นครราชสีมา สคร.9 เตือนระวังไข้หวัดใหญ่ ภัยที่มากับลมหนาว หลังพบป่วยกว่า 1,300 ราย แจ้งฉีดวัคซีนป้องกันโรค ยึดมาตรการ “ปิด ล้าง เลี่ยง หยุด”

19 ต.ค. 65 – นายอภิรัตน์ โสกำปัง รองผู้อำนวยการสำนักงานป้องกันควบคุมโรคที่ 9 นครราชสีมา กล่าวถึงสถานการณ์โรคไข้หวัดใหญ่ในพื้นที่ดูแลของเขตสุขภาพที่ 9 ว่า ห้วยตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม – 1 ตุลาคม 2565 รวม 9 เดือน พบผู้ป่วยมากถึง 2,171 ราย แต่ยังไม่มีผู้เสียชีวิต

เมื่อแยกเป็นรายจังหวัด จะเห็นว่า จังหวัดนครราชสีมา มีผู้ป่วยมากสุด 1,304 ราย รองลงมาคือ จังหวัดบุรีรัมย์ มีผู้ป่วย 463 ราย จังหวัดสุรินทร์ ป่วย 355 ราย และจังหวัดชัยภูมิ ป่วย 49 ราย ตามลำดับ ซึ่งขณะนี้ประเทศไทยอยู่ในช่วงปลายฝนต้นหนาว ทำให้โรคติดต่อทางเดินหายใจ เช่น โรคไข้หวัดใหญ่ มีการแพร่ระบาดเพิ่มขึ้น

สำหรับโรคนี้เกิดจากเชื้อไวรัส สามารถเกิดได้ตลอดทั้งปี โดยเฉพาะในช่วงที่มีอากาศเปลี่ยนแปลง และมีการแพร่ระบาดติดต่อกันได้ง่าย จากการสัมผัสกับน้ำมูก น้ำลาย และเสมหะ หรือใช้สิ่งของร่วมกับผู้ป่วย ทำให้ผู้ป่วยมีอาการคัดจมูก น้ำมูกไหล ไอจาม มีไข้ หนาวสั่น อ่อนเพลีย และปวดศีรษะ

โดยกลุ่มเสี่ยงที่เป็นหญิงตั้งครรภ์ อายุครรภ์ 4 เดือนขึ้นไป รวมถึง เด็กอายุ 6 เดือน ถึง 2 ปี , กลุ่มผู้มีโรคเรื้อรัง 7 กลุ่มโรค ได้แก่ โรคปอดอุดกั้นเรื้อรัง หอบหืด หัวใจ หลอดเลือดสมอง ไตวาย ผู้ป่วยมะเร็งที่อยู่ระหว่างการได้รับเคมีบำบัด โรคเบาหวาน และกลุ่มผู้สูงอายุที่มีอายุ 65 ปีขึ้นไป , ผู้พิการทางสมองที่ช่วยเหลือตนเองไม่ได้ , โรคธาลัสซีเมีย , ผู้ที่มีภูมิคุ้มกันบกพร่อง และผู้ที่มีโรคอ้วน หากป่วยเป็นโรคไข้หวัดใหญ่ อาจเกิดอาการแทรกซ้อนรุนแรง จนถึงขั้นทำให้เสียชีวิตได้

จึงขอให้ประชาชนดูแลสุขภาพและป้องกันตนเองจากโรคไข้หวัดใหญ่ ด้วยการไปฉีดวัคซีนป้องกันโรคไข้หวัดใหญ่ตั้งแต่เนิ่นๆ ที่โรงพยาบาลหรือหน่วยบริการสาธารณสุขต่างๆ รวมทั้ง ใช้มาตรการ “ปิด ล้าง เลี่ยง หยุด”

ได้แก่ 1.ปิด คือปิดปาก ปิดจมูก เมื่อไอ จาม ต้องใช้ผ้าหรือกระดาษทิชชูปิดปากและจมูกทุกครั้ง หากเจ็บป่วยด้วยไข้หวัดใหญ่ ควรใส่หน้ากากอนามัย

2. ล้าง คือล้างมือบ่อยๆ ด้วยน้ำและสบู่เมื่อสัมผัสสิ่งของ เช่น กลอนประตู ลูกบิด ราวบันได ราวบนรถโดยสาร ปุ่มกดลิฟต์ 3.เลี่ยง คือหลีกเลี่ยงการคลุกคลีใกล้ชิดกับผู้ป่วย

และ 4.หยุด คือเมื่อป่วยควรหยุดเรียน หยุดงาน หยุดกิจกรรมในสถานที่แออัด แม้ผู้ป่วยจะมีอาการไม่มาก ก็ควรหยุดพักรักษาตัวอยู่ที่บ้านจนกว่าจะหายเป็นปกติ

ซึ่งหากมีข้อสงสัยสามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ สายด่วนกรมควบคุมโรค โทร.1422

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน