“อนุทิน” ยันคลินิกประชาสังคม จ่ายยาเอชไอวีได้ ขออย่าเสนอข้อมูลไม่ถูกต้อง ไม่เกี่ยวกับปมยังไม่เซ็นงบ PP สำหรับนอกสิทธิบัตรทอง ย้ำรอตีความ ยึดทุกอย่างต้องถูกต้องตามกฎหมาย

12 ม.ค. 66 – นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีคลินิกองค์กรภาคประชาสังคม กังวลการสต็อก และจ่ายยาป้องกันไวรัสเอชไอวี ก่อนสัมผัส (ยา PrEP) และหลังสัมผัส (ยา PEP)

หลังกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ (สบส.) ไม่อนุญาตให้ทำได้ ทั้งที่เป็นผลงานเด่นที่ไทยโชว์ UNAIDS และห่วงจะกระทบการป้องกันและยุติปัญหาโรคเอดส์ ว่า

ไม่มีผลกระทบในเรื่องของการให้บริการใดๆ ทั้งสิ้น องค์กรภาคประชาชนยังสามารถจ่ายยาได้ ขออย่าเสนอข้อมูลที่ไม่ถูกต้อง สร้างความกังวลให้กับประชาชน สธ. ยืนยันว่า เรื่องค่ารักษา ดูแล ยิ่งคนติดเชื้อเอชไอวี ยิ่งต้องได้รับการดูแลปกติ ส่วนการเคลียร์บัญชีเป็นเรื่องภายใน สามารถเบิกกับ สปสช.ได้ การให้บริการผู้ป่วยนั้น ไม่มีเวลารออยู่แล้ว ถึงอย่างไรก็ให้การรักษา เบิกได้ตามสิทธิ ตามกฎหมาย

เมื่อถามว่า การที่ไม่เซ็นอนุมัติงบส่งเสริมสุขภาพป้องกันโรค (PP) จะกระทบหรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า ตนเซ็นแล้ว ยกเว้นส่วนที่นอกระบบบัตรทอง เพราะฝ่ายกฎหมายบอกว่า ยังไม่สามารถดำเนินการได้ ยังขัดข้องอยู่

สธ.จึงแจ้งไปยัง สปสช. ว่าให้ดำเนินการให้ถูกต้อง หลายครั้งแล้ว อ้างกฎหมาย แนะนำ วิธีเสนอแนะว่าจะทำอย่างไรให้ถูกต้อง แต่สปสช.ไม่ทำ ส่งคืนมาแล้วก็ต้องเป็นอย่างนี้ อย่ามาโทษใครเลย คนปฏิบัติต้องทำให้ถูกต้องตามกฎหมาย หากถูกต้องตามกฎหมายก็ทำได้ทุกอย่าง

เมื่อถามย้ำว่า มีการหารือร่วมกับกองทุนอื่นๆ เพื่อให้เข้ามาดูแลเรื่องส่งเสริมสุขภาพป้องกันโรค เพื่อไม่ให้ประชาชนสิทธิอื่นได้รับผลกระทบตรงนี้ นายอนุทิน กล่าวว่า ทุกอย่างเป็นไปตามกฎหมาย ซึ่งเราดูแลทุกคนอยู่แล้ว คำตอบก็เหมือนเดิม ประชาชนไม่มีผลกระทบใดๆ ต่อประชาชน








Advertisement

ดังนั้นหากกฎหมายเขียนว่า ครอบคลุมก็ครอบคลุม ส่วนที่องค์กรภาคประชาชนจะมีการแจ้ง หรือหารือต่อองค์กรระหว่างประเทศเกี่ยวกับการที่ออกแนวปฏิบัติไม่ให้จ่าย PrEP และยา PEP ได้ ขัดกับสิ่งที่แสดงให้ชาวโลกเห็น ก็เป็นเรื่องที่ดี ที่จะได้มีข้อเสนอแนะ แต่ไม่ว่าจะเป็นข้อเสนอแนะ หรือวิธีการใดๆ ก็แล้วแต่ต้องไม่ขัดกับกฎหมาย เราทำอะไรขัดกับกฎหมายไมได้ “ถูกใจ แต่ไม่ถูกต้อง ไม่ทำ”

เมื่อถามว่า มีการระบุว่าการที่ไม่ยอมเซ็น เพราะกังวลว่าจะกระทบกับการเลือกตั้ง การเป็นแคนดิเดต นายกฯ นายอนุทิน กล่าวว่า เป็นคนละเรื่องกัน อันนี้เป็นหน้าที่ รมว.สธ. ไม่เกี่ยวกับเรื่องการเมือง แยกหน้าที่ได้ ไม่เคยเอาเรื่องการเมืองมายุ่งกับงาน สธ. ตนไม่ทำอย่างเดียว คือเรื่องที่ผิดกฎหมาย

ถ้ามันขัดต่อกฎหมาย ผมก็ต้องเชื่อที่ปรึกษากฎหมาย ถ้าผิดกฎหมายก็ทำไม่ได้ ต่อให้ลงนามไปก็ปฏิบัติไม่ได้ แล้วจะทำให้เกิดความเดือดร้อนอื่นๆ ตามมา จะลงนามได้เมื่อ สปสช. จะต้องนำเสนอสิ่งที่ทุกคนเห็นพ้องต้องกัน เรื่องพวกนี้ไม่เกี่ยวกับเรื่องโหวต ถ้าไม่ขัดต่อกฎหมาย ทุกฝ่ายต้องเห็นว่าไม่ขัดต่อกฎหมาย ไม่ใช่เสียงข้างมากแล้วถือว่า สิ่งนั้นเป็นสิ่งที่ถูกต้อง ซึ่งมันไม่ใช่

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน