เศรษฐีเฒ่า ร้องตร. โดนลูกชายกับสะใภ้จับขัง ยื่นเป็นผู้จัดการมรดก โอนทรัพย์สินกว่า 65 ล้าน เชื่อภรรยาโดนฆ่าอำพราง จัดฉากแขวนคอ

วันที่ 11 ก.พ.2565 ผู้สื่อข่าวพาตัวชาย อายุ 67 ปีเข้าพบตำรวจสภ.เมืองฉะเชิงเทรา หลังผู้เสียหายเผยว่าถูกลูกชายและลูกสะใภ้พร้อมเครือญาติ รวมหัวทุบตี และกักขังไว้ในบ้าน จัดฉากให้เหมือนคนไร้ความสามารถ ก่อนยื่นศาลขอเป็นผู้จัดการมรดกแทนแม่ ซึ่งเสียชีวิตปริศนา เหมือนถูกจัดฉาก โดยได้โอนทรัพย์สินกว่า 65 ล้านไป

ทางเศรษฐีชราเผยว่า เหตุการณ์นี้ยังกะละคร แต่ตนโดนกลับตัว ลูกชายกับลูกสะใภ้ใส่ยาในอาหารและน้ำให้กิน โดยช่วงปี 2563 ตนกับเมียก็ล้มป่วยลง และถูกขังในห้องที่ลูกบิดไม่สามารถเปิดจากข้างในได้ ทางหลานที่อยู่ใกล้กัน พยายามมาหาแต่ถูกกีดกัน แต่ก็ยังลอบเข้ามาพาตนส่งรพ.ได้

อย่างไรก็ดีลูกชายอ้างสิทธิ์พาตนกับเมียออก แล้วไปขังที่บ้านพ่อแม่ของสะใภ้แทน โดยขังไว้ถึงปี 2565 จนกลางเดือนพ.ค. ตนจึงหนีมาได้

โดยห้องที่ขังนั้นกว้างแค่ 4 คูณ 8 เมตร ปิดหน้าต่าง ไม่ให้เห็นเดือนและตะวัน มีทีวีให้ชม แต่ตอนหลังเอาออกไป ตนอยู่กับเมีย เหมือนติดคุก มีการส่งถาดข้าวและขวดน้ำมาให้ อาหารคือมาม่าและปลากระป๋อง น้ำดื่มกรองจากน้ำประปา ได้อาบน้ำ 3 เดือนครั้ง ประมาณ 15 นาที เวลาจะถ่ายหนักหรือเบา ต้องใช้เก้าอี้เอาถุงดำใส่ไป แล้วมัด จากนั้นจะมีแม่บ้านมาเก็บเดือนละครั้ง ซึ่งห้องจะเหม็นมาก โดยตนกับภรรยาแยกกนอยู่คนละห้อง

ทั้งนี้หลังจากนี้มาได้ ก็ทราบข่าว ภรรยาตนได้ผูกคอ แต่ตนเชื่อว่าเมียถูกฆาตกรรมอำพรางมากกว่า โดยเคยได้ยินเสียงเมียร้องขอความช่วยเหลือก่อนจะเกิดเหตุสลดด้วย

เบื้องต้นพล.ต.ต.นเรวิช สุคนธวิท ผบก.ภ.จว.ฉะเชิงเทรา ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องรวบรวมพยานหลักฐานในคดีพร้อมสอบสวนเพื่อให้ความเป็นธรรมทั้งสองฝ่าย โดยจะดำเนินการตามกฎหมายต่อไป

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน