ตรัง บรรยากาศซื้อขายดอกไม้ ช่วงวันวาเลนไทน์ปีนี้เงียบเหงา แม่ค้าโอดยอดขายลดลง เหตุ เศรษฐกิจซบเซา ดอกกุหลาบราคาส่งเพิ่มขึ้น ลูกค้าซื้อดอกไม้ชนิดอื่นสื่อแทนความรัก
13 ก.พ. 66 – ที่ร้านจำหน่ายดอกไม้สด บริเวณรอบๆ ตลาดสดเทศบาลนคนตรัง ซึ่งจำหน่ายดอกไม้ทั้งปลีกและส่ง จากการสำรวจพบว่า บรรยากาศเป็นไปอย่างเงียบเหงา ทั้งที่ใกล้จะถึงวันแห่งความรัก หรือ วันวาเลนไทน์ ประจำปี 2566 แล้ว
โดยพ่อค้าแม่ค้าดอกไม้ ต่างนำดอกกุหลาบ ดอกคาเนชั่น ดอกยิปโซ ดอกเสติส มาวางเรียงรายหน้าร้าน และเริ่มตัดแต่งดอกกุหลาบสำหรับขายส่งให้กับผู้ที่ต้องการนำไปขายต่อ ขณะที่มีลูกค้าวนเวียนมาเลือกซื้อดอกกุหลาบวาเลนไทน์อย่างประปราย ส่วนใหญ่จะซื้อเป็นดอกเดี่ยว หรือช่อเล็กๆ เท่านั้น
นางสาวนุชนาถ แก้วกลาง เจ้าของร้านดอกไม้อมรรัตน์ บอกว่า ยอดขายดอกกุหลาบช่วงวาเลนไทน์ปีนี้ เงียบเหงามาก ยอดขายของร้านลดลง 30% ลูกค้ามักซื้อแค่เป็นดอกเดียว แบบเดี่ยวๆ ราคาดอกละ 20-25 บาท
ส่วนดอกแบบจัดช่อ จะมีราคาเริ่มต้นที่ 300-2,000 บาท แต่ส่วนใหญ่ลูกค้าจะนิยมซื้อในราคาช่อละ 500-800 บาท ซึ่งยอดขายที่ลดลงมานั้น เกี่ยวเนื่องกับภาวะเศรษฐกิจที่ซบเซาด้วย ขณะเดียวกันราคาดอกกุหลาบที่รับมา ปรับเพิ่มขึ้น 100-200 บาทต่อมัด นับตั้งแต่ปลายสัปดาห์ที่แล้ว
Advertisement
สำหรับ กุหลาบไทยสีแดง มัดละ 50 ดอก ราคาเพิ่มเป็น 800 บาท กุหลาบไทยสีชมพู มัดละ 50 ดอก ราคาเพิ่มเป็น 700 บาท กุหลาบเชียงใหม่ สีแดงและสีขาว มัดละ 50 ดอก ราคาเพิ่มเป็น 1,000 บาท และกุหลาบจีนสีแดง มัดละ 20 ดอก ราคาเพิ่มเป็น 1,500 บาท
ส่งผลให้ลูกค้าบางรายหันไปชื้อ ดอกทานตะวัน ดอกยิปโซ ดอกแคสเปีย ดอกสแตติสสีม่วง เป็นดอกไม้สื่อรักแทนดอกกุหลาบ เพราะมีราคาถูกกว่า ส่วนลูกค้าที่ซื้อดอกกุหลาบไทยเพื่อนำไปขายต่อเป็นดอกเดี่ยว ปรากฏว่า ในช่วงวาเลนไทน์ปีนี้ ไม่กล้าซื้อเยอะ เพราะกลัวขายไม่หมด
