จากกรณีที่มีผู้ที่ใช้เฟสบุ๊กชื่อ “ขันธ์ศร อาท คำห่อ” ได้โพสต์รูปจระเข้ตัวใหญ่ อยู่ริมน้ำ พร้อมข้อความระบุว่า “ฝากข่าว เเจ้งเตือนด้วยนะครับ พ่อเเม่พี่น้องที่หาปลาในทุ่งสามร้อยยอดนะครับ ตอนนี้มีจระเข้ ในทุ่งสามร้อยอดหลายตัวนะครับ วันนี้ผมจับได้1ตัว ตัวประมาน80 กิโล ดุมากจะเข้ามาทำร้ายชาวบ้านที่หาปลา ฝากถึงผู้ที่เกี่ยวข้องเข้ามา ดูเเลหน่อยนะครับ(ฝากช่วยเเชร์ด้วยครับ )” จนมีคนแชร์เรื่องราวดังกล่าวออกไปจำนวนมาก
ความคืบหน้าเมื่อวันที่ 6 ก.พ. ผู้สื่อข่าว “ข่าวสด” ประจำจ.ประจวบคีรีขันธ์ เดินทางไปที่บ้านหลังหนึ่ง บริเวณด้านข้างโรงเรียนวัดตาลเจ็ดยอด ต.ศาลาลัย อ.สามร้อยยอด ก่อนพบกลุ่มชาวบ้านกำลังช่วยกันนำจระเข้ที่ถูกมัดปากและเท้า ขึ้นมาไว้บนท้ายรถกระบะ โดยมี นายพเยา มีกลิ่น ปลัดอำเภอสามร้อยยอดและเจ้าหน้าที่จากอุทยานแห่งชาติเขาสามร้อยยอดร่วมกันตรวจสอบ ก่อนพบว่าเป็น จระเข้น้ำจืด ขนาดใหญ่ ที่มีลำตัวยาว 214 เซนติเมตร วัดรอบตัวได้ 90 เซนติเมตร น้ำหนักประมาณ 80 กิโลกรัม และมีความดุร้ายเนื่องจากอยู่ในอาการตกใจและสะบัดหางไปมาอย่างรุนแรง
ขณะที่ นายปทุม คำห่อ อายุ 58 ปี บ้านเลขที่ 482 หมู่ 1 ต.ไร่เก่า อ.สามร้อยยอด เป็นผู้พบจระเข้ตัวดังกล่าว เปิดเผยว่า ในขณะที่ลงไปหาปลาอยู่ในทุ่งสามร้อยยอด ได้ไปพบจระเข้ตัวขนาดใหญ่กำลังนอนผึ่งแดดอยู่บนโขดหินริมตลิ่งอย่างสบายใจ ตนรู้สึกตกใจมากและวิ่งหนีขึ้นมาจากน้ำ พร้อมกับโทรศัพท์แจ้งให้หลานชายคือ นายขันธ์ศร คำห่อ อายุ 33 ปี ซึ่งเป็นผู้โพสต์เรื่องราวลงเฟสบุ๊ก เข้าไปยังจุดที่พบจระเข้ ก่อพบว่าจระเข้ เริ่มมีการเคลื่นไหว จากนั้นนายขันธ์ศร ได้ใช้เชือกเข้าไปคล้อง เมื่อคล้องได้จึงได้ดึงขึ้นมาจากน้ำและช่วยกันมัดปากก่อนยกขึ้นมาไว้บนรถกระบะก่อนนำมาไว้ที่บ้านของชาวบ้านเพื่อรอเจ้าหน้าที่เดินทางมาตรวจสอบ
นายพเยา มีกลิ่น ปลัดอำเภอสามร้อยยอด เปิดเผยว่า จากการตรวจสอบ พบเป็นจระเข้น้ำจืด แต่ยังไม่ทราบว่าเป็นจระเข้ตามธรรมชาติ หรือจระเข้ที่ มีการเลี้ยงอยู่ในฟาร์ม 2 แห่งในพื้นที่อำเภอสามร้อยยอด ซึ่งขณะนี้ได้รายงานนายอำเภอสามร้อยยอดทราบ พร้อมประสานประมงอำเภอและประมงจังหวัดให้มาทำการตรวจสอบ อย่างไรก็ดี ชาวบ้านในพื้นที่ยังคงหวดกลัวและเกรงว่าจะยังมีจระเข้เหลืออยู่ในทุ่งสามร้อยยอด และอาจเป็นอันตรายกับชาวบ้านที่ลงหาปลาเป็นอาชีพ จึงได้แจ้งไปทางกำนัน ผู้ใหญ่บ้านและชาวบ้านที่ลงไปหาปลาทำการตรวจสอบว่ายังมีการพบเห็นจระเข้ในพื้นที่อีกหรือไม่ เพื่อที่จะได้ส่งเจ้าหน้าที่เข้าไปทำการตรวจสอบและนำขึ้นมา เพื่อป้องกันอันตราย และลดความกังวลของชาวบ้านต่อไป
