ศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดพิจิตร สนธิกำลัง 3 ฝ่าย จู่โจมจับกุมแก๊งปล่อยเงินกู้นอกระบบได้ผู้ต้องหา 1 คน ของกลางหลายรายการ เผยลูกหนี้รายไหนติดค้างหรือไม่จ่ายจะโทรข่มขู่ ส่งเมสเสจทวง

เมื่อวันที่ 1 ก.พ. ที่ศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดพิจิตร ได้รับเรื่องร้องทุกข์จากชาวบ้านจำนวนมาก ว่ามีแก๊งปล่อยเงินกู้นอกระบบ ของนายทุนรายใหญ่ในพื้นที่จังหวัดพิษณุโลก ข่มขู่ทวงหนี้ลูกหนี้ โดยส่งข้อความหยาบคาย ข้อความข่มขู่และโทรศัพท์สายตรงด่าทอลูกหนี้ จนชาวบ้านทนไม่ไหว แทบจะไม่เป็นเวลากินเวลานอนจากการคุกคามของแก๊งเงินกู้นอกระบบดังกล่าว จึงมาร้องทุกข์ยังศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดพิจิตรให้การช่วยเหลือ

จากนั้น พ.ต.ท.กฤติกร ปานผล หัวหน้าชุดเฉพาะกิจศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดพิจิตร ได้สนธิกำลังสารวัตรทหารจากกองกำลังรักษาความสงบเรียบร้อยจังหวัดพิจิตร กำลัง อส.ของฝ่ายปกครอง ออกสืบสวนหาข่าวและเฝ้าดูพฤติกรรมแก๊งปล่อยเงินกู้นอกระบบดังกล่าว โดยพบว่ามีแก๊งปล่อยเงินกู้มีพฤติกรรมตามข้อร้องทุกข์ จึงได้สนธิกำลังวางแผนจู่โจมเข้าจับกุมตัวนายพงษ์ธร อ่อนเชตุ อายุ 25 ปี อยู่บ้านเลขที่ 12/3 หมู่ที่ 10ตำบลนครสวรรค์ตก อำเภอเมือง จังหวัดนครสวรรค์

ขณะกำลังข่มขู่ลูกหนี้ ได้ที่บริเวณถนนตะพานหิน -บ้านป่าแดงใต้ ตำบลหนองพะยอม อำเภอตะพานหิน จังหวัดพิจิตร พร้อมด้วยรถยนต์กระบะยี่ห้ออีซูซุ สีขาว รุ่นดีแมค หมายเลขทะเบียน บม-7326 ชัยภูมิ ตรวจค้นภายในรถพบเอกสารเงินกู้ และเงินสดจำนวน 23,290 บาท และของกลางอื่นๆอีกหลายรายการ จึงนำตัวมาสอบสวนบันทึกจับกุมที่ศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดพิจิตร

จากการสอบสวนทราบว่า นายพงษ์ธรเป็นเครือข่ายปล่อยเงินกู้นอกระบบให้กับนายทุนรายใหญ่ ที่ตั้งฐานปล่อยเงินกู้นอกระบบอยู่กลางตัวเมืองพิษณุโลก และนายพงษ์ธรเคยถูกจับมาแล้วหนึ่งครั้งเกี่ยวคดีกับเงินกู้นอกระบบ ซึ่งอยู่ระหว่างการดำเนินคดีในชั้นศาล โดยพงษ์ธรจะปล่อยเงินกู้ให้ลูกหนี้โดยคิดอัตราดอกเบี้ยกับที่สูงเกินกฎหมายกำหนด และหากลูกหนี้รายไหนติดค้างหรือไม่จ่ายก็จะโทรศัพท์ข่มขู่ หากลูกหนี้ไม่รับสายก็จะส่ง SMS ข้อความทางโทรศัพท์มือถือที่ด่าทอ ต่อว่า และข้อความข่มขู่ต่างๆนานา ตามหลักฐานในโทรศัพท์ที่เจ้าหน้าที่ตรวจยึดได้

โดยระหว่างสอบสวนมีโทรศัพท์ลึกลับโทรมายังศูนย์ดำรงธรรมตลอดเวลา โดยอ้างว่าเป็นลูกน้องนายทหารชั้นผู้ใหญ่บ้าง เป็นนายตำรวจบ้าง เป็นทนายความบ้าง มาข่มขู่เจ้าหน้าที่ขอให้ปล่อยตัวนายพงษ์ธร แต่เจ้าหน้าที่ไม่สนใจเพราะการปฏิบัติการดังกล่าวมีการสนธิกำลังหลายฝ่าย ซึ่งเจ้าหนาที่ชุดจับกุมนำตัวส่งพนักงานสอบสวนสถานีตำรวจภูธรตะพานหิน ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน