กรุงเทพมหานคร “ผู้ว่าฯ ชัชชาติ” สั่งถอดบทเรียนน้ำท่วม เตรียมทำแผนรองรับ 1 ปี ดอดลงพื้นที่ทรงวาด ตรวจจุดอ่อนน้ำท่วม ก่อนพบ ผู้ว่าฯนนทบุรี หารือน้ำท่วม-ฝุ่น-จราจร-ผังเมือง
6 ต.ค. 65 – ที่ศาลาว่าการกทม. นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าฯกทม. กล่าวภายหลังเป็นประธานการประชุมหัวหน้าหน่วยงาน ว่า ในที่ประชุมได้มีการรายงานการถอดบทเรียนสถานการณ์น้ำท่วมและการเตรียมการสำหรับปีต่อไป ซึ่งพื้นที่หลักไม่กังวล แต่จะมีปัญหาในชุมชนย่อย จึงให้ผอ.เขตลงพื้นที่สำรวจและนำข้อมูลขึ้น GPS จัดทำแผนระยะยาว 1 ปี โดยให้เริ่มดำเนินการทันที
รวมถึงตรวจสอบข้อมูลผ่านระบบทราฟฟี่ฟองดูว์ เนื่องจากหลายสิ่งเปลี่ยนแปลงได้ เพราะประชาชนไว้วางใจ จะเห็นได้ว่า ช่วง 3-4 เดือนที่ผ่านมา มีประชาชนแจ้งเรื่องร้องเรียน 1.6 แสนราย ถ้าไม่ไว้วางใจ คงไม่มีคนแจ้งเข้ามา
ปัจจุบันสามารถแก้ไขได้แล้ว 9.6 หมื่นราย ส่วนกรณีที่สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ ยกเลิกสัญญาการขึ้นทะเบียนเป็นหน่วยบริการตามกฎหมายว่าด้วยหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ พ.ศ.2545 ของ รพ. 9 แห่ง ปรากฎว่ามีคนมาใช้หน่วยบริการสาธารณสุข กทม. 60% ยังสามารถรองรับได้อีก
นายชัชชาติ กล่าวด้วยว่า เมื่อช่วงเช้า ได้ลงพื้นที่ถนนทรงวาด เขตสัมพันธวงศ์ ซึ่งเป็นจุดเฝ้าระวังน้ำล้นคัน พบว่ามีบางจุดที่รั่วซึม แต่คันกั้นน้ำยังไม่พัง หากดูดน้ำออกให้เร็วกว่าน้ำที่ไหลเข้ามาคงไม่มีปัญหาอะไร
โดยปีที่ผ่านมาถนนทรงวาดต้องประสบปัญหาน้ำทะลักอย่างหนัก แนวกระสอบทรายพังจากเรือที่วิ่งในแม่น้ำเจ้าพระยาแต่ปีนี้ได้นำกรงเหล็กมาเสริมกระสอบทรายให้หนาแน่นขึ้นกว่าเดิม ขณะนี้น้ำแห้งแล้ว เพราะน้ำในคลองลาดพร้าว และคลองเปรมประชากรลดต่ำกว่าระดับควบคุม
นอกจากนี้ ยังได้ตรวจจุดฟันหลอบริเวณถนนทรงวาด ที่กทม.เรียงกระสอบทรายไว้ โดยระบุว่า วันนี้น้ำจะขึ้นครั้งเดียวในเวลา 17.00 น. โดยเจ้าหน้าที่เขตสัมพันธวงศ์ ให้ข้อมูลว่า จุดอ่อนของเขตสัมพันธวงศ์มีที่ถนนทรงวาด และศาลเจ้าโรงเกือก
โดยเจ้าหน้าที่เขตสัมพันธวงศ์และเจ้าหน้าที่สำนักระบายน้ำคอยตระเวนตรวจสอบดูจุดเสี่ยงตลอด ทั้งนี้ ถนนทรงวาดถือเป็นพื้นที่เศรษฐกิจที่ต้องเร่งสร้างความมั่นใจให้ประชาชน อย่าให้เกิดน้ำท่วมได้ ซึ่งต้องเตรียมแผนระยะยาวป้องกันน้ำท่วมในปีหน้าด้วย
นายชัชชาติ กล่าวถึงกำหนดการเข้าพบ นายสุธี ทองแย้ม ผู้ว่าฯ จ.นนทบุรี เพื่อหารือในช่วงเย็นนี้ว่า การเข้าพบไม่ได้เป็นทางการ โดยมี 4 เรื่องที่จะไปหารือ คือ เรื่องน้ำท่วม เรื่อง PM 2.5 เรื่องการจราจร และเรื่องผังเมือง ที่ต้องประสานการร่วมมือ ทั้งนี้ท่านผู้ว่าฯ เพิ่งย้ายมาใหม่ด้วย คงจะเป็นการแลกเปลี่ยนความเห็นกัน และมีหน่วยงานอื่นเข้ามาด้วย ทั้งกรมชลประทาน กรมทางหลวง เพราะฉะนั้นต้องไร้รอยต่อ
“บางทียังงงขับรถเข้านนทบุรีหรือเข้ากรุงเทพดูไม่ออก และคลองประปาก็นนทบุรีแล้ว น้ำก็ไม่รู้ว่าน้ำไปทางไหน ฝุ่นก็ไม่รู้ รถก็ไม่รู้ คงประสานงานกันได้ดี จุดเริ่มต้น คงไม่มีอะไรที่สรุป เริ่มต้นให้คุยกันก่อน จะได้ช่วยแก้ปัญหาได้ดีขึ้น” ผู้ว่าฯกทม. กล่าว
