เมื่อวันที่ 1 ก.พ. เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองตรัง รับแจ้งเหตุมีหัวกระสุนปืนตกใส่หลังคาที่บ้านเลขที่ 59 ม.2 บ้านไสพริก อ.เมือง จ.ตรัง จึงได้รายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบและรุดไปตรวจสอบพร้อมฝ่ายปกครองในพื้นที่ ถึงที่เกิดเหตุพบนายเฉลิม ตุลยะสุข อายุ 47 ปี เจ้าของบ้าน ยืนรอพบเจ้าหน้าที่ อยู่ในอาการตื่นตระหนก พร้อมกับนำไปตรวจดูหัวกระสุนปืน 1 หัว ที่ตกอยู่บนพื้นกระเบื้อง ภายในห้องโถงของบ้าน จากการตรวจสอบพบเป็นกระสุนปืนขนาด .38 บริเวณฝ้าเพด้านเป็นรูขนาดเท่ากับหัวกระสุนปืน เจ้าหน้าที่จึงเก็บหัวกระสุนปืนดังกล่าวไปตรวจสอบ
นายเฉลิม กล่าวว่า ก่อนเกิดเหตุซึ่งเป็นช่วงที่เกิดปรากฏการณ์จันทรุปราคาเต็มดวง หรือพระจันทร์สีเลือด ซึ่งตนได้นอนดูโทรทัศน์อยู่บนโซฟาใหม่ ที่เพิ่งซื้อมาเมื่อวันที่ 29 ม.ค.ที่ผ่านมา ซึ่งอยู่ห่างจากจุดที่หัวกระสุนตกเพียงแค่ 40 เซนติเมตร ส่วนลูกสาวลูกชายและภรรยากำลังนั่งรับประทานข้าวกันอยู่ในห้องครัว ระหว่างนั้นได้ยินเสียงปืนถูกยิงขึ้นท้องฟ้าจำนวนหลายนัด ซึ่งน่าจะอยู่ไม่ไกลจากตัวบ้าน และได้ยินเสียงก้อนเหล็กดังสนั่นตกลงใส่หลังคาบ้าน จึงสะดุ้งตื่นขึ้นมา ปรากฏว่าฝ้าเพดานเป็นรอยโหว่ และมีหัวกระสุนตกอยู่บนพื้น ส่วนลูกๆและภรรยาได้รีบเดินออกมาดูในอาการตื่นตกใจ จึงได้แจ้งให้เจ้าหน้าที่ทราบ
เจ้าของบ้าน กล่าวต่อว่า สำหรับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ตนเชื่อว่าพระภูมิเจ้าบ้านเจ้าเรือนได้ช่วยเหลือเอาไว้ เพราะปกติตนและครอบครัว รวม 4 คน จะนอนดูโทรทัศน์อยู่บนพื้นกระเบื้องตรงกับจุดที่กระสุนตกพอดีในทุกคืนตั้งแต่สร้างบ้านมา แต่เมื่อ 2 วันที่ผ่านมา ตนได้ซื้อโซฟามาเพื่อใช้สำหรับนอน แทนการนอนพื้น เหมือนมีอะไรมาดลจิตดลใจให้ซื้อ ทำให้กระสุนที่ตกลงมาไม่โดนตน
นายเฉลิม กล่าวอีกว่า อีกทั้ง บริเวณดังกล่าวอยู่ตรงข้ามกับหิ้งพระที่ไหว้บูชาของบ้าน จึงเป็นไปได้ที่สิ่งศักดิ์สิทธิ์จะช่วยปัดเป่าเอาไว้ อย่างไรก็ตาม ตนไม่ได้ติดใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น แต่อยากจะวิงวอนไปยังกลุ่มผู้ที่ใช้อาวุธปืนว่าถ้าหลีกเลี่ยงได้ก็อย่ายิงเลย เพราะครั้งหน้าครั้งหลังกระสุนที่ตกลงมาอาจจะทำให้มีผู้เสียชีวิตได้ อาจจะไม่โชคดีเหมือนกับตนที่ไม่ได้รับอันตรายจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น และอยากวิงวอนไปยังเจ้าหน้าที่ของบ้านเมืองให้ช่วยกวดขันการใช้อาวุธให้มากกว่านี้
