7 เยาวชน รุมทำร้ายคู่อริ ในโรงพยาบาล ผู้ปกครองพาเข้ามอบตัวแล้ว ตร.เผยสาเหตุลงมือ เขม่นกันมาก่อน มาเยี่ยมเพื่อนเผชิญหน้ากัน จนเกิดเรื่อง

กรณีกลุ่มวัยรุ่นก่อเหตุทำร้ายร่างกายกันในโรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราชกุฉินารายณ์ อ.กุฉินารายณ์ จ.กาฬสินธุ์ เมื่อค่ำของวันที่ 22 ม.ค.2566 ที่ผ่านมา ซึ่งกล้องวงจรปิดบันทึกเหตุการณ์ได้ เบื้องต้นคาดน่าจะมีเรื่องทะเลาะกันมาก่อน

ล่าสุดเมื่อเวลา 13.30 น.วันที่ 24 ม.ค.2566 พ.ต.อ.บัณฑิต สิงหประชาผกก สภ.กุฉินารายณ์ จ.กาฬสินธุ์ ได้สั่งการให้ พ.ต.ท.ฐิติพันธ์ นิติธรรมสารพล รองผกก.(สอบสวน) สภ.กุฉินารายณ์ และ ร.ต.อ.เอนก สุตนนท์ ร้อยเวรสอบสวนสภ.กุฉินารายณ์ เจ้าของคดี นำตัว นายซี (นามสมมติ) เยาวชนชาย อายุ 17 ปี ซึ่งเป็นผู้เสียหายที่ถูกรุมทำร้ายร่างกายในโรงพยาบาล สมเด็จพระยุพราชกุฉินารายณ์มาสอบปากคำร่วมกับทีมสหวิชาชีพ ประกอบด้วยพนักงานอัยการ นักจิตตวิทยา นักสังคมสงเคราะห์ โดยมีผู้ปกครองร่วมรับฟังด้วย ที่สำนักงานอัยการ จ.กาฬสินธุ์

ด้าน พล.ต.ต.สุวรรณ์ เชี่ยวนาวินธวัช ผบก.ภ.จว.กาฬสินธุ์ เปิดเผยว่า สำหรับเหตุการณ์ทำร้ายร่างกายกันในโรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราชกุฉินารายณ์นั้น ขณะนี้ทราบตัวผู้ก่อเหตุทั้งหมดแล้ว ซึ่งมีทั้งหมด 7 คน โดยทั้ง 7 คน เป็นเยาวชนอายุระหว่าง 15-17 ปี ส่วนผู้เสียหายก็เป็นเยาวชนอายุ 17 ปีเช่นกัน และทั้งสองฝ่ายเป็นนักเรียนคนละโรงเรียนกัน

ทั้งนี้จากการสอบสวนเบื้องต้นคู่กรณีทั้งสองฝ่ายมีการก่อเหตุทำร้ายร่างกายกันก่อนที่จะมีเหตุการณ์ในโรงพยาบาล สาเหตุเกิดจากเขม่นกันเรื่องส่วนตัว ก่อนที่จะเข้ามารักษาตัวในโรงพยาบาล จากนั้นทั้งสองฝ่ายได้มาเยี่ยมเพื่อนของตนเอง และได้เจอกัน ก่อนจะเขม่นกันอีกรอบจนก่อเหตุขึ้นดังกล่าว

พล.ต.ต.สุวรรณ์ กล่าวต่อว่า ล่าสุดได้รับรายงานจากสภ.กุฉินารายณ์ว่า วันนี้ผู้ปกครองของเยาวชนทั้ง 7 คนจะพาบุตรหลานของตนเองเข้ามามอบตัว ซึ่งหลังจากมอบตัวและติดตามตัวครบทั้ง 7 คนแล้ว พนักงานสอบสอนจะนำตัวทั้ง 7 คน ไปสอบปากคำร่วมกับทีมสหวิชาชีพที่สำนักงานอัยการ จ.กาฬสินธุ์ ในวันพรุ่งนี้ (25 ม.ค.2565)

อย่างไรก็ตามสำหรับเหตุการณ์ดังกล่าวจะต้องแบ่งออกเป็น 2 ประเด็น โดยประเด็นแรกคือ การทำร้ายร่างกายกันก่อนที่จะมาก่อเหตุในโรงพยาบาล ทราบว่ามีการใช้อาวุธด้วย ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการสอบปากคำผู้ที่เกี่ยวข้องและรวบรวมพยานหลักฐาน ในส่วนประเด็นที่ 2 เป็นการก่อเหตุทำร้ายร่างกายกันในโรงพยาบาล ซึ่งเรื่องนี้อยู่ระหว่างการดำเนินคดีตามขั้นตอนของกฎหมาย

พล.ต.ต.สุวรรณ์ กล่าวอีกว่า ในส่วนเรื่องมาตรการป้องกันเพื่อไม่ให้เกิดเหตุการณ์ลักษณะนี้ขึ้นอีกนั้น ทางตำรวจภูธร จ.กาฬสินธุ์จะได้กำชับไปยังทุกโรงพักให้ทำความเข้าใจและประชาสัมพันธ์กับสถานศึกษาให้เข้มงวดดูแลสอดส่องนักเรียนอย่างใกล้ชิด พร้อมฝากเตือนไปยังผู้ปกครองและนักเรียน เยาวชนให้มีสติ ซึ่งการรักเพื่อนนั้นเป็นสิ่งที่ดี แต่ต้องรักเพื่อนในทางที่ถูกที่ควร ไม่ใช่ไปก่อเหตุแบบนี้ ซึ่งนอกจากตนเองจะเสียประวัติแล้วยังทำให้พ่อ แม่ ผู้ปกครอง รวมทั้งบุคคลอื่นเดือดร้อนไปด้วย








Advertisement

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน