เจ้าของเซอร์ไพรส์เลย ทิ้งสวน ไว้ 1 ปี กลับมาอีกทีเพื่อสูบน้ำออก เจอกุ้ง หอย ปูปลา ไซส์บิ๊กทั้งนั้นมาอาศัยอยู่ สามารถจับกินและนำไปขายได้เงินเกือบ 3 แสนบาท

วันที่ 10 ก.ค.2566 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่สวนเกษตรบ้านหยงสตาร์ ม.2 ต.ท่าข้าม อ.ปะเหลียน จ.ตรัง ซึ่งเป็นสวนของ น.ส.ทัศนีย์ สระแก้ว อายุ 49 ปี กำลังสูบน้ำเค็มออกจากสวนเนื้อที่ประมาณ 16 ไร่ โดยพบว่า ภายในสวนที่ตนเองปล่อยทิ้งร้างมานาน 1 ปี เต็มไปด้วยสัตว์น้ำนานาชนิด ทั้งกุ้งกุลาดำหรือกุ้งลายเสือ กุ้งแชบ๊วยหรือกุ้งขาว ปูดำ หอย และปลาหลากชนิด ที่ไหลเข้ามาทางประตูน้ำซึ่งอยู่ติดกับป่าโกงกาง เชื่อมต่อกับแม่น้ำปะเหลียน

และเจริญเติบโตเองโดยไม่มีการให้อาหารใด ๆ ทำให้เจ้าของสวนดีใจเป็นอย่างมาก เพราะจะได้กินสัตว์น้ำที่ปลอดภัย ตัวใหญ่ไซส์บิ๊ก แบบไม่ต้องซื้อหา แถมยังได้ขายสร้างรายได้เกือบ 300,000 บาทในเวลาแค่ 2 วัน

สำหรับกุ้งลายเสือที่จับได้มีขนาด 10-12 ตัวต่อ 1 กิโลกรัม ขายกิโลกรัมละ 800 บาท แพ็กละ 5 ตัว น้ำหนัก 500 กรัม ขาย 400 บาท, กุ้งแชบ๊วย กิโลกรัมละ 400 บาท, ปูดำขนาด 2-3 ตัวต่อกิโลกรัม ขายกิโลกรัมละ 450 บาท, ปลากระบอก กิโลกรัมละ 200 บาท และปลาอื่น ๆ จะขายกิโลกรัมละ 50-100 บาท ทำให้ชาวบ้านที่ทราบข่าว ต่างทยอยกันมาเลือกซื้อถึงสวนอย่างคึกคัก

โดยสวนแห่งนี้แต่เดิมได้ทำสวนเกษตรแบบผสมผสาน มีการขุดร่องน้ำจำนวนหลายร่องเชื่อมต่อกัน เพื่อให้น้ำจากธรรมชาติไหลเข้าสวน และมีประตูน้ำเปิดปิด ป้องกันน้ำทะเลหนุน โดยให้พี่ชายเป็นคนดูแล ส่วนตนเองกับสามีทำธุรกิจอยู่ที่กรุงเทพฯ และจะกลับมาเยี่ยมบ้านปีละ 2-3 ครั้ง ซึ่งพี่ชายมักจะดักจับสัตว์น้ำในสวนขึ้นมาโชว์ เพื่อแสดงให้เห็นว่ามีสัตว์น้ำเข้ามาอาศัยอยู่อย่างชุกชุม

เมื่อน.ส.ทัศนีย์กลับจากกรุงเทพฯ นี้ จึงได้ทำการสูบน้ำในร่องสวนออกทั้งหมด เพื่อเป็นการล้างบ่อและสำรวจปริมาณสัตว์น้ำ ก็พบว่ามีกุ้งหอยปูปลาตัวใหญ่จำนวนมาก โดยเฉพาะกุ้งลายเสือและกุ้งแชบ๊วยมีมากกว่า 300 กิโลกรัม ส่วนปูดำมีมากกว่า 400 กิโลกรัม ซึ่งแสดงให้เห็นถึงความอุดมสมบูรณ์ของธรรมชาติ และปลอดภัย 100 เปอร์เซ็นต์

นอกจากนี้ ยังมีฝูงเหยี่ยวแดงบินว่อนภายในสวน สร้างความตื่นตาตื่นใจให้กับเจ้าของสวนได้เป็นอย่างมาก ซึ่งในอนาคตจะเปิดเป็นแหล่งเรียนรู้เชิงเกษตรดินเค็ม เพื่อให้เยาวชนและประชาชนเข้ามาชมฝูงเหยี่ยว และตกปูตกปลาจากธรรมชาติ นำไปทำเป็นอาหาร ลดรายจ่าย สร้างรายได้อีกทางหนึ่งด้วย

น.ส.ทัศนีย์ กล่าวว่า ปล่อยแหล่งน้ำตามธรรมชาติ ซึ่งเรามีประตูน้ำเขาเลยได้อาหารจากแพลงตอน เราเลยมีกุ้ง มีปลา หอยและสัตว์ต่าง ๆ จำนวนมากเหมือนอยู่ในทะเลเพราะตรงนี้เป็นน้ำเค็ม คือเป็นสัตว์น้ำที่เข้ามาเองตามธรรมชาติ คิดว่าอุดมสมบูรณ์มาก สัตว์น้ำต่าง ๆ อยู่กันกระจัดกระจาย มีปลาตีนและหอยแปลก ๆ เช่นหอยสันขวาน ซึ่งเป็นหอยที่โตตามธรรมชาติ ซึ่งแหล่งน้ำที่ไหนอุดมสมบูรณ์ก็จะมีหอยพวกนี้อยู่

น.ส.ทัศนีย์ กล่าวต่อว่า ซึ่งในอนาคตอยากเปิดเป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงเกษตร แต่ต้องดูจังหวะและโอกาสก่อน เพราะตนอยู่แล้วมีความสุข ได้อยู่กับธรรมชาติ และอยากให้คนอื่นมีความสุขเหมือนตนเย็น ๆ อากาศดีและที่นี่มีฝูงเหยี่ยวมาบินว่อนแถวนี้เยอะมากเลย ซึ่งเป็นธรรมชาติที่หาได้ยาก และตนโชคดีที่มีตรงนี้ จึงอยากให้คนอื่นเข้ามาชม เข้ามาเที่ยว มาสัมผัสบรรยากาศยามเย็นที่เดินรอบ ๆ สวนก็จะพบปูและกุ้งมาเดินให้เห็น โดยใช้วิธีส่องไฟ ซึ่งเขาก็จะซ่อนจะแอบอยู่แต่เราก็สามารถมองเห็นได้

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน