พระนครศรีอยุธยา รับน้ำเต็มพิกัด แม่น้ำเจ้าพระยา แม่น้ำป่าสัก ปริมาณน้ำยังสูงต่อเนื่อง ด้านเทศบาลนคร เร่งระบายลงทุกทุ่งแล้ว

เมื่อวันที่ 5 ต.ค. 2565 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่จ.พระนครศรีอยุธยา พบว่าเขื่อนเจ้าพระยา จ.ชัยนาท ยังคงเร่งระบายน้ำลงสู่พื้นที่ท้ายเขื่อนที่ 2,697 ลบ.ม./วินาที ส่งผลทำให้ ปริมาณน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยาที่ไหลผ่านจ.พระนครศรีอยุธยา ของสาขาแม่น้ำน้อย มีปริมาณเพิ่มสูงขึ้นเฉลี่ย 10-20 ซม

รวมถึงเขื่อนพระราม 6 ซึ่งรับน้ำมาจากแม่น้ำป่าสัก เร่งระบายน้ำลงสู่ท้ายเขื่อน 960 ลบ.ม./วินาที ส่งผลทำให้ระดับน้ำเพิ่มสูงขึ้น 20-30 ซม. เทศบาลนครพระนครศรีอยุธยา จึงเร่งทำแนวคันดินบนถนนอู่ทองซึ่งเป็นถนนรอบเกาะเมืองระยะทางประมาณ 25 กม. ในจุดที่ต่ำป้องน้ำจากแม่น้ำเจ้าพระยาที่กำลังจะล้นตลิ่ง

รวมถึงน้ำจากคอลงคูเมืองที่รับน้ำจากแม่น้ำเจ้าระยา และแม่น้ำป่าสัก ล้นตลิ่งจะไหลข้ามถนนอู่ทองเข้าพื้นที่เกาะเมือง เป็นพื้นที่เศรษฐกิจ ที่มีโบราณสถาน โรงพยาบาลประจำจังหวัด โรงเรียน สถานที่ราชการ บ้านเรือนประชาชน

ขณะที่วัดเกาะแก้วเกษฎาราม ต.บ่อโพง อ.นครหลวง จ.พระนครศรีอยุธยา ซึ่งติดกับแม่น้ำป่าสัก ทางวัดได้วางแนวกระสอบทรายกันน้ำบริเวณหน้าวัดเอาไว้ ด้วยปริมาณน้ำที่เพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง มวลน้ำจากแม่น้ำป่าสักไหลทะลักเข้าคลองอ้อมเข้าด้านหลังวัด เข้าท่วมวัดระดับสูงกว่า 1 เมตร ต้องเร่งขนย้ายข้าวของเอาไว้ที่สูงป้องกันความเสียหาย

พระครูปลัดทวีศักดิ์ สนตกาโม เจ้าอาวาสวัดเกาะแก้วเกษฎาราม กล่าวว่า วัดอยู่ริมแม่น้ำป่าสัก เมื่อปี 2564 วัดสามารถป้องกันน้ำท่วมได้ แต่มาปีน้ำขึ้นเร็วมากและมีปริมาณที่สูง น้ำไหลเข้าคลองอ้อมเข้าด้านหลังวัด เพียงคืนเดียวท่วมสูงกว่า 1 เมตร

สำหรับการระบายน้ำเข้าทุ่ง ตามแผนการระบายน้ำของกรมชลประทาน พบว่าตามประตูระบายน้ำต่าง ๆ มีการยกบานประตูประมาณ 30-50 ซม. เพื่อระบายน้ำเข้าทุ่งแบบขั้นบันใด ที่ประตูคลองบางกุ้ง ยกบานประตูอยู่ที่ 50 ซม. ทำให้น้ำเข้าไปในทุ่งบางปะหันได้ประมาณ 10 เปอร์เซ็นแล้ว

ในส่วนทุ่งบางบาล ทุ่งผักไห่ มีการเปิดประตูระบายน้ำเพิ่มขึ้นตามข้อเรียกร้องชาวบ้าน โดยการระบายน้ำเข้าทุ่งนา กรมชลประทานจะควบคุมระดับน้ำไม่ให้ไหลข้ามท่วมถนนสายหลักที่สำคัญ รวมไปถึงไม่ให้เกิดผลกระทบมากกับบ้านเรือนของชาวบ้านที่อาศัยอยู่ในทุ่งต่าง ๆ ด้วย

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน