อายุ 39 ปี สัญชาติเยอรมัน หลบหนีออกไปเมื่อวันที่ 20 ก.ย.ที่ผ่านมา

และวันเดียวกันเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ควบคุมตัว นายโอเล ยาโรเชนโก อายุ 35 ปี สัญชาติยูเครน ได้ที่วิลล่าแห่งหนี่งในพื้นที่บ้านปลายแหลม ม.5 ต.บ่อผุด อ.เกาะสมุย พร้อมตรวจยึดรถยนต์อเนกประสงค์ 7 ที่นั่ง 1 คัน และรถจักรยานยนต์ 1 คัน และนำตัวมาสอบปากคำที่ สภ.เกาะสมุย หลังเจ้าหน้าที่ตรวจสอบพบว่าเป็นบุคคลที่มีรายชื่อเป็นผู้จองคิวลงเรือเฟอร์รี่ขาออกจากเกาะสมุยให้กับรถตู้สีดำของคนร้ายที่ก่อเหตุ

จากการสอบปากคำ นายโอเล อายุ 35 ปี สัญชาติยูเครน ให้การภาคเสธว่า รู้จักกับกลุ่มผู้ต้องหาทั้ง 6 คน ซึ่งตนเองและกลุ่มผู้ต้องหาได้นำรถตู้สีดำและรถยนต์อเนกประสงค์ 7 ที่นั่ง ขับมาจากพัทยา จ.ชลบุรี ล่องใต้มาที่เกาะสมุย จ.สุราษฎร์ธานี โดยตนเองเป็นคนขับรถยนต์อเนกประสงค์ 7 ที่นั่ง แต่ตนเองไม่มีส่วนรู้เห็นว่ากลุ่มผู้ต้องหาทั้ง 6 คนไปก่อเหตุปล้นทรัพย์ดังกล่าว อย่างไรก็ตามทางเจ้าหน้าที่ตำรวจยังไม่ปักใจเชื่อในคำให้การ พร้อมหาหลักฐานเพิ่มเติมเพื่อให้สาวถึงผู้ร่วมขบวนการทั้งหมดมาดำเนินคดี

ล่าสุด พ.ต.อ.ศุภฤกษ์ พันธ์โกศล ผกก.ตม.จว.สุราษฎร์ธานี เปิดเผยว่า จากการตรวจสอบหนังสือเดินทางของ นายโอเล ยาโรเชนโก อายุ 35 ปี สัญชาติยูเครน ถือหนังสือเดินทางหมายเลข FB726194 พบว่า เมื่อครบกำหนดอนุญาตให้อยู่ในราชอาณาจักร แต่ไม่ได้เดินทางออกนอกราชอาณาจักรแต่อย่างใด

จนกระทั่งถึงวันนี้บุคคลดังกล่าวอยู่เกินอนุญาต 282 วัน ซึ่งเป็นการกระทำที่ฝ่าฝืนกฎหมายตาม พ.ร.บ.คนเข้าเมือง พ.ศ. 2522 โดยแจ้งข้อหาว่า เป็นบุคคลต่างด้าวเข้ามาและอยู่ในราชอาณาจักรโดยการอนุญาตสิ้นสุด (282วัน) ก่อนนำตัวส่งให้พนักงานสอบสวนสภ.เกาะสมุย ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

พ.ต.อ.ศุภฤกษ์ เปิดเผยอีกว่า จากการสืบสวนและติดตามคนร้ายที่ก่อเหตุปล้นทรัพย์นักท่องเที่ยวชาวรัสเซีย พบว่าผู้ต้องหาที่ร่วมก่อเหตุได้หลบหนีออกนอกประเทศก่อนที่ผู้เสียหายจะไปแจ้งความดำเนินคดีอีก 2 คน ทราบชื่อว่า นายมิเชล อายุ 35 ปี สัญชาติ เยอรมัน หลบหนีออกนอกประเทศไปเมื่อวันที่ 18 กันยายน 65 และ นายโกดาวอฟ อายุ 49 ปี หลบหนีออกนอกประเทศไปเมื่อวันที่ 20 กันยายน 65รวมหลบหนีออกไปทั้งหมด 4 คน

ส่วนอีก 1 คนคาดว่ายังหลบหนีอยู่ในประเทศไทย เป็นคนขับรถตู้สีดำที่ใช้เป็นยานพาหนะในการก่อเหตุและหลบหนี ขณะนี้ยังไม่ทราบชื่อและสัญชาติ แต่จากกล้องวงจรปิดและสอบถามพยานร้านสะดวกซื้อ และพนักงานท่าเรือ ให้การว่าลักษณะรูปพรรณหน้าตาคล้ายคนเอเซีย แต่ไม่แน่ชัดว่าเป็นคนไทย ชาวจีน หรือชาวคาซัคสถาน ซึ่งทางตำรวจตรวจคนเข้าเมืองจังหวัดสุราษฎร์ธานีอยู่ระหว่างการสอบสวนเพื่อติดตามตัวมาสอบปากคำต่อไป

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน