หญิงฝรั่งเศส รับสารภาพทำร้ายชายไทย เจ้าของร้านของชำที่เกาะสมุย หลังโมโหกระทำอนาจารลูกชาย ปฏิเสธข้อหาทำให้เสียทรัพย์ ส่งศาลผัดฟ้อง-ฝากขัง

จากกรณีหญิงฝรั่งเศสร้อง คนไทยกระทำอนาจาร ลูกอ้างตร.บอกให้ยอมความนั้น สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 2 ก.ย.66 เวลาประมาณ 09.00 น. ขณะที่ ร.ต.อ.ระวิ ณ บุญโณ ปฏิบัติหน้าที่พนักงานสอบสวนเวร ได้รับแจ้งเหตุทะเลาะวิวาทที่ร้านค้าไม่มีเลขที่ ซ.หลังราซกัฏ ม.6 ต.บ่อผุด อ.เกาะสมุย จ.สุราษฎร์ธานี ต่อมาเวลา 10.00 น. มีน.ส.แครา อายุ 31 ปี สัญชาติฝรั่งเศส และนายปราโมทย์ อายุ 67 ปี คู่กรณีทั้ง 2 ฝ่าย มาพบพนักงานสอบสวน จึงประสานล่ามภาษาฝรั่งเศสมาแปลภาษา

เบื้องต้นทราบว่า น.ส.แครา แจ้งว่าลูกชายของตนอายุ 7 ขวบ ถูกนายปราโมทย์กระทำอนาจารลูกชาย ที่ร้านของนายปราโมทย์ ตนจึงไปหานายปราโมทย์ที่ร้าน เมื่อสื่อสารกันไม่เข้าใจ น.ส.แครา ก็ใช้มือตบที่ใบหน้าของนายปราโมทย์ แล้วทำลายทรัพย์สินของนายปราโมทย์ที่วางอยู่ในร้านล้มลงบนพื้นได้รับความเสียหาย ซึ่งน.ส.แครา ขอพูดคุยเจรจากับคู่กรณีก่อนว่าจะเอาอย่างไรต่อกัน เนื่องจากต่างฝ่ายต่างประสงค์จะแจ้งความดำเนินคคี ขณะนั้นน.ส.แครา มีอาการเครียดขอกลับไปพักผ่อนก่อน และจะมาพบพนักงานสอบสวน เพื่อแจ้งความดำเนินคดีอีกครั้ง

พฤติการณ์แห่งคดีคือ เมื่อวันที่ 2 ก.ย. 2566 เวลา 08.30 น. ที่ผ่านมา น.ส.แครา ซึ่งพักอาศัยอยู่ใกล้กับที่เกิดเหตุ เดินมากับลูกชาย อายุ 7 ปี และซื้อเครื่องดื่มที่ร้านค้าของนายปราโมทย์หลังจากนั้นทั้ง 2 คนออกจากร้านไป ต่อมาเมื่อน.ส.แครา ประสงค์จะคืนกุญแจห้องพักเนื่องจากจะย้ายที่พักใหม่ ก็ไม่ทราบว่าลืมกุญแจไว้ที่ใด ลูกชายจึงอาสาไปหากุญแจที่ร้านค้าให้

เมื่อผ่านไปประมาณ 1 นาที ลูกชายวิ่งมาบอกว่า พ่อค้าที่ร้านกระทำอนาจาร ลูกจึงรีบวิ่งออกมา เมื่อน.ส.แคราทราบเรื่องแล้ว ก็ชวนเพื่อนชายต่างชาติอีกคนไปที่ร้านของนายปราโมทย์ พบนายปราโมทย์สวมผ้าถุงไม่สวมเสื้ออยู่ในร้าน จึงเข้าไปสอบถาม แต่พูดจาสื่อสารกันไม่เข้าใจ จึงเกิดความไม่พอใจ จึงใช้มือผลักชั้นวางสินค้าและหยิบสินค้าอื่นๆในร้านเวี้ยงลงบนพื้นได้รับความเสียหาย แล้วใช้มือตบใบหน้าของนายปราโมทย์ จากนั้นก็มีเพื่อนต่างชาติของน.ส.แครา เข้ามาผลักหน้าอกนายปราโมทย์จนกระเด็นไปกระแทกกับโต๊ะล้มลงได้รับบาดเจ็บ

ต่อมาวันที่ 3 ก.ย.66 เวลา 20.18 น. ที่ผ่านมา น.ส.แครา มาพบพนักงานสอบสวนเวร เพื่อประสงค์ดำเนินคคีกับนายปราโมทย์ ที่กระทำอนาจารลูกของคน ทำการสอบสวนปากคำ และรับคำร้องทุกข์เป็นคคีอาญาที่ 553/2566 ต่อมาวันที่ 15 ก.ย. 2566 เวลา 17.00 น. ที่ผ่านมา นายปราโมทย์ เข้าพบหนักงานสอบสวน

จึงแจ้งข้อกล่าวหาให้ทราบว่า “กระทำอนาจารแก่เด็กยายุยังไม่เกินสิบห้าปี โดยเด็กนั้นจะยินยอมหรือไม่ก็ตาม” นายปราโมทย์ ให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา ปัจจุบันคดีอยู่ระหว่างการสอบสวน เนื่องจากต้องรอรายงานชันสูตรบาดแผล การตรวจร่างกายลูกชายผู้เสียหาย จากแพทย์ รพ.เกาะสมุย และสอบสวนแพทย์ผู้ชันสูตร และจะสรุปสำนวนการสอบสวนต่อไป

ต่อมาวันที่ 4 ก.ย.66 เวลา 18.30 น. ที่ผ่านมา นายปราโมทย์ มาพบพนักงานสอบสวน เพื่อประสงค์ดำเนินคดีกับ น.ส.แครากับพวก ที่ร่วมกันทำร้ายร่างกายและทำให้เสียทรัพย์ โดยทรัพย์สินเสียหายเป็นเงิน 10,470 บาท ได้สอบสวนปากคำและรับคำร้องทุกข์เป็นคดีอาญาที่ 572/2566

ต่อมาวันที่ 25 ก.ย. ที่ผ่านมา น.ส.แครา เข้าพบพนักงานสอบสวน จึงสอบสวนปากคำแจ้งข้อกล่าวหา “ร่วมกันทำร้ายร่างกายผู้อื่นจนเป็นเหตุให้เกิดอันตรายแก่กายหรือจิตใจและทำให้เสียทรัพย์ น.ส.แครา รับสารภาพข้อหาทำร้ายผู้กล่าวหา และปฏิเสธข้อหาทำให้เสียทรัพย์ แต่รับข้อเท็จจริงว่า ทำลายทรัพย์สินจริง แต่ทรัพย์ที่เสียหายนั้นไม่ตรงตามราคาที่ผู้กล่าวหาร้องทุกข์ ในวันเดียวกันพนักงานสอบสวน นำตัวพร้อมหนังสือเดินทางไปยังศาลจังหวัดเกาะสมุยเพื่อผัดฟ้อง-ฝากขัง

ต่อมาสรุปสำนวนการสอบสวนมีความเห็นควรสั่งฟ้อง ส่งสำนวนการสอบสวนไปยังพนักงานอัยการจังหวัดเกาะสมุยแล้ว เมื่อวันที่ 4 ต.ค.ที่ผ่านมา ปัจจุบันคดีอยู่ชั้นอัยการ ทั้ง 2 คดีนี้ขอชี้แจงให้ทราบว่า พนักงานสอบสวน สอบสวนด้วยความรวดเร็ว ต่อเนื่องและเป็นธรรม

โดยคดีที่นายปราโมทย์เป็นผู้ต้องหานั้น หากได้รับรายงานผลการชันสูตรบาดแผลของผู้เสียหายแล้ว จะสอบสวนแพทย์ผู้ชันสูตรโดยเร็ว และสรุปสำนวนการสอบสวน ส่วนคดีที่น.ส.แครา เมื่อแจ้งข้อกล่าวหาแล้ว ก็นำตัวพร้อมด้วยหนังสือเดินทาง ไปยังศาลจังหวัดเกาะสมุย เพื่อผัดฟ้อง-ฝากขัง โดยที่พนักงานสอบสวนไม่ได้ยึดหนังสือเดินทางไว้แต่อย่างใด

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน