บช.น.ขยายผลจับ ป้ายทะเบียนปลอม จับหนุ่มอดีตโชเฟอร์แท็กซี่ สวมทะเบียน-ดัดแปลงรถ หลังวงจรปิดพบรถ 2 คันทะเบียนเดียวกัน รถแฝดร่วมสวมทะเบียน 5 คัน

เมื่อวันที่ 25 พ.ย.65 ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) พล.ต.ต.จิรสันต์ แก้วแสงเอก รองผบช.น. พล.ต.ต.นิตินันท์ เพชรบรม รองผบช.น. พล.ต.ต.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รอง ผบช.น.ฐานะ ผอ. ศปจร.น. พ.ต.อ.ปัญญา กุลไทย ผกก.ฯ พ.ต.ท.กฤษตฤณ นิระภัยพ.ต.ท.นพรัตน์ บุญถนอม รอง ผกก.ฯ พ.ต.ต.ภาส อัยยวร พ.ต.ต.หญิงชาดา เสสะเวช สว.ฯ และชุดศูนย์ปราบปรามการโจรกรรมรถยนต์ รถจักรยานยนต์ กองบัญชาการตำรวจนครบาล (ศปจร.น.)

แถลงจับกุม นายวิชัย อายุ 52 ปี พร้อมของกลาง รถยนต์ ยี่ห้อโตโยต้า รุ่นอัลติส สีเขียวเหลือง ทะเบียน มฎ 5148 กรุงเทพมหานคร จับกุมได้พื้นที่สน.สุทธิสาร น.ส.พัฒนา อายุ 51 ปี รถยนต์ฮอนด้า รุ่นแจ๊ส สี ขาว ทะเบียน ชว5887 กรุงเทพมหานคร และนายยอด อายุ 62 ปี พร้อมของกลาง รถยนต์ ยี่ห้อโตโยต้า รุ่นอแวนซ่า สีเทา ทะเบียน สว 9034 กรุงเทพมหานคร จับกุมได้พื้นที่สภ.ไทรน้อย

น.ส.ชนิดา อายุ 33 ปี พร้อมของกลาง รถยนต์ ยี่ห้อนิสสัน รุ่นมาร์ซ สีส้ม ทะเบียน ฎห 7211 กรุงเทพมหานคร จับกุมได้ในพื้นที่ สภ.คลองหลวง นายสิริพงย์ อายุ 39 ปี พร้อมของกลาง รถยนต์ ยี่ห้อเชฟโรเลต รุ่นครูซ ทะเบียน ฎง 315 กรุงเทพมหานคร จับกุมพื้น สภ.รัตนาธิเบศร์ น.ส.ปุญยนุช อายุ 42 ปี พร้อมของกลาง รถยนต์ ยี่ห้อฮอนด้า รุ่นแจ๊ส สีขาว ทะเบียนฎง 315 กรุงเทพมหานคร จับกุมพื้นที่สน.วังทองหลาง โดยแจ้งข้อหา ปลอมและใช้เอกสารราชการปลอม

พล.ต.ต.นพศิลป์ เปิดเผยว่า สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 26 ต.ค.ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ตำรวจชุด ศปจร.น. เข้าตรวจค้นแหล่งผลิตแผ่นป้ายทะเบียนรถยนต์ปลอม บริเวณ อ.คลองสาม จว.ปทุมธานี และตรวจยึดเครื่องปั๊มทะเบียน และแบบปั๊มอักษรย่อ “ขส”, บล็อกอะคริลิค ตัวอักษร หมวดจังหวัด และแผ่นอลูมิเนียม สำหรับผลิตแผ่นป้ายทะเบียนรถยนต์ รวมกว่า 300 รายการ

ก่อนขยายผลไปยังผู้สั่งซื้อป้ายทะเบียนรถยนต์ จากแหล่งผลิตแผ่นป้ายทะเบียนรถยนต์ปลอมดังกล่าว พบรถยนต์แท็กซี่ ยี่ห้อโตโยต้า อัลติส สีเขียว-เหลือง ติดแผ่นป้ายทะเบียนรถยนต์รับจ้างทั่วไป ปลอมป้ายทะเบียนสีเหลือง ตัวอักษรสีดำ หน้า-หลัง มฎ5148 กรุงเทพมหานคร

อย่างไรก็ตาม ลักษณะรถแท็กซี่ปลอมป้ายทะเบียนนั้น เป็นเก่าทำใหม่ปลอมทะเบียนแท็กซี่เก่าดัดแปลงสภาพ ทำสีโครงด้านหน้าใกล้เคียงโฉมปัจจุบัน แต่สภาพภายในไม่ติดแผ่นป้ายผู้ขับขี่ ตัวทะเบียนตัวอักษรแตกต่างจากของจริงมีลักษณะตัวอักษรบางกว่าของจริง และสภาพรถค่อนข้างเก่า ขอพี่น้องประชาชนเป็นหูเป็นตา แจ้งเจ้าหน้าที่ทำการตรวจสอบ กล้องไรเซนเพลส

พล.ต.ต.นพศิลป์ กล่าวต่อว่า จากการสืบสวนพบว่ารถยนต์แท็กซี่คันดังกล่าวปลอมทะเบียนขึ้น เพื่อสวมทะเบียนกับรถยนต์แท็กซี่คันอื่น ซึ่งได้รับอนุญาตจากกรมการขนส่งทางบก และขับตระเวนรับผู้โดยสารมาแล้วเป็น 4-5 ปี ซึ่งการสวมทะเบียนรถแท็กซี่ดังกล่าวที่ใช้อายุ 12 ปี อาจก่อให้เกิดความเสี่ยงอันตรายแก่ผู้โดยสารแท็กซี่ทั่วไป

นอกจากนี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจชุด ศปจร.น. ยังขยายผลตรวจยึดรถยนต์ที่เจ้าของสั่งซื้อแผ่นป้ายทะเบียนรถยนต์ปลอม และแผ่นป้ายแสดงการเสียภาษีปลอม (สีชมพู-ฟ้า) เพื่อสวมกับรถยนต์คันอื่นๆในลักษณะ ปลอมกับรถยนต์รุ่นเดียวกัน สีเดียวกันหรือรถแฝด อีกจำนวน 5 คัน

จากการสอบถามผู้ต้องหาทราบว่าเป็นรถหนีไฟแนนซ์มา รถหลุดจำนำหลายทอด ไม่สามารถติดแผ่นป้ายจริงได้ จึงสั่งซื้อจากผู้ต้องหาที่ถูกจับกุมไปก่อนหน้านี้

สอบสวนผู้ต้องหาให้การยอมรับสารภาพว่า ดัดแปลงสภาพรถซื้อแผ่นป้ายทะเบียนปลอมที่ถูกจับ โดยทำป้ายทะเบียนมา 30,000 บาท หลังซื้อรถยนต์เกินอายุ 12 ปี มาในราคา 100,000 บาท มาทำใหม่ สาเหตุเพราะทำงานอาชีพรับจ้างมาก่อน ขณะนี้อยู่ระหว่างขยายผลต่อ ทั้งนี้ พล.ต.ต.ธิติ แสงสว่าง ผบช.น. สั่งการให้เปิดคู่สายพิเศษเบอร์ 191 พร้อมรับใช้ดูแลสืบสวนสอบสวนต่อ ถ้าแจ้งก็ตรวจสอบได้ทันที” รองผบช.น. กล่าว

ด้านพล.ต.ต.นิตินันท์ กล่าวว่า จากการตรวจสอบกล้องวงจรปิดไรเซนเพลส จึงสามารถตรวจสอบกรณีดังกล่าว เนื่องจากเมื่อเกิดเหตุขึ้น เช่น การลืมสิ่งของ การถูกล่วงละเมิดทางเพศ การชิงทรัพย์ ฯลฯ จะทำให้ไม่สามารถติดตามผู้กระทำผิด รวมถึงรถยนต์คันที่โดยสารจริงได้

ซึ่งทางเจ้าหน้าที่จะดำเนินการตรวจสอบอย่างจริงจัง หากพบการกระทำลักษณะดังกล่าวจะดำเนินคดีทุกราย ทั้งนี้ ฝากประชาสัมพันธ์ให้กับประชาชนในการใช้แผ่นป้ายทะเบียนรถยนต์และรถจักรยานยนต์ จะต้องใช้แผ่นป้ายทะเบียนที่ออกจากกรมการขนส่งทางบกเท่านั้น

หากพบการใช้ป้ายทะเบียนรถยนต์ปลอม รวมถึงแผ่นป้ายแสดงการเสียภาษีปลอมมีความผิดตามกฎหมายอาญาเข้าข่ายความผิดฐานใช้เอกสารราชการปลอมมีโทษจำคุก ตั้งแต่ 6 เดือน -5 ปี และปรับตั้งแต่ 10,000-100,000 บาท

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน