เมื่อเวลา 13.30 น วันที่ 31 ม.ค. ที่กองปราบปราม นายนฤนาท ควรสวัสดิ์ หรือ “เสี่ยบอย รถหรู” อายุ 42 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญา ที่ 157/2561 ข้อหานำเข้าหรือส่งออกนอกราชอาณาจักรซึ่งของที่มิได้ผ่านศุลกากร เคลื่อนย้ายของจากยานพาหนะ คลังสินค้า ท่าเรือ หรือเขตปลอดอาการโดยไม่ได้รับอนุญาตจากพนักงานศุลกากรฯ เดินทางเข้ามอบตัวกับ พล.ต.ต.ไมตรี ฉิมเฉิด ผบก.ป. พ.ต.อ.ชาคริต สวัสดี รอง ผบก.ป.

ทั้งนี้เมื่อปี 2559 ผู้ต้องหาหลอกขายรถหรู ปอร์เช่ 991 คาร์เรร่า สีฟ้า ทะเบียน 5 กท 3358 กรุงเทพมหานคร ให้กับนายหวัก โคลว นักธุรกิจเมล็ดกาแฟ สัญชาติออสเตรเลีย ซึ่งวางเงินมัดจำไว้ 2,700,000 บาท โดยผู้ต้องหามีการแสดงใบชำระภาษีรถประจำปี เพื่อยืนยันว่าเป็นรถที่ถูกต้องตามกฎหมาย สามารถนำไปขับขี่ได้ เมื่อนายหวักหลงเชื่อซื้อรถยนต์และรับมอบรถคันนี้ไว้

ต่อมาเมื่อวันที่ 3 มี.ค.2560 ทาง พ.ต.ท.นฤทธิ์ ผูกจิตร สว.กก.2 บก.ป.เข้าตรวจค้นที่อาคารจอดรถคอนโดมิเนียมแห่งหนึ่ง ย่านถนนสุขุมวิท แขวงคลองตัน เขตคลองเตย กทม. พบรถคันดังกล่าว เบื้องต้นตรวจสอบแล้วน่าเชื่อว่าเป็นรถยนต์นำเข้าในราชอาณาจักรโดยผิดกฎหมาย จึงยึดไว้ตรวจสอบ โดยผลการตรวจจากกองพิสูจน์หลักฐาน (พฐ.) พบว่ามีการนำแผ่นโลหะเลขตัวถัง มาปิดทับตำแหน่งเลขตัวถังเดิม และพ่นสีใหม่ และเป็นรถที่นำเข้ามาในราชอาณาจักรโดยไม่ผ่านพิธีการทางศุลกากร เป็นความผิดตามพ.ร.บ.ศุลกากร จึงรวบรวมพยานหลักฐานขออำนาจศาลออกหมายจับผู้ต้องหาไว้ ก่อนที่ผู้ต้องหาจะเข้ามามอบตัวดังกล่าว

สอบสวน นายนฤนาท ให้การรับสารภาพว่า ซื้อรถคันดังกล่าวมาจากเพื่อนและโชว์รูมรถแห่งหนึ่ง โดยก่อนซื้อตนทราบดีว่ารถดังกล่าวเป็นหนีภาษีหรือรถเถื่อน ก่อนจะนำไปขายให้กับนายหวัก ซึ่งนายหวักก็รับทราบว่าเป็นรถหนีภาษี นอกจากนี้ การขายรถหนีภาษีทุกคันตนจะแจ้งลูกค้าทุกครั้งว่าเป็นรถหนีภาษี หากรับได้ ก็เจรจาซื้อขายกัน

เบื้องต้นทางเจ้าหน้าที่ได้สอบปากผู้ต้องหาก่อนส่งตัวให้พนักงานสอบสวนกองปราบปรามควบคุมตัวส่งศาลอาญาเพื่อดำเนินคดีต่อไป

สำหรับ นายนฤนาท หรือฉายา “บอย รถหรู” เคยตกเป็นข่าวดังเกี่ยวกับกรณีเหตุไฟไหม้รถยนต์สปอร์ตหรูจำนวน 4 คันจาก 6 คัน ได้แก่ รถลัมโบกินี ราคาร่วม 40 ล้านบาท, รถเฟอร์รารี่ ราคาประมาณ 30 ล้านบาท, เบนท์ลีย์ ราคาประมาณ 20 ล้านบาท และบีเอ็มดับเบิ้ลยู กว่า 10 ล้านบาท ที่บรรทุกอยู่บนรถเทรลเลอร์โดยไม่ทราบสาเหตุ บนถนนมิตรภาพ ช่วงทางขึ้นเขากลางดง ก.ม.36-37 ต.พญาเย็น อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา เมื่อปี 2556 ก่อนที่ต่อมาจะตรวจสอบจนพบว่ารถบางคันมีการดัดแปลง ใช้แผ่นอะลูมิเนียมตอกหมายเลขตัวถังทับของเดิม และพ่นสีทับเพื่ออำพราง และยังติดตั้งอุปกรณ์ใช้ก๊าซเป็นเชื้อเพลิง

ทางเจ้าหน้าที่กรมสอบสวนคดีพิเศษหรือดีเอสไอ จึงขยายผลตรวจสอบที่ไปที่มาของรถดังกล่าว กระทั่งพบว่านายนฤนาถและพวก มีส่วนเกี่ยวข้องกับที่มาของรถหรูทั้งหมดว่าได้มาไม่ถูกต้อง จึงถูกทางดีเอสไอกล่าวหาในฐานความผิดร่วมกันลักลอบนำหรือพาของที่ยังมิได้เสียภาษี หรือยังมิได้ผ่านศุลกากรโดยถูกต้องเข้ามาในราชอาณาจักรโดยผิดกฎหมาย, ร่วมกันสำแดงเท็จเพื่อหลีกเลี่ยงการชำระภาษี, ร่วมกันช่วยซ่อนเร้นช่วยจำหน่าย ช่วยพาเอาไปเสีย หรือรับไว้ด้วยประการใด ซึ่งของที่ยังมิได้เสียค่าภาษีหรือโดยผ่านเข้ามาในราชอาณาจักรโดยมิได้ผ่านศุลกากรโดยถูกต้องตาม พ.ร.บ.ศุลกากร พ.ศ. 2469 ภายหลังนายนฤนาทได้ติดต่อเข้ามอบตัว ก่อนที่ทางดีเอสไอปล่อยตัวไป ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างดำเนินคดี

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน