คณะสงฆ์จังหวัดเชียงราย สั่งปลดออกจากตำแหน่งพระ 5 รูปโผล่วงเล่นพนัน เผย ไปกิจนิมนต์ที่ท่าขี้เหล็ก ฝั่งเมียนมา อ้างการละเล่นเป็นประเพณีของท้องถิ่น แต่ทั้งหมดหนีกันไปหมดแล้ว

วันที่ 11 ต.ค.2566 จากกรณีเพจ “คุณท้าวศรีสุวรรณภิรมย์ภักดี” โพสต์ภาพชายศีรษะโล้น สวมใส่จีวรคล้ายพระอยู่ในวงเล่นการพนัน ทั้งไฮโล และน้ำเต้าปูปลา พร้อมข้อความระบุว่า “6 4 เอี่ยว เจริญพร น้ำเต้า ปู ปลา เลขารองเจ้าคณะภาค และเจ้าอาวาสวัดดังใน อ.เมืองเชียงราย ทำแบบนี้ได้หรอเจ้าคะ สำนักพุทธตรวจสอบด่วน

ล่าสุดเรื่องนี้ พระพุทธิญาณมุนี เจ้าคณะจังหวัดเชียงราย มีคำสั่งให้คณะสงฆ์จังหวัดเชียงราย เร่งตรวจสอบข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้น โดยมอบหมายให้พระครูสิริธรรมนิวิฐ เจ้าคณะอำเภอเมืองเชียงราย ร่วมกับ นายโสไกร ใจหมั้น ผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัดเชียงราย และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ประชุมหารือที่วัดศรีบุญเรือง เขตเทศบาลนครเชียงราย เพื่อสอบสวนข้อเท็จจริงและวางมาตรการบทลงโทษกับคณะสงฆ์ที่ปรากฏในภาพ

หารือ

นายโสไกร เปิดเผยว่า จากการตรวจสอบพบว่าเหตุการณ์นี้เกิดขึ้นจริงตั้งแต่วันที่ 4 ต.ค.ที่ผ่านมา โดยมีพระสงฆ์ในจ.เชียงราย จำนวน 5 รูปได้รับกิจนิมนต์ ร่วมงานวัดเวียงแก้ว ในพื้นที่จ.ท่าขี้เหล็ก ประเทศเมียนมา ตรงข้ามชายแดนอ.แม่สาย จ.เชียงราย ประกอบด้วยเจ้าคณะตำบล 1 รูป เจ้าอาวาสวัด 2 รูป และพระลูกวัดอีก 2 รูป อยู่ แต่เพิ่งจะมาเป็นข่าวในสื่อสังคมออนไลน์ในช่วงวันที่ 10 ต.ค.ที่ผ่านมา

สำนักพุทธฯจ.เชียงราย ไม่ได้นิ่งนอนใจได้ร่วมกับคณะสงฆ์เชียงราย ตั้งกรรมการสอบสวนในทันที ซึ่งพระสงฆ์ทั้ง 5 รูปยอมรับว่าเป็นบุคคลในภาพจริง อ้างว่าการละเล่นเหล่านั้นเป็นประเพณีของท้องถิ่นที่เล่นกันอย่างแพร่หลาย แต่ก็ถือเป็นการกระทำผิดวินัยของสงฆ์และเป็นเรื่องที่เหมาะสม วันนี้จึงนัดหมายประชุมเพื่อพิจารณาบทลงโทษกันอีกครั้ง แต่ปรากฏว่าพระสงฆ์ทั้ง 5 รูปหลบหนีไปทั้งหมด ทำให้ไม่ได้มีการสอบสวนเพิ่มเติม หรือดำเนินการบทลงโทษ

ฉาว

นายโสไกร กล่าวต่อว่า จากการพิจารณาของคณะสงฆ์อย่างถี่ถ้วนได้มีมติและคำสั่งให้ปลดพระสงฆ์ทั้ง 5 รูปออกจากตำแหน่งที่มีอยู่ทั้งหมด โดยไม่สามารถยุ่งเกี่ยวกับคณะสงฆ์หรือกับวัดต่างๆได้อีก แต่ยังไม่ถึงขั้นที่ปาราชิกเพราะถือเป็นความผิดวินัยที่ยังไม่ร้ายแรงมากนัก และผู้กระทำผิดยังไม่ได้ชี้แจงโดยละเอียดเพราะหลบหนีไปก่อน ส่วนโทษจะถึงปาราชิกหรือไม่นั้นจะมีการพิจารณาอีกครั้ง

” และเพื่อไม่ให้เกิดเหตุการณ์เช่นนี้ซ้ำขึ้นมาอีกได้มีการวางกฎสำหรับพระภิกษุที่จะเดินทางไปยังประเทศเพื่อนบ้านจะต้องได้รับอนุญาตจากวัดหรือคณะสงฆ์ระดับอำเภอ หรือระดับจังหวัดเสียก่อน และต้องมีกิจนิมนต์มาแสดงว่าให้ไปร่วมงานจริง ไม่สามารถที่จะเดินทางโดยพละการได้อีก

ไฮไล

อยากฝากเตือนให้พระภิกษุสงฆ์ไม่ควรเข้าไปร่วมในวงอโคจร เป็นเรื่องไม่ดีและไม่เหมาะสมควรหลีกเลี่ยงเข้าไปในทุกสถานการณ์ แม้กิจกรรมเหล่านั้นจะเป็นเรื่องปกติของท้องถิ่นนั้นๆ เป็นภาพที่ไม่งามและทำให้ภาพพระสงฆ์ได้รับความเสื่อมเสีย “

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน