พ่อคาใจ วอนตำรวจไขคดี หลังลูกชายเพิ่งกลับจากเกาหลี กำลังนั่งรถไฟมาบุรีรัมย์ กลับกลายเป็นศพใต้สะพานข้ามคลอง พบโพสต์เฟซบุ๊ก ขอความช่วยเหลือ

เมื่อวันที่ 2 ม.ค. 2566 จากกรณีตำรวจสภ.เมืองสระบุรี พบศพนายสายัน ตระกูลรัมย์ หรือแยบ อายุ 48 ปี ชาวจ.บุรีรัมย์ จมน้ำเสียชีวิตที่บริเวณสะพานคลองเพรียว ใต้สะพานข้ามทางรถไฟ ต.ปากเพรียว อ.เมือง จ.สระบุรี เมื่อวันที่ 1 มกราคม 66 ที่ผ่านมา ซึ่งก่อนหน้านี้นายสายัน เพิ่งเดินทางกลับมาจากประเทศเกาหลีเมื่อวันที่ 30 ธันวาคม 65

จากนั้นนายสายัน ได้ไปหาเพื่อนที่กรุงเทพฯ แล้วนอนพักที่นั่น 1 คืน ต่อมาวันที่ 31 ธันวาคม 65 ก็นั่งรถไฟจากกรุงเทพฯ กลับบ้านเกิดที่จ.บุรีรัมย์ กระทั่งมาพบเป็นศพอยู่ใต้สะพานข้ามทางรถไฟที่จ.สระบุรี ดังกล่าว

จากการตรวจสอบพบรอยถลอกตามร่างกาย ที่บริเวณไหล่ด้านขวามีบาดแผลเป็นรูลึก คล้ายถูกเหล็กแหลมแทง ในกระเป๋าพบเงินสดจำนวน 92,000 บาท สลากกินแบ่งรัฐบาล งวดเดือนตุลาคม หลายใบ เงินสกุลเกาหลีอีกจำนวนหนึ่ง เหรียญประมาณ 200 บาท พาสปอร์ต และบัตรประจำตัวประชาชน

ต่อมาทางญาติที่จ.บุรีรัมย์ อยากให้ตำรวจสอบหาข้อเท็จจริงเกี่ยวการเสียชีวิต เพราะเกรงว่าจะถูกฆ่าตกรรม แต่ยังมีเรื่องอื่นเข้ามาเกี่ยวข้องอีก โดยญาติได้ตั้งข้อสังเกตว่าลูกชายโทรศัพท์ร้องไห้มาบอกกับครอบครัวว่า “แฟนผมมีคนใหม่” ซึ่งอาจจะเป็นมูลเหตุอีกทางหนึ่งที่ทำให้ลูกชายเสียชีวิต เพราะอาจจะเกิดการเหม่อลอย แล้วตกรถไฟตามข้อสันนิษฐานเบื้องต้นของตำรวจ

อย่างไรก็ตาม น.ส.จำปี อายุ 45 ปี ชาวจ.หนองคาย ภรรยาของนายนายสายัน เปิดเผยว่า ตนกับสามียังไม่ได้เลิกกัน ยังโทรติดต่อกันตามปกติ โดยสามีส่งเงินมาให้ทุกเดือน ๆ ละ 10,000 บาท ไม่ขาดไม่เกิน และครั้งสุดท้ายสามียังส่งข้อความมาว่า “กูรักมึงนะ” อีกด้วย

ตอนนี้ตนยังคิดอะไรไม่ออก อยากจะไปร่วมงานศพสามีที่จ.บุรีรัมย์ แต่ไม่มีเงินเดินทางไป และเกรงว่าญาติของสามีจะเข้าใจผิด ส่วนตัวอยากจะมีส่วนแบ่งในทรัพย์สินของสามี ถึงแม้จะไม่ได้จดทะเบียนสมรสก็ตาม แต่ก็ได้อยู่กินกันมาเกือบ 20 ปีแล้ว

ด้านนางทวน ตระกูลรัมย์ อายุ 71 ปี แม่ของนายสายัน กล่าวว่า ก่อนหน้านี้ไม่ถึง 15 วัน หลังลูกชายโทรมาบอกว่าภรรยาไปมีแฟนใหม่ ตนก็ได้โทรศัพท์ไปหาลูกสะใภ้ที่จ.หนองคาย ได้รับคำตอบว่า “หนูเลิกกันแล้ว” ตนก็ไม่ว่าอะไร

จนกระทั่งลูกชายมาเสียชีวิต ตนก็โทรไปแจ้งอีกแต่ได้รับคำตอบว่าไม่มีเงินค่ารถ ทั้งที่ลูกชายส่งให้เดือนละ 10,000 บาท ส่วนทางคดีก็อยากจะให้ตำรวจรีบสืบสวนหาข้อเท็จจริงเกี่ยวการตายของลูกชายให้โดยเร็ว เพราะยังคาใจอยู่

ด้านนายนาค ตระกูลรัมย์ อายุ 72 ปี พ่อนายสายัน กล่าวว่า ก่อนเกิดเหตุ เพื่อนของลูกชายได้โทรศัพท์มาบอกว่า ระหว่างที่อยู่บนรถไฟลูกชายได้ขอความช่วยเหลือผ่านทางเพื่อน บอกว่าจะมีคนทำร้าย จึงวิ่งหนีเข้าไปซ่อนตัวอยู่ในห้องน้ำแล้วเอาเข็มขัดล็อคประตูไว้ หลังจากนั้นติดต่อไม่ได้อีกเลย

นอกจากนี้ยังพบว่าลูกชายได้โพสต์ขอความช่วยเหลือบนเฟซบุ๊กว่า “ขอความช่วยเหลือครับ” และ “ช่วยผมด้วยครับ” ส่วนเงินที่พบในตัว 90,000 บาท เป็นเงินที่ลูกชายเบิกมาจำนวน 100,000 บาท จึงอยากจะให้เจ้าหน้าที่ช่วยคลี่คลายคดีใด้โดยเร็ว

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน