ตายแล้วบอกย่ามาดู ตีพ่อมาเป็นปี 2 วันก่อนเพิ่งใช้สากทุบหัวเลือดอาบ เผยคำพูดสุดท้าย คงต้องตายเพราะลูกจริงๆ ญาติบอกขอให้ประหารไปเลย

เมื่อวันที่ 10 มิ.ย.66 ร.ต.อ.ชัชวิน ศรีแก้วหล่อ รอง สว.(สอบสวน) สภ.เมืองหนองบัวลำภู จ.หนองบัวลำภู รับแจ้งเหตุ มีคนถูกฆ่าเสียชีวิต ที่บ้านหลังหนึ่งในต.โพธิ์ชัย อ.เมือง จ.หนองบัวลำภู จึงแจ้งแพทย์เวร โรงพยาบาลหนองบัวลำภู และหน่วยกู้ภัย นเรศวร หนองบัวลำภูออก ร่วมชันสูตรพลิกศพ

ที่เกิดเหตุเป็นบ้านชั้นเดียว ขนาด 2 ห้องนอน สภาพใหม่ พบศพ นายวิษณุกร (สงวนนามสกุล) อายุ 46 ปี เสียชีวิตอยู่ในห้องนอน มีรอยช้ำที่ใบหน้า และรอยของแข็งทุบที่ท้ายทอย นอนหงายเสียชีวิตอยู่

ขณะที่ภายนอกบ้าน พบนายอัมรินทร์ อายุ 24 ปี ลูกชายของผู้ตาย ยืนตะโกน เอะอะโวยวาย ประกาศว่าเป็นผู้ฆ่านายวิษณุกร เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนจึงเข้าควบคุมตัว นายอัมรินทร์ ไปสอบสวนที่ สภ.เมืองหนองบัวลำภู

จากนั้นจึงประสานเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐาน มาตรวจหาหลักฐานพยาน ที่พอจะบ่งชี้ได้ว่านายวิษณุกรเสียชีวิตจากสาเหตุอะไร แม้ชาวบ้านหลายคนจะยืนยันว่านายอัมรินทร์ลูกชายของผู้ตาย เป็นคนบอกกับชาวบ้านเองว่า เป็นคนลงมือสังหารพ่อ แต่ทางเจ้าหน้าที่เกรงว่า ผู้ต้องหาจะกลับคำให้การ จึงต้องเก็บหลักฐาน เพื่อมัดตัวผู้ต้องสงสัย








Advertisement

นางธรณี จันทะเรือง ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน บ้านสว่างพัฒนา เล่าให้ฟังว่า นายอัมรินทร์ผู้ก่อเหตุ เป็นลูกชายคนเดียวของนายวิษณุกรมีพฤติกรรมเสพสารเสพติด ทั้งยาบ้า และเหล้า อย่างหนักต่อเนื่อง มาตั้งแต่เป็นวัยรุ่น และมีนิสัยก้าวร้าว มักมีเรื่อง ทะเลาะเบาะแว้งกับกลุ่มวัยรุ่นจนติดเป็นนิสัย แต่นายวิษณุกรผู้เป็นพ่อก็ปกป้องเลี้ยงดู ลูกชายคนเดียว ทั้งตามใจทุกอย่าง

เมื่อนายอัมรินทร์ มีอาการมึนเมามา ก็ก่อเหตุทำร้ายร่างกายพ่อเป็นประจำ แต่นายวิษณุกรก็ไม่ยอมให้เจ้าหน้าที่ นำตัวนายอัมรินทร์ไปบำบัดแม้กระทั่งกล่าวคำอาฆาตว่า “ใครไปแจ้งความให้ตำรวจมาจับลูกกู กูจะฆ่ามัน” จนชาวบ้านเอือมระอา อยู่อย่างหวาดผวา ปล่อยให้ 2 พ่อลูกอยู่ด้วยกันในบ้านหลังดังกล่าว จนกระทั่งเกิดเหตุฆ่ากันตาย ในวันนี้

นางธรณี กล่าวต่อว่า หลายครั้งที่เมื่อนายอัมรินทร์เมาหนัก ก่อเหตุทุบทำลายข้าวของ ไม่เว้นแม้แต่ประตูบ้าน ชาวบ้านใกล้เคียงเกรงว่าจะเกิดเหตุลุกลาม เป็นอันตรายต่อบุคคลอื่น จึงโทรศัพท์ไปแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจให้มาระงับเหตุหลายครั้ง แต่ก็ถูกในนายวิษณุกรปกป้องไว้ ไม่ยอมให้ตำรวจนำตัวนายอัมรินทร์ไปบำบัด

เพื่อนบ้านคนหนึ่งเล่าให้ฟังว่า เมื่อกลางวันเวลาประมาณ 13.00 น เห็นนายวิษณุกรแอบหลบลูกชายที่กำลังตามหา เดินกลับมาที่บ้าน พร้อมกับบ่นภาษาอีสานว่า “คือสิตายย้อนลูกนี่แหละ” (แปลเป็นไทยว่า) คงจะตายเพราะลูกนี้แหละ”

จากนั้นก็ไม่มีใครพบเห็นนายวิษณุกรอีก จนกระทั่งเวลาประมาณ 19.30 น นายอัมรินทร์เดินไปหาเพื่อนบ้านคนหนึ่งเพื่อขอยืมรถจักรยานยนต์ไปหาย่าของตน ที่อีกหมู่บ้านใกล้เคียงกัน โดยมีภาพจากกล้องวงจรปิดจับภาพได้ชัดเจน ตอนที่นายอัมรินทร์ไปขอยืมรถ แต่ไม่ได้ โดยบอกว่าจะไปบอกย่าให้มาเก็บศพพ่อ

ชาวบ้านที่พบเห็นต่างก็ไม่เชื่อ คิดว่าพูดไปเพราะเมา ภายหลังนายอัมรินทร์เดินเท้าไปบอกย่าที่อีกหมู่บ้านหนึ่ง โดยบอกว่าบีบคอนายวิษณุกรตายแล้ว เนื่องจากนายวิษณุกรเป็นปอบก่อนกลับบอกย่าว่า จะกลับไปเตรียมจัดงานศพรอ ผู้เป็นย่าจึงให้สามีของลูกพี่ลูกน้องของนายวิษณุกรมาดูที่บ้านหลังเกิดเหตุ พบว่านายวิษณุกรเสียชีวิตแล้ว จึงไปแจ้งให้ญาติ คนอื่นๆ ทราบ ก่อนจะแจ้งเจ้าหน้าที่มาชันสูตร

เพื่อนบ้านหลายคน พูดเป็นเสียงเดียวกันว่านายวิษณุกรเป็นคนเกเรไม่ทำการทำงาน ติดเหล้าติดยา พอๆ กับลูกชาย เมามาก็อาละวาดทำร้ายทุบตี ภรรยาซึ่งเป็นแม่ของนายอัมรินทร์ จนทนอยู่ด้วยไม่ไหว ต้องหนีไปมีครอบครัวใหม่ ทั้งเคยพบว่านายวิษณุกร ก็เคยอาละวาดทำร้ายแม่ของตนเช่นกัน และตามใจลูกชาย จนกระทั่งเสียคน แม้จะถูกลูกชายที่ทุบตีทำร้าย ก็ยังปกป้องตามใจไม่ยอมให้เจ้าหน้าที่นำตัวไปควบคุม

อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่ ยังต้องตรวจสอบสอบสวนอย่างหนักเนื่องจาก ไม่มีใครเห็นขณะเกิดเหตุการณ์ทำร้ายนายวิษณุกรจนเสียชีวิต เพราะไม่มีใครเอะใจเนื่องจากนายวิษณุกรมักจะถูกนายอัมรินทร์ทุบตีอยู่เป็นประจำ จนมองเป็นเรื่องธรรมดา ทั้งหวั่นกลัวไม่กล้าเข้าใกล้ เนื่องจากถูกขู่ฆ่า หากเข้าไปยุ่งเกี่ยว ทั้งจากตัวนายวิษณุกรเองและนายอัมรินทร์

อย่างไรก็ตาม ญาติพี่น้องนายวิษณุกรหลายคน ต่างก็ขอร้องเจ้าหน้าที่ตำรวจ ให้ดำเนินการอย่างเฉียบขาดไม่ให้นายอัมรินทร์ออกมารบกวน เพื่อนบ้าน และญาติได้อีก หลายคนถึงขั้นประกาศว่า อยากให้ประหารชีวิตนายอัมรินทร์ จะได้ไม่มาสร้างความเดือดร้อนให้ญาติพี่น้อง และเพื่อนบ้านอีกต่อไป เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ได้ ตั้งข้อหาทำร้ายร่างกายบุคคลอื่น จนถึงแก่ความตาย ไว้ก่อน แล้ว

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เจ้าหน้าที่มอบร่างของนายวิษณุกรให้หน่วยกู้ภัยนเรศวร นำไปตรวจพิสูจน์ ที่โรงพยาบาลหนองบัวลำภู โดยละเอียดอีกครั้ง เพื่อให้แพทย์รับรองสาเหตุการตาย หากมีข้อสงสัยอาจจะส่งไปผ่าพิสูจน์เพื่อหาข้อเท็จจริงอีกครั้ง ที่โรงพยาบาลศูนย์อุดรธานี

ขณะที่พบว่าศพของนายวิษณุกร แข็งตัวคล้ายเสียชีวิตมา หลายชั่วโมง กับกับสภาพอากาศร้อนจัด จึงเริ่มส่งกลิ่น เน่าเหม็นบ้างแล้ว ซึ่งหลายคนก็คาดว่า นายวิษณุกรน่าจะเสียชีวิต ตั้งแต่เดินเข้าบ้าน เมื่อช่วงเวลาประมาณ 13.00 น.แล้ว

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน