เมื่อวันที่ 10 ก.พ. ร.ต.อ.ชนาธิป บัวเข็ม รอง สว.(สอบสวน) สภ.เมืองอุดรธานี เปิดเผยว่า เมื่อช่วงค่ำของวันที่ 9 ก.พ.ที่ผ่านมา ได้รับแจ้งเหตุมีเหตุงัดบ้านที่บ้านเลขที่ 60/10 ถ.ทหารเขตเทศบาลนครอุดรธานี จึงรุดไปตรวจสอบพร้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนและเจ้าหน้าที่ตำรวจเขตงาน ธรรมศักดิ์
ที่เกิดเหตุเป็นบ้านครึ่งปูนครึ่งไม้ 2 ชั้น มีนางสว่างจิต มีทรัพย์ทอง อายุ 75 ปี เจ้าของบ้าน ยืนรอให้การกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ และนำไปชี้จุดแรกที่คนร้ายใช้เสียมงัดประตูกระจกหน้าบ้านจนกระจกร้าว แล้วคนร้ายได้ถอดกระจกบานเกล็ดห้องเก็บของ เข้าไปรื้อค้นหาทรัพย์สิน ก่อนเข้าไปงัดหน้าต่างห้องรับแขกและคนร้ายยังได้ทุบกระปุกออมสินที่วางไว้ในตู้โชว์ได้เงินไปประมาณ 500 บาท พร้อมทั้งรื้อค้นหาของมีค่า ข้าวของกระจัดกระจาย
จากนั้น คนร้ายยังใช้ด้ามเสียมทุบประตูกระจกจนแตกแล้วขึ้นไปยังชั้นสองของบ้าน ขโมยเอาพระพุทธรูปบูชาหลวงพ่อโสธรขนาดหน้าตัก 9 นิ้ว ที่บูชามาเมื่อ 40 ปีที่แล้ว, หลวงปู่ชอบหน้าตัก 3 นิ้ว และหลวงปู่มั่นสูง 3 นิ้ว รวม 3 องค์ มูลค่าประมาณ 20,000บาท
นางสว่างจิต กล่าวว่า ตนซื้อบ้านหลังนี้อยู่มากว่า 50 ปีแล้ว ไม่เคยเกิดเหตุการณ์คนร้ายเข้ามางัดแงะแต่อย่างไร จนกระทั่งเกษียณราชการครู ก็ไปอยู่บ้านอีกหลังหนึ่ง แต่จะเข้ามารดน้ำต้นไม้ ดูแล ทำความสะอาดบ้านหลังนี้สัปดาห์ละ 2 ครั้ง จนกระทั่งมีเพื่อนบ้าน โทรศัพท์ไปบอกว่าได้ยินเสียงเปิดน้ำทิ้งไว้ตั้งแต่ตอนกลางวัน จึงให้ลูกชายมาดู แต่ก็เข้าบ้านไม่ได้เพราะไม่ได้เอากุญแจบ้านไป จนกระทั่งหลังออกกำลังกายเสร็จ ตนก็ได้ชวนลูกสะใภ้มาดูก็พบว่าบ้านถูกคนร้ายงัด จึงได้สำรวจทรัพย์สิน แล้วโทรศัพท์แจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจให้มาตรวจสอบ
ด้าน ร.ต.อ.ชนาธิป กล่าวว่า จากการตรวจสอบบริเวณโดยรอบบ้าน พบคนร้ายเข้ามาทางบริเวณด้านหน้า และน่าจะใช้เสียมงัดประตูเข้ามาและมีร่องรอยหลักฐานที่คนร้ายทิ้งเอาไว้ คือรองเท้าหนังสีขาว รอยเท้า และกางเกงลายดอกไม้ซึ่งคาดว่าเป็นของคนร้าย จากนั้น คนร้ายยังได้เข้าไปทุบประตูกระจกด้านในอีก และรื้อคนทุกห้องเพื่อหาของมีค่า ซึ่งพบรอยเลือดอยู่บริเวณลิ้นชักตู้
ร.ต.อ.ชนาธิป กล่าวต่อว่า คาดว่าคนร้ายอาจถูกกระจกบาดจนได้รับบาดเจ็บ จึงรีบขนทรัพย์สินหลบหนีไป จึงได้ตรวจยึดหลักฐานที่คนร้ายทิ้งไว้ จะให้ตำรวจชุดสืบให้มาตรวจสอบกล้องวงจรปิด ตามเส้นทางเพื่อเบาะแสของคนร้ายใช้หลบหนี ในการติดตามตัวมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
